ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวเตรียมขายสโมสร หลังจาก จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ เจ้าของทีม หิ้วที่ปรึกษาคู่ใจเดินทางไปนครดูไบเพื่อพบกับนักธุรกิจรายใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับราชวงศ์ดูไบที่เคยต้องการเทคโอเวอร์ทัพ "หงส์แดง" มาก่อน แม้สโมสรจะพยายามยืนยันว่านี่เป็นการเดินทางไปเจรจาธุรกิจส่วนตัวก็ตาม

จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ เจ้าของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมพลาดเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่บุกไปเยือน เรอัล มาดริด สโมสรมหาอำนาจแห่ง ลา ลีกา สเปน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อเดินทางไปพบกับ มาร์วาน อเบดิน นักธุรกิจรายใหญ่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสมาชิกราชวงศ์ อัล มัคทูม ของนครดูไบ ที่เคยยื่นข้อเสนอของเทคโอเวอร์ถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อปี 2007

เฮนรี่ เดินทางไปดูไบพร้อมกับ ลินดา ภรรยาของเขา และ ริค แพร์รี่ อดีตประธานบริหารทัพ "หงส์แดง" แม้สโมสรจะยืนยันว่าเป็นการเดินทางไปเพื่อพูดคุยเรื่องธุรกิจส่วนตัว แต่เขาได้พบกับ อเบดิน ประธานบริหารบริษัท ดูไบ เฮลธ์แคร์ ซิตี้ และบอร์ดบริหารบริษัท เอมาร์ ผู้สร้าง เบิร์จ คาลิฟา ตึกสูงที่สุดในโลก ซึ่งมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคทูม รองประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีสหรัญอาหรับเอมิเรตส์ และกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญของดูไบ

บางรายงานระบุว่า เฮนรี่ เดินทางไปเพื่อเจรจาตกลงเรื่องการเป็นสปอนเซอร์มูลค่า 75 ล้านปอนด์ (ราว 4,125 ล้านบาท) ในการสร้างอัฒจันทร์หลักใหม่ที่สนามแอนฟิลด์ นอกจากนี้ เฮนรี่ และภรรยาของเขายังมีความสนใจร่วมกันกับ อเบดิน เรื่องการดูแลสุขภาพ หลังจากมูลนิธิ จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ องค์กรการกุศลของเจ้าของ ลิเวอร์พูล เคยประกาศว่าหนึ่งในเป้าหมายหลักขององค์กรคือหาทุนช่วยเหลือวิจัยและสอนเรื่องการดูแลสุขภาพ

แต่การปรากฏตัวของ แพร์รี่ ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาให้ เอ็นอีเอสวี บริษัทของ เฮนรี่ ที่ใช้ซื้อ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2010 ทำให้เกิดความสงสัย โดยเขาปฏิเสธเรื่องการตระเวนทัวร์ตะวันออกกลางในนามของสโมสรเพื่อหานักลงทุน แต่เขาเพียงแค่ช่วยเหลือ เฮนรี่ เพราะเขามีเส้นสายที่ดีในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิอาระเบีย

อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องหาสปอนเซอร์คาดอกเสื้อรายใหม่เมื่อสัญญามูลค่า 20 ล้านปอนด์ (ราว 1,100 ล้านบาท) กับ สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด หมดลงตอนจบฤดูกาลหน้า และ เฮนรี่ ต้องการพัฒนาสายสัมพันธ์กับภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อเปิดโอกาสทางการตลาด แต่ปฏิเสธเรื่องการขายหุ้นให้กับนักลงทุนมาโดยตลอด