ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2557

คริสตัล พาเลซ 3-1 ลิเวอร์พูล
 

สนาม : เซลเฮิร์ทส์ พาร์ค

         เกมคู่แรกประเดิมวันอาทิตย์ภายใต้ฝนพรำที่ กรุงลอนดอน  คริสตัล พาเลซ เปิดรังพบ ลิเวอร์พูล กุนซือ นีล วอร์น็อค ส่ง มาร์ติน เคลลี่ แบ็กขวาลงเจอทีมเก่า ขณะที่แดนหน้ามีตัวแสบอย่าง ดไวท์ เกย์ล คอยเล่นงานแนวรับทีมเยือน

          ฝั่ง "หงส์แดง"ไม่มี มาริโอ บาโลเตลลี่ ศูนย์หน้าเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ส่วน จอร์แดน แฮนเดอร์สัน ห้องเครื่องป่วยเป็นไข้ กุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ใช้ ริคกี้ แลมเบิร์ต และ โจ อัลเลน ลงแทนตามลำดับ

          เริ่มเกมไม่ถึงสองนาทีอาคันตุกะก็ขึ้นนำ การประสานงานของอดีตนักเตะ เซาธ์แฮมป์ตัน เป็น อดัม ลัลลาน่า โชว์วิสัยทัศน์ชิพบอลจากหน้าเขตโทษข้ามแผงหลัง พาเลซ ให้ ริคกี้ แลมเบิร์ต วิ่งสอดแต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนแปผ่าน ฮูเลียน สเปโรนี่  ตุงตาข่าย ประเดิมประตูแรกของเจ้าตัวกับสังกัดใหม่สำเร็จ

           "ดิ อีเกิ้ลส์" ที่แทบไม่ออกอาวุธใช้โอกาสจะแจ้งหนแรกในนาทีที่ 17 ตีเสมอ  โจ เล็ดลี่ย์ แย่งบอลได้ตรงกลางสนามเลี้ยงตะลุยกินแดนขึ้นหน้าแล้วจ่ายให้ ยานนิค โบลาซี่ ต้องป้อมยิงด้วยขวาจากระยะ 25 หลาลูกพุ่งเรียดชนเสาฝั่งซ้ายแต่ไม่พ้นอันตราย ดไวท์ เกย์ล ที่ยืนอยู่ใกล้สุดแปโล่งๆเข้าประตู

          เกย์ล ถือเป็นตัวแสบของ "หงส์แดง"หลังเคยยิง 2 ประตู ท้ายซีซั่นก่อนจนถ้วยแชมป์ลีกกระเด็นหลุดมือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และเป็นลูกที่ 4 จาก 3 นัดหลังสุดที่พบกับ ลิเวอร์พูล

          แม้จะเป็นทีมเยือนที่ครองบอลบุกดดันแต่จังหวะสวนกลับของ "ดิ อีเกิ้ลส์"ได้น้ำได้เนื้อกว่า เกมผ่านครึ่งชั่วโมง บอลต่อเป็นทอดมาถึง ยานนิค โบลาซี่ หน้าเขตโทษลองตั้งป้อมกดลูกกระดอนพื้นกำลังเสียบโคนเสาแต่ ซิมง มิโญเล่ต์ พุ่งปัดออกหลังได้ทัน

         ก่อนหมดครึ่งแรกสองนาที พาเลซ ได้ลุ้นประตูขึ้นนำลูกโต้กลับจากฟรีคิกแดนตัวเอง โบลาซี่ ลากตะบึงมาคนเดียวก่อนชิ่งกับ เจสัน พันเชี่ยน ตรงหน้าเขตโทษและเป็นตัวรุก คองโก กดด้วยขวาลูกพุ่งเข้ากรอบแต่ ฆาเบียร์ มานกีโย่ บล็อกออกหลัง และนั่นเป็นโอกาสสุดท้ายของ 45 นาทีด้วยผลเสมอ 1-1

        กลับมาต่อครึ่งหลัง นาที 56 ลิเวอร์พูล พลาดโอกาส เจอร์ราร์ด เปิดเตะมุมไปลุ้นหน้าประตู บอลขลุกขลุกก่อนหลุดไปถึง มาร์ติน สเคอร์เทล ยิงระยะเผาขนหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง

         ผ่านมาถึงช่วง 12 นาทีสุดท้าย พาเลซ เป็นฝ่ายแซงนำ 2-1 โบลาซี่ ได้บอลทุ่มจากกราบขวาก่อนกระดกข้ามหัว เดยัน ลอฟเรน แล้วควบเข้าเขตโทษก่อนตบเข้ากลางให้ เล็ดลี่ย์ วิ่งเข้ามาแปเรียดด้วยซ้ายลอดขา มิโญเล่ต์ ตุงตาข่าย

         "ปราสาทเรือนแก้ว" ยิ่งเล่นยิ่งคึกก่อนมาบวกเพิ่มใน นาที 82 จากฟรีคิกหน้าเขตโทษ เยดินัค ปั่นด้วยขวาบอลลอบโค้งข้ามกำแพงก่อนเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงามเป็นประตู 3-1

         เข้าช่วงทดเจ็บ 2 นาที พาเลซ เกือบบวกเพิ่ม เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ตัวสำรอง ลุยเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนตบเข้ากลางให้ เล็ดลี่ย์ ยิงด้วยซ้ายแต่เบาไปเลยหลุดกรอบออกไป จบเกม พาเลซ แซงชนะ ลิเวอร์พูล 3-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

คริสตัล พาเลซ : ฮูเลี่ยน สเปโรนี่, มาร์ติน เคลลี่, สกอตต์ แดนน์, เดเมี่ยน เดลานี่ย์ (เบรเด้ ฮันเกลันด์ น.36), โจเอล วอร์ด, เจสัน พันเชียน (เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ น.75), มิเล่ เยดินัค, โจ เล็ดลี่ย์, ยันนิก โบลาซี่ (แบร์รี่ แบนแน่น น.86), มารูอาน ชามัค, ดไวท์ เกย์ล

สำรองไม่ได้ใช้ : เวย์น เฮนเนสซี่ย์ (ผู้รักษาประตู), วิลฟรีด ซาฮา, แอนดรูว์ จอห์นสัน, เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์

ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์, ฆาบี มานกีโย่, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, เกล็น จอห์นสัน, โจ อัลเล่น (เอ็มเร่ ชาน น.73), สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อดัม ลัลลาน่า (ฟาบิโอ บอรินี่ น.71), ริคกี้ แลมเบิร์ต

สำรองไม่ได้ใช้ : แบรด โจนส์ (ผู้รักษาประตู), โคโล่ ตูเร่, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, ลูคัส เลว่า, ลาซาร์ มาร์โควิช

ผู้ตัดสิน : โจนาธาน มอสส์