ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2557
ยูเวนตุส 2-1 โตริโน่

สนาม : ยูเวนตุส สเตเดี้ยม

          เริ่มมาทีมเยือนได้ฟรีคิกเยื้องจากซ้าย จูเซ็ปเป วิเวส เขี่ยให้ กวายาเรลล่า ตะบันเต็มข้อด้วยขวา แต่ สโตรารี่ ยังรับเข้าซองไม่มีปัญหา

          "ม้าลาย" มาได้จุดโทษในนาทีที่ 13 เมื่อ อันเดรีย ปีร์โล่ ซัดฟรีคิกไปโดน โอมาร์ เอล คัดดูรี่ ที่ยกแขนขึ้นมาสูง เชิ้ตดำเป่าเป็นลูกแฮนด์บอลทันที โดย อาร์ตูโร่ วิดาล รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ขึ้นนำ 1-0

          อย่างไรก็ตาม "กระทิงหิน" ตามตีเสมอเป็น 1-1 ในอีก 9 นาทีต่อมา จากจังหวะที่ บรูโน่ เปเรส ได้บอลหน้าปากประตูตัวเอง กระชากขึ้นทางขวาหลบทั้ง ปอล ป๊อกบา, ปาทริซ เอวร่า และ วิดาล ก่อนตะบันเบียดเสาสองเข้าไปอย่างสุดยอด อันถือเป็นประตูแรกที่ โตริโน่ ทำได้ในเกมดาร์บี้นับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 2002 ด้วย

          จากนั้นเกมเป็นไปแบบสูสี จนท้ายครึ่งแรกโอกาสเป็นของเจ้าถิ่น ป๊อกบา แทงทะลุช่องเข้าเขตโทษทางซ้ายให้ เอวร่า ปาดเรียดกลับเข้ากลาง และเป็น วิดาล ชาร์จข้ามคานอย่างน่าเสียดาย จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเจ๊ากันไปก่อน 1-1

          เปิดฉากครึ่งหลัง "อิล โตโร่" เกือบได้ อเมารี หลุดขึ้นทางซ้าย ก่อนปาดเรียดเข้ากลางให้ กวายาเรลล่า สไลด์ชาร์จบอลถากข้างเสาออกหลังไปหวุดหวิด

          เจ้าบ้านตอบโต้บ้าง เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ เติมขึ้นมากระหน่ำด้วยขวาจากระยะประมาณ 35 หลา ทว่า ฌอง ฟร็องซัวส์ ชิลเล่ต์ ยังพุ่งปัดที่เสาแรกได้ทัน ก่อนที่ คามิล กลิค จะเตะเคลียร์ทิ้งไปก่อน

          นาทีที่ 76 พลพรรค "เบียงโคเนรี่" ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายได้ เมื่อ เตเวซ ไหลออกขวาให้ โรแบร์โต้ เปเรียร่า ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง ปาดกลับเข้ากลาง และเป็น วิดาล ที่ชาร์จเข้าไป แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าแล้ว

          2 นาทีต่อมา แชมป์เก่าต้องมาเหลือ 10 คน หลัง สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ ไปทำฟาวล์ เอล คัดดูรี่ กรรมการชักใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

          ช่วงเวลาที่เหลือ ผู้มาเยือนอาศัยตัวผู้เล่นที่มากกว่าโหมพยายาม แต่กลับเป็นเจ้าถิ่นที่มาได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บอย่างเหลือเชื่อ เมื่อ วิดาล ไหลให้ ปีร์โล่ ตะบันด้วยขวาจากระยะราว 25 หลา บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม จบเกม ยูเว่ เฉือนชนะ โตริโน่ ฉิวเฉียด 2-1 นำเป็นจ่าฝูงต่อไป

          รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
          ยูเวนตุส : มาร์โก สโตรารี่; สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, ปาทริซ เอวร่า; เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ (โรแบร์โต้ เปเรียร่า น.64), อันเดรีย ปีร์โล่, ปอล ป๊อกบา; อาร์ตูโร่ วิดาล; คาร์ลอส เตเวซ (อันเจโล่ อ็อกบอนน่า น.83), เฟร์นานโด ยอเรนเต้ (อัลบาโร่ โมราต้า น.58)
          โตริโน่ : ฌอง ฟร็องซัวส์ ชิลเล่ต์; นิโคล่า มัคซิโมวิช, คามิล กลิค, เอมิเลียโน่ โมเร็ตติ; บรูโน่ เปเรส, อเลสซานโดร กัซซี่, จูเซ็ปเป้ วิเวส (มาร์โก เบนัสซี่ น.53), โอมาร์ เอล คัดดูรี่ (ฮวน ซานเชซ มิโน่ น.90), มัตเตโอ ดาร์เมียน; อเมารี, ฟาบิโอ กวายาเรลล่า (มาร์เซโล่ ลาร์รอนโด้ น.72)
          ผู้ตัดสิน : ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้

ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2557
โรม่า 4-2 อินเตอร์ มิลาน

สนาม : โอลิมปิโก

          "หมาป่าเหลือง-แดง" เดินหน้าบุกตามสไตล์ แชร์วินโญ่ เล่นโต้กลับเร็วจ่ายจากขวาเข้าเขตโทษ บอลมาถึง มิราเล็ม ปานิช ได้ซัด แต่ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ยังป้องกันเอาไว้ได้

          เจ้าถิ่นมาได้ประตูก่อนในนาทีที่ 22 ไมค่อน ไหลทางขวาให้ ลายิช หลุดถึงเส้นหลัง ก่อนปาดเรียดเข้ากลาง และเป็น แชร์วินโญ่ ชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือ ขึ้นนำ 1-0

          พลพรรค "งูใหญ่" ตอบโต้ทันควัน ออสวัลโด้ จ่ายให้ ซดราฟโก้ คุซมาโนวิช กดด้วยขวา แต่ มอร์แกน เด ซานช์ติส ยังเซฟออกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม

          นาทีที่ 34 เจ้าบ้านส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายอีกครั้ง เมื่อ ลายิช ปาดเรียดจากขวาให้ แชร์วินโญ่ ชาร์จเข้าไปเหมือนเดิม แต่คราวนี้เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน

          2 นาทีต่อมา กลายเป็นทีมเยือนที่ตามตีเสมอ 1-1 จากลูกเตะมุมที่ อันเดรีย ราน็อคเคีย หนุนขึ้นมาโหม่งเสียบตาข่าย

          เกมกลับมาสูสีใหม่ แชร์วินโญ่ กระชากเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ทว่า ราน็อคเคีย พุ่งบล็อกได้อย่างหวุดหวิด จบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเจ๊ากันไปก่อน 1-1

          เริ่มครึ่งหลังแค่ 2 นาที "จัลโล่รอสซี่" มาออกนำใหม่ 2-1 จากความสามารถเฉพาะตัวของ โฮเซ่ โฮเลบาส ที่กระชากหนี อูโก้ คัมปันญาโร่ ทางซ้าย ก่อนแตะอ้อม ราน็อคเคีย ในกรอบเขตโทษ แล้วตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด

          ผู้มาเยือนยังไม่ยอม ลูกเปิดจากฝั่งขวา ออสวัลโด้ พักอก ก่อนกระโดดตีลังกายิงกลับหลัง บอลพุ่งหลุดเสาไปนิดเดียว

          "เนรัซซูร์รี่" มาตีเสมออีกครั้งเป็น 2-2 ในนาทีที่ 54 โดโด้ ครอสจากซ้ายเข้ากลางให้ ออสวัลโด้ ซัดแฉลบขา ดาวิเด้ อัสตอรี่ เปลี่ยนทางเข้าไป

          อย่างไรก็ตาม 3 นาทีต่อมา แชร์วินโญ่ เลี้ยงลุยถึงเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนไหลเข้ากลางให้ ต๊อตติ ชาร์จติดบล็อก แต่ ต๊อตติ ที่ล้มไปแล้วยังจิ้มให้ ปานิช ตะบันจ่อๆ ไม่พลาด ช่วยให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 3-2 และจังหวะนี้ โรแบร์โต้ มันชินี่ เทรนเนอร์ อินเตอร์ ประท้วงผู้ตัดสินเกินเหตุ ทำให้โดนใบแดงไล่ขึ้นไปบนอัฒจันทร์ด้วย

          ทีมเยือนตั้งต้นใหม่ แกรี่ เมเดล มีโอกาสส่องไกลจากระยะประมาณ 20 หลา ทว่า เด ซานช์ติส ยังปัดออกหลังทัน

          ช่วงเวลาที่เหลือ อินเตอร์ ยังพยายามเดินหน้าหวังเอาประตูตีเสมอให้ได้ แต่กลับมาโดนเพิ่มตอนทดเจ็บ จากฟรีคิกของ ปานิช ที่ซัดเข้าไปอย่างสวยงาม พร้อมเป็นเม็ดที่สองของเจ้าตัวด้วย จบเกม โรม่า ทุบชนะสุดมันส์ 4-2 ไล่หลัง ยูเวนตุส ทีมจ่าฝูง 3 คะแนนเท่าเดิม

          รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
          โรม่า : มอร์ แกน เด ซานช์ติส; ไม่ค่อน, คอสตาส มาโนลาส, ดาวิเด้ อัสตอรี่, โฮเซ่ โฮเลบาส; มิราเล็ม ปานิช, เซย์ดู เกอิต้า (ดานิเอเล่ เด รอสซี่ น.64), รัดย่า นาอิงโกลัน; อเด็ม ลายิช (อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ น.63), ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ (ฮวน อิตูร์เบ้ น.85), แชร์วินโญ่
          อินเตอร์ : ซา เมียร์ ฮันดาโนวิช; อูโก้ คัมปันญาโร่, อันเดรีย ราน็อคเคีย, ฮวน เฮซุส, โดโด้ (เมาโร อิการ์ดี้ น.82); ยานน์ เอ็มวีล่า (มาเตโอ โควาซิช น.67), แกรี่ เมเดล (โจเอล โอบี น.82), ซดราฟโก้ คุซมาโนวิช; เฟรดี้ กัวริน; โรดริโก้ ปาลาซิโอ, ปาโบล ออสวัลโด้
          ผู้ตัดสิน : เปาโล มัสโซเลนี่