บ็อกซิ่งเดย์3ทีมหัวตารางอาจพลิกชะตาแชมป์!
Posted 23/12/2014 by siamsport
โดยเฉพาะพวกกลุ่มหัวแถวมักจะเน้นมากเป็นพิเศษ เพราะถ้าหากใครพลาด รับรองได้ว่าทำคะแนนไล่กลับมาลำบากแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาหลายสโมสรก็เคยเสียท่า เมื่อต้องเจอโปรแกรมสุดโหดเข้าไป และส่งผลถึงตอนท้ายฤดูกาล เราจึงจะลองมาดูกันหน่อยว่า 3 อันดับแรกของพรีเมียร์ลีกในตอนนี้ จะมีคิวดวลแข้งกับใครระหว่างบ็อกซิ่ง เดย์ 2014 จนถึงวันปีใหม่ 2015 แล้วที่ผ่านมาผลงานของพวกเขาเมื่อถึงช่วงนี้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ผลมักลงเอยอย่างไรกันบ้าง และส่งผลถึงอันดับหลังจบฤดูกาลแค่ไหน
เชลซี (อันดับ 1 - 42 คะแนน)
2014
26 ธันวาคม (เหย้า) เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
28 ธันวาคม (เยือน) เซาธ์แฮมป์ตัน
1 มกราคม (เยือน) ท็อตต์แน่ม ฮ็อตสเปอร์
ปีนี้ถือว่าลูกทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องเจองานหนักมาก เพราะ เวสต์แฮม กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ชื่อชั้นอาจเป็นรอง แต่ฤดูกาลนี้ต่างทำผลงานกันดีจนติด 5 อันดับแรกทั้งคู่ สเปอร์ส คือคู่แข่งร่วมกรุงลอนดอนที่อยู่ในท็อปเทนเช่นกัน 8 ครั้งล่าสุดที่ไปเยือน "ไก่เดือยทอง" เชลซี ชนะแค่เกมเดียว
2013
26 ธันวาคม (เหย้า) ชนะ สวอนซี ซิตี้ 1-0
29 ธันวาคม (เหย้า) ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
1 มกราคม (เยือน) ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0
ถึงแม้ชนะคู่แข่งทั้ง 3 แมตช์ ตั้งแต่บ็อกซิ่ง เดย์ จนถึงวันปีใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ลิเวอร์พูล แต่สุดท้าย เชลซี ก็ไม่สามารถแย่งแชมป์ลีกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือแซงหน้า "หงส์แดง" ขึ้นไปครองอันดับ 2 แต่มันแสดงให้เห็นว่าต่อให้อยู่ในช่วงเวลาใด มูรินโญ่ มักเก็บคะแนนสำคัญๆได้เสมอ
2012
26 ธันวาคม (เยือน) ชนะ นอริช ซิตี้ 1-0
30 ธันวาคม (เยือน) ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1
2 มกราคม (เหย้า) แพ้ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 0-1
ดูเหมือนว่าการได้ถึง 6 จาก 9 คะแนนในช่วงบ็อกซิ่ง เดย์ จะทำให้ได้โควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม แต่ความจริงพวกเขาไม่น่าพลาดแมตช์กับ ควีนส์ปาร์คฯ เพราะถ้าได้เพิ่มอีก 3 แต้ม คงทำให้ซิวรองแชมป์ลีกแทน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้ว เพราะ เชลซี มีผลต่างประตูดีกว่า
2011
26 ธันวาคม (เหย้า) เสมอ ฟูแล่ม 1-1
31 ธันวาคม (เหย้า) แพ้ แอสตัน วิลล่า 1-3
ปีนี้ถือเป็นหายนะ เพราะได้หนึ่งแต้มเท่านั้นในการเฝ้าบ้าน 2 ครั้ง ทั้งๆเจอคู่แข่งที่ชื่อชั้นด้อยกว่า และเพราะไม่มีคะแนนในช่วงบ็อกซิ่ง เดย์ มาช่วยมากพอ ทำให้ท้ายที่สุด เชลซี ก็อดไปเตะฟุตบอลยุโรป หลังจบฤดูกาล 2011-12 เพราะได้แค่อันดับ 6 ตามหลังโควตาสุดท้ายเพียง 1 แต้ม
2010
27 ธันวาคม (เยือน) แพ้ อาร์เซน่อล 1-3
29 ธันวาคม (เหย้า) ชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 1-0
2 มกราคม (เหย้า) เสมอ แอสตัน วิลล่า 3-3
เชลซี มีปัญหาตอนทำศึกฤดูกาล 2010-11 เพราะความไม่ค่อยต่อเนื่องของพวกเขา ทำให้ท้ายสุดจึงได้แค่รองแชมป์ลีก โดยตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 9 คะแนน เพราะช่วงบ็อกซิ่ง เดย์ เก็บไปเพียง 4 จาก 9 คะแนน การแพ้ อาร์เซน่อล อาจพอรับได้ แต่ไม่ใช่การเสมอ วิลล่า ในบ้าน
--------------------------------------------------------------------
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อันดับ 2 - 39 คะแนน)
2014
26 ธันวาคม (เยือน) เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน
28 ธันวาคม (เหย้า) เบิร์นลี่ย์
1 มกราคม (เหย้า) ซันเดอร์แลนด์
โปรแกรมค่อนข้างเบาสำหรับ "เรือใบสีฟ้า" เพราะเจอทีมโซนท้ายตาราง เวสต์บรอมวิช เพิ่งชนะในบ้าน 2 ครั้ง เบิร์นลี่ย์ คว้าชัยนอกรัง 1 เกมเช่นกัน ซันเดอร์แลนด์ ไม่เคยบุกเชือด แมนฯ ซิตี้ ถึงถิ่น ตั้งแต่ 19 ธันวาคม 1981 ช่วงเวลาที่ลูกทีมของ มานูเอล เปเยกรินี่ ในการทำแต้มไล่ เชลซี
2013
26 ธันวาคม (เหย้า) ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
28 ธันวาคม (เหย้า) ชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0
1 มกราคม (เยือน) ชนะ สวอนซี ซิตี้ 3-2
เป็น 9 คะแนนที่สำคัญมากของ แมนฯ ซิตี้ เพราะชนะได้แบบฉิวเฉียดทุกเกม แถมหนึ่งในนั้นคือการเชือด ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นคู่แข่งแย่งแชมป์กันโดยตรง ทำให้เหมือนได้โบนัสพิเศษ เพราะจบฤดูกาล "เรือใบสีฟ้า" ครองแชมป์พรีเมียร์ลีกโดยมีคะแนนเหนือกว่า "หงส์แดง" เพียง 2 แต้มเท่านั้น
2012
26 ธันวาคม (เยือน) แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-1
28 ธันวาคม (เยือน) ชนะ นอริช ซิตี้ 4-3
1 มกราคม (เหย้า) ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 3-0
แมนฯ ซิตี้ พลาดแชมป์ลีกฤดูกาล 2012-13 เพราะแพ้เกมที่ไม่ควรแพ้หลายครั้ง รวมถึงเกมกับ ซันเดอร์แลนด์ ในวันบ็อกซิ่ง เดย์ ทั้งๆก่อนหน้านั้น "เรือใบสีฟ้า" ไม่แพ้นอกบ้านมาก่อน ไม่ว่าจะเยือน ลิเวอร์พูล หรือ เชลซี สุดท้ายได้เป็นรองแชมป์ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 11 คะแนน
2011
26 ธันวาคม (เยือน) เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 0-0
1 มกราคม (เยือน) แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-1
ประตูในนาทีสุดท้ายของ ชี ดอง-วอน ทำให้ ซันเดอร์แลนด์ ชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 ช่วงวันปีใหม่ หลังแค่เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 0-0 เมื่อวันบ็อกซิ่ง เดย์ การปล่อย 5 แต้มหลุดมือเกือบทำให้พลาดแชมป์พรีเมียร์ลีกในบั้นปลาย ดีที่ชนะเกมสุดท้าย ทำให้ได้ตำแหน่งจากผลประตูได้-เสีย
2010
26 ธันวาคม (เยือน) ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-1
28 ธันวาคม (เหย้า) ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-0
1 มกราคม (เหย้า) ชนะ แบล็คพูล 1-0
"เรือใบสีฟ้า" อาจไม่ได้แชมป์ลีกในฤดูกาล 2010-11 แต่ก็เป็นอีกปีที่พวกเขาไม่พลาดในช่วงบ็อกซิ่ง เดย์ 9 คะแนนซึ่งได้มานั้น ช่วยให้พวกเขาได้อันดับ 3 คว้าโควตาไปเตะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม แบบอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 4 ที่มีคะแนนน้อยกว่า 3 แต้ม ต้องเตะรอบเพลย์ออฟ
--------------------------------------------------------------------
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อันดับ 3 - 32 คะแนน)
2014
26 ธันวาคม (เหย้า) นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
28 ธันวาคม (เยือน) ท็อตต์แน่ม ฮ็อตสเปอร์
1 มกราคม (เยือน) สโต๊ค ซิตี้
อาจไม่ใช่งานหนักมาก แต่คงไม่ง่ายเท่าไหร่ เพราะ นิวคาสเซิ่ล เคยบุกมาสร้างเซอร์ไพรส์ในการเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด หนล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่พ่ายใครตลอดเดือนธันวาคมปีนี้ ถ้ายังรักษาฟอร์มเดิมเอาไว้ได้ ลูกทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล น่าจะมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกเยอะในปีหน้า แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ "แอลวีจี" เพิ่งสัมผัสกับบรรยากาศบ็อกซิ่งเดย์เป็นครั้งแรกเขาจะสับสันหรือคิดมากในการ จัดทีมมากน้อยขนาดไหนเมื่อสภาพทีมตอนนี้ตัวเลือกมีไม่มากเท่าไหร่
2013
26 ธันวาคม (เยือน) ชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 3-2
28 ธันวาคม (เยือน) ชนะ นอริช ซิตี้ 1-0
1 มกราคม (เหย้า) แพ้ ท็อตต์แน่ม ฮ็อตสเปอร์ 1-2
อาจได้ถึง 6 จาก 9 คะแนนเต็ม แต่เป็นฟอร์มที่ไม่ค่อยน่าประทับใจนัก เพราะพวกเขาชนะคู่แข่งรองบ่อนอย่าง ฮัลล์ กับ นอริช เพียงแค่ประตูเดียว ก่อนพ่ายคาถิ่นให้ สเปอร์ส ทำให้สถานการณ์ของกุนซือ เดวิด มอยส์ ตอนนั้นยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก และความเชื่อมั่นหมดลงในอีกไม่เดือนต่อมา
2012
26 ธันวาคม (เหย้า) ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-3
29 ธันวาคม (เหย้า) ชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-0
1 มกราคม (เยือน) ชนะ วีแกน แอธเลติก 4-0
อย่าว่าแต่ นิวคาสเซิ่ล, เวสต์บรอมวิช หรือ วีแกน ที่ต้องเจอกันช่วงบ็อกซิ่ง เดย์ ฤดูกาลนั้นไม่มีใครมาหยุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใด พวกเขาปิดท้ายการคุมทัพของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ด้วยผลงานชนะ 28 ใน 38 เกม ครองแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบสบายใจ
2011
26 ธันวาคม (เหย้า) ชนะ วีแกน แอธเลติก 5-0
31 ธันวาคม (เหย้า) แพ้ แบล็คเบิร์น์ โรเวอร์ส 2-3
หลังชนะ วีแกน แบบถล่มทลาย อีกไม่วันต่อมา "ปีศาจแดง" กลับโดน แบล็คเบิร์น ซึ่งฤดูกาลนั้นถูกลดชั้นลงแชมเปี้ยนชิพ บุกมาเชือด 2-3 และการพลาดแมตช์นี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาชวดแชมป์พรีเมียร์ลีก เพราะสุดท้ายแล้ว แมนฯ ซิตี้ ปาดหน้าคว้าไปครองด้วยผลต่างประตู
2010
26 ธันวาคม (เหย้า) ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0
28 ธันวาคม (เยือน) เสมอ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 1-1
1 มกราคม (เยือน) เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1
ความจริง แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบเก็บครบทั้ง 9 คะแนนช่วงบ็อกซิ่ง เดย์ ในปีนั้นด้วยซ้ำ หากไม่พลาดช่วงท้ายเกมกับ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ทำให้ได้แค่เสมอ 1-1 อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกในปีนั้นแบบสบายๆอยู่ดีเพราะชนะ 23 เสมอ 11 จาก 38 แมตช์ ทิ้งห่างทีมอื่น 9 แต้ม
สถิติน่าสนใจช่วงบ็อกซิ่งเดย์
* มีถึง 11 ครั้งด้วยกันที่จ่าฝูงก่อนเกมบ็อกซิ่งเดย์ จบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์ โดยแบ่งออกเป็น 4 สโมสร คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6 ครั้ง (1993/94, 2000/01, 2002/03, 2006/07, 2010/11 และ 2012/13), เชลซี 3 ครั้ง (2004/05, 2005/06 และ 2009/10), แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1 ครั้ง (1994/95) และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีก 1 ครั้ง (2011/12)
*ทีมที่นำจ่าฝูงก่อนเกมบ็อกซิ่งเดย์แล้วจบฤดูกาลด้วยอันดับต่ำ ที่สุด คือ แอสตัน วิลลา ที่ร่วงกราวลงไปจบถึงอันดับที่ 6 ในฤดูกาล 1998/99
*มีเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่รั้งบ๊วยก่อนเกมบ็อกซิ่งเดย์แล้วรอด ตกชั้น คือ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในฤดูกาล 2004/05 โดยในปีนี้เป็นเลสเตอรื ซิตี้ที่รั้งบ๊วยด้วยผลงานชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 11 มี 10 แต้มตามหลังทีมโซนปลอดภัยอยู่ 5 แต้ม
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อดเซิ้งบอลโลก 2026 ! ฟีฟ่า, ยูฟ่า มติแบน รัสเซีย ต่อไป
ผลงาน 5 ดาว!แฟน ฟิออเรนติน่า โหวต เด เคอา แข้งยอดเยี่ยมตุลาคม
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์