หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันไม่สนใจเสียงวิจารณ์ของ แกรี่ เนวิลล์ กับ พอล สโคลส์ สองแข้งตำนาน "ปีศาจแดง" ที่มีต่อผลงานของทีมในขณะนี้ โดยเตือนกลับไปเหมือนเดิมว่าการเป็นถึงตำนานของสโมสรก็ควรระมัดระวังคำพูดด้วย และไม่หวั่นว่าทีมจะหล่นไปตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมือง เพราะเชื่อว่าของแบบนี้ต้องวัดกันด้วยความสามารถของทีมงาน ไม่ใช่ที่การลงทุนสร้างโน่นสร้างนี่

หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาย้ำให้ แกรี่ เนวิลล์ อดีตกองหลังตำนานของทีม ตลอดไปจนถึง พอล สโคลส์ อดีตกองกลางขวัญใจของทีม ต้องระวังการใช้คำพูด หลังจากทั้งสองคนกล่าววิจารณ์ผลงานและฟอร์มการเล่นของทีม

เนวิลล์ เคยวิจารณ์ฟอร์มการเล่นของ "ปีศาจแดง" ในเกมเฉือนชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม และล่าสุดก่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเจอกับ ลิเวอร์พูล ในเกมแดงเดือดวันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคมนี้ เนวิลล์ เปรียบเทียบว่าเป็นเหมือนการเจอกันของทีมตัวแทนผับ "ทีมหมาและเป็ด เจอกับ ทีมสิงโตแดง"

เมื่อถูกถามถึงการวิจารณ์ของอดีตกัปตันทีม กุนซือชาวดัตช์ กล่าวว่า "ผมไม่รู้รายละเอียดว่าเขาพูดอย่างไร ผมจึงตอบอะไรไม่ได้มาก ผมพูดได้แค่สิ่งที่ผมเคยพูดไปแล้วว่า ในฐานะตำนาน หรืออดีตตำนาน หรือผู้บรรยายเกม คุณต้องใส่ใจคำพูดของคุณ"

ทางด้าน สโคลส์ ระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด สุ่มเสี่ยงจะหล่นไปตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมคู่ปรับร่วมเมือง หลังจากทัพ "เรือใบสีฟ้า" เพิ่มจะเปิดศูนย์ฝึกเยาวชนและศูนย์ฝึกซ้อมมูลค่า 200 ล้านปอนด์ (ราว 11,000 ล้านบาท)

ฟาน กัล ตอบโต้ประเด็นของ สโคลส์ ว่า "เขาเป็นตำนานคนหนึ่งเหมือนกัน เขาก็ต้องใส่ใจคำพูดของเขาด้วย การสร้าง (ศูนย์เยาวชนของแมนฯ ซิตี้) ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น มันเป็นเรื่องของปรัชญาและสต๊าฟฟ์ที่สำคัญ จากนั้นก็ความสามารถ คุณต้องทำงานกับความสามารถ ผมไม่มีเวลามาเปรียบเทียบความสามารถกับทีมอื่น ผมจึงตอบคำถามไม่ได้"

 ฟาน กัล จะได้ดวลกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ ลิเวอร์พูล เป็นครั้งแรก โดย ร็อดเจอร์ส เคยคาดการณ์ไว้ในช่วงปรีซีซั่นว่า ฟาน กัล จะประสบปัญหาปรับตัวกับพรีเมียร์ลีก และอดีตเทรนเนอร์ทีมชาติฮอลแลนด์ ยอมรับว่าการคาดคะเนของกุนซือ "หงส์แเดง" มีความเป็นไปได้

"ผมคิดว่าที่เขาพูดในตอนนั้นเป็นความจริง และผมก็ประสบแบบนั้น เนื่องจากความแตกต่างกันมากระหว่างลีกที่ผมเคยทำงาน และพรีเมียร์ลีกมีจังหวะเกมเร็วมาก และผมคิดว่าทุกๆ สโมสรจะมีนักเตะคนหนึ่งที่เป็นตัวตัดสินเกมได้ และนั่นไม่เหมือนกับในเยอรมนี หรือสเปน หรือฮอลแลนด์" กุนซือเลือดดัตช์ กล่าวปิดท้าย