"บ็อกซิ่งเดย์" คือวันที่คุณควรมีความสุขกับการแกะกล่องของขวัญที่บ้าน แต่สำหรับฟุตบอลอังกฤษแล้ว มันหมายถึงประเพณีการหวดลูกหนังที่ดุเดือดเลือดพล่าน ซึ่งปฏิบัติสืบกันต่อมาช้านาน และต่อไปนี้คือสุดยอดเกมที่ยิงกันไส้ทะลักเฉพาะในวันที่ 26 ธันวาคมเท่านั้น

        ทีมงาน SIAMSPORT หวังว่า ค่ำคืนวันแกะกล่องของขวัญปีนี้ จะมีเกมคลาสสิคให้เราจดจำอีก...

        1979 : เชฟฯ เว้นส์เดย์ 4 เชฟฯ ยูไนเต็ด 0
         การถล่มเพื่อนร่วมเมืองเละทะ เป็นเรื่องฮือฮาเสมอ ยิ่งเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลแหงความสุขด้วยโดย "นกเค้าแมว" จัดหนัก "ดาบคู่" ในศึกดิวิชั่นสามต่อหน้าแฟนๆ กว่า 49,309 คน ทั้งๆ ที่ทีมเยือนเป็นจ่าฝูง และตัวเองรั้งอันดับห้าแท้ๆ ชัยชนะนัดนี้ ทำให้ เว้นส์เดย์ ของโค้ช แจ็ค ชาร์ลตัน ได้ใจจนไร้พ่ายในอีก 16 เกมถัดมา กระทั่งคว้าตั๋วเลื่อนชั้นได้สำเร็จ ในทางตรงกันข้าม ยูไนเต็ด เป๋ยาว และจบซีซั่นในฐานะทีมอันดับ 12 เลยทีเดียวเชียว
 
        2008 : แมนฯ ซิตี้ 5 ฮัลล์ 1
         หากการเสียถึงสี่ประตูให้ทีมมหาเศรษฐีอย่าง แมนฯ ซิตี้ ว่าแย่แล้ว การปลุกเร้าลูกทีมของกุนซือ ฟิล บราวน์ ตอนพักครึ่งยิ่งบัดซบกว่า เพราะแทนที่จะไปด่ากราดกันในที่ลับ แต่เฮียน้ำตาล แกดันเรียกเด็กๆ ไปรวมตัวกันกลางสนาม แล้วชี้หน้าจัดกันเรียงตัวต่อหน้าสาธารณชน ซึ่งมันไม่เวิร์กแน่ๆ เมื่อมองจากสกอร์สุดท้าย แถมถูกล้อตลอดนับตั้งแต่นั้นไม่ว่าจะไปเยือนสนามไหนก็ตาม

 2000 : อาร์เซน่อล 6 เลสเตอร์ 1

         คำว่าช็อกอาจยังน้อยไป เพราะไม่เพียงแต่ อาร์เซน่อล จะยิงสลุตถึงหกดอกส์ แต่จอมฝืดอย่างพ่อหนุ่ม อาเด้ อคินบาย ยังกล้าๆ ยิงตีไข่แตกให้ทีมเยือนด้วย หลังย้ายมาด้วยค่าตัวถึง 5.5. ล้านปอนด์ แล้วยึดถือสากกะเบือเป็นแม่แบบในการเล่น อย่างไรก็ตาม คนที่ถูกแสงสปอตไลท์ส่องเต็มๆ คือ เธียร์รี่ อองรี ดาวยิง "เดอะ กันเนอร์ส" ต่างหาก โทษฐานที่ระเบิดแฮตทริกในวันแกะกล่องของขวัญ

1991 : โอลด์แฮม 3 แมนฯ ยูไนเต็ด 6

         "หมูชรา" กลายเป็นหมูในอวยให้เพื่อนบ้านอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ต้อน โดยเฉพาะสองปีกที่ผลัดกันฉีกเนื้อหมูเคี้ยวตุ้ยอย่างเพลิดเพลินทั้ง อังเดร แคนเชลสกี้ส์ และ ไรอัน กิ๊กส์ แม้แต่ เดนิส เออร์วิน ฟูลแบ๊ก "ปีศาจแดง" ยังอุตส่าห์เติมขึ้นมายิงทีมเก่าด้วยเลยคุณ

1960 : แมนฯ ยูไนเต็ด 6 เชลซี 0
         แม็ตต์ บัสบี้ กุนซือผู้ยิ่งใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังพยายามสร้างทีมใหม่ หลังเหตุโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่ มิวนิค ไม่ถึงสามปีก่อนหน้า และกองทัพ "เร้ด อาร์มี่" ยุค "บัสบี้ เบ๊บส์" ก็แกะกล่องของขวัญให้เหล่าสาวกใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กว่า 50,000 คน ด้วยการไล่สาดกระสุนใส่ เชลซี ครึ่งโหล ทั้งๆ ที่ "สิงโตน้ำงินคราม" เพิ่งได้แชมป์ลีกครั้งแรกไม่นาน หรือหกปีก่อนที่ "เสี่ยหมี" โรมัน อบราโมวิช จะถือกำเนิดบนโลก

        1955 : ซันเดอร์แลนด์ 1 นิวคาสเซิ่ล 6
         ศึกอีสานคลาสสิค เล่นกันเต็มเหนี่ยวไปเลยพี่เต็มที่ไปเลยเธอว์เสมอมา และวันบ็อกซิ่งเดย์ของปี 1955 คงไม่มีสาวก "ทูน อาร์มี่" คนใดลืมเลือนได้ เมื่อทีมรัก บุกทิ้งบอมบ์ ซันเดอร์แลนด์ จนราบเป็นหน้ากลอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยอดดาวยิงขมองอิ่มของผอง นิวคาสเซิ่ล อย่าง แจ็คกี้ มิลเบิร์น กดคนเดียวสองเม็ด

        1963 : ลิเวอร์พูล 6 สโต๊ค 1
         บ็อกซิ่งเดย์ประจำปี 1963 คือประวัติศาสตร์ เพราะวันเดียว ฟุตบอลลีกสูงสุดเมืองผู้ดีรวม 10 คู่ ยิงประตูกันกระหน่ำถึง 66 ลูก โดยที่ เมอร์ซี่ย์ไซด์ ทางด้านของ ลิเวอร์พูล สยายปีกตะปบทีมเยือนอย่าง สโต๊ค ด้วยสกอร์ขาดลอย 6-1 ชนิดที่ โรเจอร์ ฮันท์ อัดคนเดียวสี่ตุงจนตะลึงกันทั้ง แอนฟิลด์

        1963 : เบิร์นลี่ย์ 6 แมนฯ ยูไนเต็ด 1
         ปี 1963 ถือว่า เบิร์นลี่ย์ อยู่ในยุคทอง ที่สามารถขย้ำ แมนฯ ยูไนเต็ด เพื่อนร่วมแคว้น แลงคาเชียร์ ถึงครึ่งโหลได้สบายๆ โดยเกมดังกล่าว มีรายงานว่า หนุ่มน้อยรูปหล่อวัย 17 ที่ชื่อ จอร์จ เบสต์ ได้ขอลากลับบ้านที่ไอร์แลนด์เหนือ เพราะคิดถึงแม่ ก่อนจะยอมกลับ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในสัปดาห์ถัดมา แต่มีข้อแม้ว่า สโมสรต้องส่งขึ้นเครื่องบินกลับไปหาหม่าม้าทันทีหลังสิ้นเสียงนกหวีดยาว ปรากฏว่า ทาง "ปีศาจแดง" ยินยอมซะงั้น เจ้าหนู เบสต์ เลยเล่นอย่างมีชีวิตชีวา โดยยิงประตูแรกในนามนักเตะ "เร้ด อาร์มี่" ได้สำเร็จในเกมที่ทีมเก็บชัย 5-1 และนั่นเองคือปฐมบทของ "ปีกพ่อมด" ผู้ยิ่งใหญ่

        1963 : เวสต์แฮม 2 แบล็คเบิร์น 8
         เป็นวันแกะของขวัญทมิฬโดยแท้สำหรับปี 1963 อย่าง เวสต์แฮม แม้จะมีแข้งดังระดับ บ๊อบบี้ มัวร์ กับ เจฟฟ์ เฮิร์สต์ ที่พาอังกฤษคว้าแชมป์โลกในเวลาต่อมา แต่ยังกล้าๆ โดน แบล็คเบิร์น บุกเผาบ้านวอดวายโดยตะบันใส่ถึงแปดลูกเลยทีเดียว
 
        1963 : ฟูแล่ม 10 อิปสวิช 1
         นี่คือเกมที่ซัดกันนัวที่สุดในวันบ็อกซิ่งเดย์ประจำปี 1963 โดยเหตุเกิดที่ คราเว่น ค็อตเทจ ซึ่ง ฟูแล่ม ถูกบันทึกว่า ชนะคู่ต่อสู้ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร แถมยังเป็นทีมล่าสุดที่หวดคู่แข่งในลีกสูงสุดถึงเลขสองหลักอีกต่างหาก ที่เหลือเชื่อสุดๆ คือ เกรแฮม เลกแก็ต ระเบิดแฮตทริกในช่วงเวลาแค่สามนาทีครึ่งเท่านั้น ขณะที่ "ม้าขาว" โดนรัวทะลุ 121 ลูกในฤดูกาลดังกล่าว และจบซีซั่นพร้อมกับอมบ๊วยจนแก้มตุ่ย