เหลือเชื่อแต่เป็นไปแล้ว! มาร์ค ลอว์เรนสัน ตำนานปราการหลัง "หงส์แดง" มึนตึ้บทีมเก่าฟอร์มรูดมหาราชเร็วไวยังกะจรวด รองแชมป์อยู่ดีๆ พรวดพราดลงมาเป็นทีมกลางตารางซะงั้น...บ่องตงงงมากๆ กับการวางหมากสุดพิสดารของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส สรุปง่ายๆ ไม่มี หลุยส์ ซัวเรซ แถมขาด แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ลิเวอร์พูล ก็แทบขาดใจเลยทีเดียว

มาร์ค ลอว์เรนสัน อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล ยุคยิ่งใหญ่เกรียงไกรในช่วงทศวรรษ 1980 ยอมรับว่าตนรู้สึกพิศ
วงงงงวยไปหมดกับผลงานตกต่ำดำดิ่งอย่างรวดเร็วเกินคาดในฤดูกาลนี้ของต้นสังกัดเก่า ทั้งๆ ที่เมื่อฤดูกาลที่แล้วยัง
เพิ่งจะฉายฟอร์มเจิดจรัสถึงขนาดผงาดคว้าตำแหน่งรองแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครอบครองไปแล้วแท้ๆ

ลอว์เรนสัน เชื่อว่าทีมดังในถิ่น เมอร์ซี่ย์ไซด์ เริ่มเสื่อมถอยมาตั้งแต่ศึกแดงเดือดหนล่าสุด (16 มี.ค.2014)เพราะส่อเค้าว่าหลังจากเกมนัดดังกล่าว กุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ไม่ค่อยจะแน่ใจในการวางแท็กติกของตนเอง โดยระบุว่า "8 เดือนเข้าไปแล้วนับตั้งแต่ที่ ลิเวอร์พูล บุกไปถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 ถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่มันดูเหมือนว่าความย่ำแย่จะยาวนานยิ่งกว่านั้นซะอีก บอกตามตรง ลิเวอร์พูล แกร่งทุกพื้นที่ ณ เวลานั้น แต่ตอนนี้พวกเขาสะเปะสะปะ, ความเชื่อมั่นตกต่ำ และดูไม่เหมือนว่าจะมีแนวทางการเล่นที่แน่นอนเอาซะเลย"

พร้อมกันนั้น ตำนานแข้ง "หงส์แดง"  วัย 57 ปี ยังสงสัยแนวทางการจัดตัวผู้เล่นของ ร็อดเจอร์ส ในเกมที่ต้องชนะสถานเดียวอย่างศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดสุดท้าย ที่ทำได้แค่เสมอ เอฟซี บาเซิ่ล 1-1 เมื่อวันอังคารที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่สนามแอนฟิลด์ ส่งผลต้องร่วงลงไปเล่นยูฟ่า ยูโรปา ลีก แทน

 "ผมไม่เข้าใจการเลือกตัวนักเตะบางส่วนของ ร็อดเจอร์ส การที่ไม่ส่ง (อดัม) ลัลลาน่า ลงเล่นกับ บาเซิ่ล ทำเอาผมงงไปหมดเลย เช่นเดียวกับการส่ง (โฆเซ่) เอ็นริเก้ ลงไปเล่น ทั้งๆ ที่ดูเหมือนน้ำหนักจะเกินพิกัดไปแล้ว นักเตะคนสำคัญบางคนของ ลิเวอร์พูล หลุดฟอร์มไปเลย แต่อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องพึ่งพา (หลุยส์) ซัวเรซ และ (แดเนี่ยล) สเตอร์ริดจ์ มากแค่ไหน"

"เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าทั้งคู่ยิงรวมกันได้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของประตูทั้งหมด พวกเขาคือ 50 เปอร์เซ็นต์ของทั้งทีม นั่นคือบทสรุปอย่างเดียวที่คุณเห็นได้เลยจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่มีพวกเขา สเตอร์ริดจ์ ถูกยกให้เป็นผู้ที่จะเข้ามากอบกู้สถานการณ์วิกฤติของ ลิเวอร์พูล เพราะพวกเขาต้องดิ้นรนมาตลอดเมื่อไม่มีเขา (เจ็บต้นขาและน่องมาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา) แต่เขาจะไม่ใช่คนๆ นั้น เราไม่รู้เลยด้วยซ้ำไปว่าเขาจะกลับมาได้เมื่อไหร่"

อย่างไรก็ตาม กูรูลูกหนังของ บีบีซี สถานีโทรทัศน์ดังเมืองผู้ดี กลับเชื่อว่าทีมของ ร็อดเจอร์ส ยังมีโอกาสลุ้นกลับไปเล่นถ้วยใหญ่ยุโรปได้อีกครั้งในฤดูกาลหน้า ไม่ว่าจะเป็นในฐานะแชมป์ยูโรปา ลีก หรือการรักษาสถานภาพ 4อันดับแรกในลกเมื่อสิ้นสุดซีซั่นนี้ก็ตาม แต่ไม่วายเตือนกุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือว่าจะต้องเจองานโหดหินแบบสุดๆอย่างแน่นอนสำหรับความพยายามพลิกฟื้นสถานการณ์อันย่ำแย่ของทีม