สื่อของเกาะอังกฤษ ตีข่าว แมนฯ ยูไนเต็ด จะประกาศถึงการทำรายได้เมื่อซีซั่นก่อนได้สูงเป็นสถิติที่จำนวนราว 420 ล้านปอนด์ โดยหลักๆ มาจากยอดขายชุดแข่งที่มีคนซื้อมากไปถึง 2 ล้านตัว

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตรียมที่จะประกาศในวันพุธที่ 10 กันยายนนี้ว่า พวกเขาสามารถทำรายได้จากเมื่อฤดูกาลก่อนได้สูงเป็นสถิติที่ราว 420 ล้านปอนด์ (ประมาณ 23,100 ล้านบาท) ตามรายงานของ เดลี่ เมล สื่อชื่อดังของเมืองผู้ดี เมื่อวันอังคารที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา

ถึงแม้ในซีซั่นที่แล้ว "ปีศาจแดง" จะมีผลงานที่ย่ำแย่ จากการที่จบเป็นอันดับ 7 ของฤดูกาล แต่พวกเขาก็ยังทำรายได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ฟันรายได้เป็นจำนวนมหาศาลนั้น มาจากการที่พวกเขาขายชุดแข่งทั่วโลกได้ถึง 2 ล้านตัว จนฟันกำไรจากด้านนี้ไป 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,375 ล้านบาท) ด้วยกัน

สำหรับตัวเลขดังกล่าวนั้น ถูกเปิดเผยในฐานะบทสรุปความก้าวหน้าสำหรับตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยมันแสดงให้เห็นว่าค่าชดเชยที่จ่ายให้ เดวิด มอยส์ อดีตผู้จัดการทีมชาวสกอตต์ กับทีมสตาฟฟ์ของเขา ถือเป็นเงินก้อนโตพอตัว แต่มันก็เทียบกับรายได้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เพิ่มขึ้น 18 หรือ 19 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่รู้ว่าการที่ "ปีศาจแดง" ไม่ได้เล่นถ้วยยุโรปในฤดูกาลนี้ จะทำให้ทีมขาดทุนไปมากเท่าไหร่

รายงานความคืบหน้าดังกล่าว ระบุว่า "ชุดแข่ง และเสื้อซ้อมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีการออกแบบใหม่ทุกฤดูกาล การเปิดตัวชุดแข่งตัวใหม่ประจำปีเป็นวันที่แฟนๆ ทั่วโลกของเราคาดหวังอย่างมากอยู่เสมอ ผลลัพธ์ก็คือยอดขายอันมหาศาลจากการที่สินค้าลิขสิทธิ์ของ แมนชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถขายได้ถึงราว 5 ล้านชิ้น จากตลาดทั่วทั้งโลกเมื่อปีก่อน ซึ่งในนั้นมียอดขายชุดแข่งจำนวนราว 2 ล้านตัวรวมอยู่ด้วย" 

ทั้งนี้ เป็นที่เชื่อกันว่า ยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะนำกำไรทุกบาททุกสตางค์จากรายได้ในครั้งนี้ ไปใช้ชำระหนี้ก้อนโตของทีมต่อไป