ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » บทสรุปครึ่งซีซั่นแรกพรีเมียร์ลีก2014-15

บทสรุปครึ่งซีซั่นแรกพรีเมียร์ลีก2014-15

Posted 31/12/2014 by siamsport

 
เข้าสู่ช่วงท้ายปี กันแล้ว ก็เป็นช่วงพักครึ่งของฤดูกาลแข่งขันในลีกใหญ่ทั่วยุโรปรวมถึงศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (แม้จะไม่มีช่วงพักเหมือนชาวบ้านชาวช่องก็ตาม)

        ผ่านไปร่วมครึ่งซีซั่น ก็คงจะมองออกแล้วว่ากลุ่มลุ้นแชมป์, กลุ่มโควตายุโรป และ กลุ่มหนีตกชั้น หน้าตาเป็นแบบไหนกันบ้าง แต่วันนี้ ทีมงานสตาร์ซอคเกอร์ ขอรีวิวผลงานของทั้ง 20 สโมสรประจำลีกสูงสุดเมืองผู้ดีว่ามีใครเด่น ใครดับ และทำผลงานตามเป้ากันหรือไม่

        สำหรับบทสรุปครึ่งฤดูกาลแรกศึก พรีเมียร์ลีก ขอแบ่งเป็น 2 ตอน วันนี้นำเสนอตอนแรก 10 สโมสร เรียงตามลำดับตัวอักษร ว่าแล้วก็เชิญติดตามกันได้เลย
        
        ทีมงานสตาร์ซอคเกอร์

        ---------------------

        อาร์เซน่อล
        ผู้จัดการทีม : อาร์แซน เวนเกอร์
        การเสริมทัพ : อเล็กซิส ซานเชซ (30 ล้านปอนด์), แดนนี่ เวลเบ็ค (16 ล้านปอนด์), คาลั่ม แชมเบอร์ส (16 ล้านปอนด์), มาติเยอ เดอบูชี่ (12 ล้านปอนด์), ดาวิด ออสปิน่า (3 ล้านปอนด์)
        ดาวเด่น : อเล็กซิส ซานเชซ
        กลายเป็นความหวังสูงสุดในแนวรุกของ "ปืนใหญ่" เวลานี้ อเล็กซิส ใช้เวลาไม่นานในการปรับตัวกับสโมสรใหม่หลังย้ายมาจาก บาร์เซโลน่า เจ้าตัวเริ่มต้นแบบตะกุกตะกักก่อนระเบิดฟอร์มร้อนแรงด้วยการกดไปแล้ว 9 ประตูใน พรีเมียร์ลีก เวลานี้ แถมยังสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนๆทำประตูอีกด้วย
        ดาวดับ : มาติเยอ ฟลามินี่
        ฟลามินี่ อาจเป็นนักเตะที่แฟนบอล "ปืนโต" อยากให้เจ็บไปแทนเหล่ามิดฟิลด์ตัวกลางที่หายไปอย่าง มิเกล อาร์เตต้า, อารอน แรมซี่ย์ และ แจ็ค วิลเชียร์ ก็เป็นได้ เนื่องจาก กองกลางเลือดน้ำหอม หมดสภาพไปแล้ว เหลือแค่เพียงความดุดันเท่านั้น
        ผลงาน : อาร์เซน่อล เริ่มต้นฤดูกาลด้วยการเน้นเสมอเสียส่วนใหญ่ แถมผลงานจากนั้นก็ลุ่มๆดอนๆจนเป็นเหตุให้ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส โดนกระแสเรียกร้องจากแฟนบอลว่าควรลาออกจากตำแหน่งได้แล้ว และยังไต่ไปไม่ถึง 4 อันดับแรกในเวลานี้
        คะแนน : 6/10

        ---------------------

        แอสตัน วิลล่า
        ผู้จัดการทีม : พอล แลมเบิร์ต
        การเสริมทัพ : คาร์ลอส ซานเชซ (4.7 ล้านปอนด์), โจ โคล (-), อาลี ซิสโซโก้ (2.2 ล้านปอนด์), ฟิลิปป์ เซนเดอรอส (-), คีแรน ริชาร์ดสัน (-), ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ (ยืมตัว)
        ดาวเด่น : คริสติย็อง เบนเตเก้
        เบนเตเก้ ยังเป็นอาวุธหนักของ วิลล่า เหมือนเดิม หลังแสดงให้ทุกคนเห็นว่ายังพร้อมแบกภาระในแดนหน้าให้ "สิงห์ผงาด" เหมือนเดิม ทั้งที่เพิ่งกลับมาฟิตเต็มถังได้ไม่นานหลังเจ็บเอ็นร้อยหวายจนต้องพักยาว ตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา
        ดาวดับ : ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์
        ทั้งที่ได้โอกาสย้ายมาลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องด้วยสัญญายืม ตัว แต่ เคลฟเวอร์ลี่ย์ ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงสัญญาณใดๆเลยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรดึงตัวกลับไปร่วมทีม ขนาด วิลล่า อาจไม่สนใจดึงตัวมาร่วมทีมแบบถาวรด้วยซ้ำ
        ผลงาน :  "สิงห์ผงาด" กระโดดขึ้นไปรั้งหัวแถวด้วยสถิติไร้พ่ายในช่วงเดือนแรกของซีซั่นนี้ ก่อนเจอบททดสอบของจริงด้วยการเจอของหนักแบบต่อเนื่องเป็นเหตุให้เป๋ยาวแพ้ ถึง 6 นัดรวดและไม่ชนะยาวนาน 9 เกมติด ก่อนเริ่มกระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมา
        คะแนน : 5/10

        ---------------------

        เบิร์นลี่ย์
        ผู้จัดการทีม : ฌอน ไดค์
        การเสริมทัพ : จอร์จ บอยด์ (3 ล้านปอนด์), แมทธิว จิลค์ส (-), ลูคัส ยุตคีวิซ (1.5 ล้านปอนด์), ไมเคิ่ล คีน (ยืมตัว), ไมเคิ่ล ไคท์ลี่ (ไม่เปิดเผย), สตีเว่น รีด (-), มาร์วิน ซอร์เดลล์ (ไม่เปิดเผย), แมทธิว เทย์เลอร์ (-), สตีเฟ่น วอร์ด (ไม่เปิดเผย), เนธาเนี่ยล ชาโลบาห์ (ยืมตัว)
        ดาวเด่น : แอชลี่ย์ บาร์นส์
        รอโอกาสฉายแสงมานานสำหรับ บาร์นส์ หลังเป็นสำรองของ มาร์วิน ซอร์เดลล์ และ ลูคัส ยุตคีวิช ในช่วงแรกของฤดูกาล ก่อนกลายเป็นตัวหลักตั้งแต่เป็นฮีโร่ซัดประตูชัยพา "คลาเร็ตส์" เชือด ฮัลล์ ซิตี้ 1-0 และคว้า 3 คะแนนแรกในซีซั่นนี้ได้สำเร็จ
        ดาวดับ : แดนนี่ อิงก์ส
        เจ้าของผลงาน 26 ประตูที่ช่วยให้ เบิร์นลี่ย์ เลื่อนชั้นกลับมาสู่ พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง กลายเป็นสิงห์ปืนฝืดเมื่อต้องเจอคู่แข่งระดับลีกสูงสุด ความจริงก็ไม่ได้ถือเป็นคนที่ล้มเหลวแต่อย่างใด ทว่าผลงานแค่ต่ำกว่ามาตรฐานเท่านั้นสำหรับตัวความหวังของสโมสร
        ผลงาน :  เบิร์นลี่ย์ จมอยู่โซนท้ายตารางสมฐานะว่าที่ตัวเต็งที่จะโดนถีบกลับไปฟาดแข้งในระดับ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ หลังเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาแบบสดๆร้อนๆ ทว่าฟอร์มระยะหลังเริ่มดูดีขึ้น การทำประตูเริ่มมีให้เห็น เช่นเดียวกับคะแนนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งถ้ายังดำเนินต่อเนื่อง ก็อาจยังพอมีหวังหนีรอดตกชั้นได้สำเร็จ
        คะแนน : 5/10

        ---------------------

        เชลซี
        ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่
        การเสริมทัพ : ดีเอโก้ คอสต้า (32 ล้านปอนด์), เชส ฟาเบรกาส (27 ล้านปอนด์), ฟิลิเป้ ลุยส์ (15.8 ล้านปอนด์), มาริโอ พาซาลิช (2.4 ล้านปอนด์), ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา (-), โลอิก เรมี่ (10.5 ล้านปอนด์)
        ดาวเด่น : เชส ฟาเบรกาส
        กลายเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญของ เชลซี ในการเดินทางกลับมาสู่ตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง หลังย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาเพิ่มมิติในเกมรุกให้ "สิงห์บลูส์" อย่างเห็นได้ชัดด้วยการทำทางให้เพื่อนร่วมสังกัดยิงประตูเป็นว่าเล่น โดยล่าสุดเจ้าตัวเป็นจ่าฝูงประจำชาร์ตจอมแอสซิสต์หลังทำไปแล้ว 12 ครั้งจนถึงเวลานี้
        ดาวดับ : ปีเตอร์ เช็ก
        ในแง่ของผลงาน แทบไม่มีใครทำตัวน่าผิดหวังเลยในสีเสื้อ "สิงห์บลูส์" ฤดูกาลนี้ ดาวดับของพวกเขาเลยกลายเป็น ปีเตอร์ เช็ก ที่แสดงให้เห็นว่าฝีไม้ลายมือในการป้องกันประตูยังอยู่ในระดับท็อป แต่กลายเป็นสำรองถาวรจากการเข้ามาของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ทำให้อาจต้องย้ายหนี เดอะ บริดจ์ ในเร็วๆนี้ก็เป็นได้
        ผลงาน : 
        แทบเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบของ มูรินโญ่ หลังพาทีมไร้พ่ายต่อเนื่องตั้งแต่เปิดฤดูกาลพร้อมนำจ่าฝูงมาแบบยาวๆจนเชื่อ ว่าพวกเขาอาจทำสถิติไม่แพ้ใครในลีกทั้งซีซั่นเหมือน อาร์เซน่อล เมื่อปี 2003-04 ก่อนสะดุดพ่ายไปเรียบร้อยแล้ว ทว่าด้วยขุมกำลังที่แกร่งทั่วแผ่นขนาดนี้ ทำให้เชื่อว่าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดียากที่หลุดรอดจากมือพวกเขาจริงๆ
        คะแนน : 9/10

        ---------------------

        คริสตัล พาเลซ
        ผู้จัดการทีม : คีธ มิลเล็น (รักษาการณ์) 
        การเสริมทัพ : เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ (7 ล้านปอนด์), มาร์ติน เคลลี่ (1.5 ล้านปอนด์), เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ (900,000 ปอนด์), คริส เค็ตติ้งส์ (-), เบรเด้ ฮันเกลันด์ (-), เซกี้ ฟรายเออร์ส (ไม่เปิดเผย), เควิน ดอยล์ (ยืมตัว), แอนดรูว์ จอห์นสัน (-), แดนนี่ แก็บบิดอน (-)
        ดาวเด่น : มิเล่ เยดินัค
        เป็นเสาหลักของ พาเลซ สมราคากัปตันทีมแล้วหลังเป็นที่พึ่งพาให้สโมสรด้วยการกดไปแล้ว 5 ประตูพร้อมนำเป็นดาวซัลโวในถิ่น เซลเฮิร์สท์ พาร์ค เวลานี้ "ปราสาทเรือนแก้ว" จะรอดพ้นการตกชั้นหรือไม่ในท้ายที่สุด แน่นอนว่าต้องขึ้นกับผลงานของ ดาวเตะวัย 30 ปี ผู้นี้ด้วย
        ดาวดับ : วิลฟรีด ซาฮา
        ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเทพเหมือนเมื่อครั้งแจ้งเกิดขึ้นมาในสีเสื้อ "ดิ อีเกิ้ลส์" ได้เลยสำหรับ ซาฮา หลังย้ายไปร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนไม่ได้รับโอกาสลงสนามต่อเนื่องจนพัฒนาการต้องหยุดแถมสูญเสียความมั่นใจ ไปอีก
        ผลงาน :  พาเลซ เริ่มต้นซีซั่นอย่างน่าผิดหวังทั้งที่ทำตัวเป็นแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ดักแต้มจาก ทีมใหญ่ไปเพียบเมื่อซีซั่นก่อน แถม โทนี่ พูลิส ตัดสินใจลาออกเนื่องจากมีปัญหากับทางสโมสร ทำให้ นีล วอร์น็อค ถูกอัญเชิญมารั้งบังเหียนเป็นคำรบสองก่อนพาทีมคึกคักขึ้นมาเล็กน้อย ทว่าหล่นไปอยู่โซนท้ายตารางอีกครั้งแล้ว และล่าสุด วอร์น็อค โดนตะเพิดไปอีกคนแล้ว
        คะแนน : 3/10

        ---------------------

        เอฟเวอร์ตัน
        ผู้จัดการทีม : โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ
        การเสริมทัพ : โรเมลู ลูกากู (28 ล้านปอนด์), มูฮาเหม็ด เบซิช (4 ล้านปอนด์), แกเร็ธ แบร์รี่ (1 ล้านปอนด์), ซามูแอล เอโต้ (-), คริสเตียน อัตซู (ยืมตัว), เดวิด เอแน็น (ยืมตัว)
        ดาวเด่น : เจมส์ แม็คคาร์ธี่
        เป็นเสาหลักในแดนกลางของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" แบบเต็มตัวไปแล้ว ดูได้จากการที่เมื่อใดต้องไร้เงา ดาวเตะวัย 24 ปี พวกเขาต้องพบช่วงเวลาที่สะกดคำว่าชนะไม่เป็นแบบต่อเนื่อง แต่เวลานี้เจ้าตัวกลับมาฟิตอีกครั้ง ต้องรอดูว่าจะเข็นทีมกลับไปสู่พื้นที่ที่พวกเขาคุ้นเคยได้อีกครั้งหรือไม่
        ดาวดับ : โรเมลู ลูกากู
        ระเบิดฟอร์มถล่มประตูให้ เอฟเวอร์ตัน หลังย้ายมาเล่นแบบยืมตัวจาก เชลซี เมื่อซีซั่นก่อน จน "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ต้องทุบกระปุกทำลายสถิติสโมสรคว้าตัวมาร่วมทัพแบบถาวร แต่ ลูกากู กลับยังไม่ทำผลงานตอบแทนเม็ดเงินมหาศาลแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยในเวลานี้
        ผลงาน : จากทีมไล่ล่าพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ ลีก เอฟเวอร์ตัน กลายเป็นทีมกลางตารางไปแล้วในฤดูกาลนี้ หลังทำผลงานแบบไม่มีความคงเส้นคงวาเลย พวกเขาเพิ่งชนะแค่ 5 นัดเท่านั้นในลีก (ไม่นับเกมกับ นิวคาสเซิ่ล) ปัญหาสำคัญอยู่ที่แนวรับ ซึ่งวัยเข้าสู่หลัก 3 กันถ้วนหน้า รวมถึง 2 ความหวังใหม่อย่าง โรเมลู ลูกากู กับ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ยังไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนที่ผ่านมา
        คะแนน : 5/10

---------------------

        ฮัลล์ ซิตี้
        ผู้จัดการทีม : สตีฟ บรูซ
        การเสริมทัพ : เจค ลิเวอร์มอร์ (8 ล้านปอนด์), โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ (7 ล้านปอนด์), ไมเคิ่ล ดอว์สัน (3.5 ล้านปอนด์), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (2.85 ล้านปอนด์), ทอม อินซ์ (รอตกลงค่าตัว), โมฮาเหม็ด ดิยาเม่ (ไม่เปิดเผย), อเบล เอร์นานเดซ (ไม่เปิดเผย), กัสตอน รามิเรซ (ยืมตัว), ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา (ยืมตัว) 
        ดาวเด่น : โมฮาเหม็ด ดิยาเม่
        เพิ่งย้ายมาค้าแข้งในถิ่น เคซี สเตเดี้ยม ไม่นาน แต่ ดิยาเม่ สถาปนาตัวเองเป็นกำลังสำคัญของ ฮัลล์ อย่างรวดเร็วด้วยบทบาทมิดฟิลด์จอมทำประตูหลังกดไปแล้ว 4 ประตู แต่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องร้างสนามไปจนถึงช่วงต้นปีหน้าเป็นอย่าง น้อย
        ดาวดับ : ทอม อินซ์
        อีกหนึ่งสมาชิกใหม่ที่มาด้วยความหวังว่าจะยกระดับทัพ "ไทเกอร์ส" เนื่องจากเป็นดาวรุ่งฟอร์มแรงกับ แบล็คพูล จนได้รับความสนใจจากหลายสโมสรก่อนหน้านี้ ทว่า ดาวเตะวัย 22 ปี กลับไม่สามารถทำผลงานตามความคาดหวังหลังได้เล่นไม่กี่นัดก่อนโดนปล่อยตัวให้ ฟอเรสต์ ยืมตัวไปในใช้งานในที่สุด
        ผลงาน :  ฮัลล์ ทำตัวน่าผิดหวังอย่างแรง แม้เปิดหัวซีซั่นใหม่ด้วยชัยชนะแต่หลังจากนั้นอีก 17 นัดในลีก (ไม่นับเกมกับ เลสเตอร์ ซิตี้) พวกเขาเพิ่งชนะแค่ 2 ครั้ง โดยแพ้ไปถึง 8 นัด หล่นไปอยู่โซนท้ายตารางแล้ว แถมมีปัญหาในเรื่องการทำประตูอีก หากยังไม่กระเตื้องขึ้นมา คงต้องโบกมือลา พรีเมียร์ลีก ไปในเร็วๆนี้
        คะแนน : 3/10

        ---------------------

        เลสเตอร์ ซิตี้
        ผู้จัดการทีม : ไนเจล เพียร์สัน
        การเสริมทัพ : เลโอนาร์โด้ อูยัว (8 ล้านปอนด์), แมทธิว อัพสัน (-), มาร์ค อัลไบรท์ตัน (-), เบน ฮาเมอร์ (-), เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ (-)
        ดาวเด่น : เลโอนาร์โด้ อูยัว
        อูยัว ย้ายมาร่วมทัพ "เดอะ ฟ็อกซ์" ด้วยค่าตัวสถิติสโมสรและไม่ใช้เวลานานในการเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอลหลังกด ไป 6 ประตูในช่วง 5 นัดแรกระหว่างที่ เลสเตอร์ กำลังทำผลงานน่าประทับใจก่อนฟอร์มดร็อปไปพร้อมกันตอนนี้ ล่าสุด หัวหอกเลือดอาร์เจนไตน์ กลายเป็นสำรองถาวรเสียแล้ว
        ดาวดับ : เดวิด นิวเจนท์
        ถึงเคยขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ก่อนหน้านี้ แถมครองตำแหน่งดาวซัลโวช่วยให้ เลสเตอร์ เลื่อนชั้นกลับมาเล่นในลีกสูงสุดอีกครั้งแต่ นิวเจนท์ ไม่ได้นำประสบการณ์มาช่วยเหลือทีมเลย แถมกลายสภาพเป็นหัวหอกจอมฝืดเมื่อทำได้แค่ประตูเดียวในซีซั่นนี้
        ผลงาน :  โชว์ฟอร์มร้อนแรงดูมีอนาคตในช่วงเปิดฤดู กาล แต่หลังจากสร้างปาฏิหาริย์พลิกชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 5-3 "เดอะ ฟ็อกซ์" ไม่ชนะใครอีกเลย โดยแพ้ถึง 11 จาก 13 นัดล่าสุด (ไม่นับเกมกับ ฮัลล์ ซิตี้) มองว่าแทบไม่มีอนาคตเลยสำหรับพวกเขาในการเอาตัวรอดใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้
        คะแนน : 3/10

        ---------------------

        ลิเวอร์พูล
        ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
        การเสริมทัพ : มาริโอ บาโลเตลลี่ (16 ล้านปอนด์), อัลเบร์โต้ โมเรโน่ (12 ล้านปอนด์), อดัม ลัลลาน่า (25 ล้านปอนด์), เดยัน ลอฟเรน (20 ล้านปอนด์), ลาซาร์ มาร์โควิช (20 ล้านปอนด์), ดิว็อค โอริกี้ (10 ล้านปอนด์), เอ็มเร่ ชาน (9.75 ล้านปอนด์), ริคกี้ แลมเบิร์ต (4 ล้านปอนด์), ฆาบี มานกีโย่ (ยืมตัว)
        ดาวเด่น : ราฮีม สเตอร์ลิง
        สเตอร์ลิง รักษาฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องตั้งแต่แจ้งเกิดขึ้นมาเมื่อซีซั่นที่แล้ว ล่าสุด เจ้าหนูวัย 20 ปี กลายเป็นความหวังสูงสุดในการล่าประตูของ "หงส์แดง" ในยามที่ไร้เงา แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่กำลังพักรักษาตัวต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล โดยตอนนี้โดนดันขึ้นไปรับบทกองหน้าจำเป็นแล้ว และมีแววทำได้ดีเสียด้วย
        ดาวดับ : มาริโอ บาโลเตลลี่
        บาโลเตลลี่ ถูกดึงตัวมาค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ ในฐานะตัวแทนของ หลุยส์ ซัวเรซ ทว่ากลับทำไม่ได้ใกล้เคียงกับความคาดหวังของเหล่า "เดอะ ค็อป" แถมร้ายกว่านั้นคือไม่ได้ทพอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้ทีมเลย ซ้ำยังมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมและทัศนคติอีก เห็นทีคงอาจได้เห็นการเดินทางครั้งใหม่ของเขาในเร็วๆนี้
        ผลงาน :  ลิเวอร์พูล เป็นตัวอย่างของคำว่าพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ พวกเขาเป็นถึงรองแชมป์ลีกซีซั่นก่อน แต่กลับหล่นไปอยู่กลางตารางชนิดที่อาจหมดลุ้นกลับไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้งในฤดูกาลนี้ สาเหตุหลักของความล้มเหลวคือการต้องเสีย หลุยส์ ซัวเรซ รวมถึงบรรดาแข้งดังที่ทุ่มทุนเสริมทัพยังไม่มีใครระเบิดฟอร์มเก่งได้เสียที คงได้แต่ต้องรอ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กลับมากู้วิกฤตครั้งนี้เพียงทางเดียว
        คะแนน : 3/10

        ---------------------

        แมนเชสเตอร์ ซิตี้
        ผู้จัดการทีม : มานูเอล เปเยกรินี่
        การเสริมทัพ : เอเลียควิม ม็องกาล่า (32 ล้านปอนด์), แฟร์นันโด (12 ล้านปอนด์), วิลลี่ กาบาเยโร่ (6 ล้านปอนด์), บาการี่ ซาญ่า (-), แฟรงค์ แลมพาร์ด (ยืมตัว)
        ดาวเด่น : เซร์คิโอ อเกวโร่
        อเกวโร่ ระเบิดฟอร์มเทพต่อเนื่องหลังฤดูกาลนี้ก้าวขึ้นไปเป็นดาวซัลโวของ พรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวน 14 ประตู แต่ว่าตอนนี้เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน คงพบกันใหม่ในช่วงต้นปีหน้า หาก "เรือใบสีฟ้า" อยากสมหวังในการป้องกันแชมป์ลีก ก็คงต้องอธิษฐานให้ "กุน" ไร้โรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าอย่างในช่วงที่ผ่านมา
        ดาวดับ : เอเลียควิม ม็องกาล่า
        ยืดเยื้อเป็นมหากาพย์สำหนับ ม็องกาล่า กว่าจะได้ย้ายจาก ปอร์โต้ มาร่วมทัพ "เรือใบสีฟ้า" ด้วยค่าตัวแทนแพง ทว่ากลับทำผลงานน่าผิดหวังไม่สมกับการรอคอย ทั้งที่ควรจะมาเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวจริงคู่กับ แว็งซ็องต์ ก็องปานี แต่กลายเป็นตัวเลือกอันดับ 3 หากแนวรับในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ฟิตสมบูรณ์กันถ้วนหน้า
        ผลงาน : "เรือใบสีฟ้า" เริ่มต้นเส้นทางสู่การป้องกันแชมป์ลีกแบบตะกุกตะกักหลังสะดุดนิดหน่อยในช่วง แรกๆ ก่อนติดเครื่องฟาดชัยต่อเนื่องจนกระโดดขึ้นมารั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงเรียบร้อย แล้ว แม้เจอปัญหานักเตะแกนหลักบาดเจ็บต่อเนื่อง ต้องรอดูต่อไปว่าพวกเขาจะแกร่งพอสำหรับการเป็นทีมที่ 3 ต่อจาก แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี ในการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
        คะแนน : 8/10

        ---------------------

        แมนฯ ยูไนเต็ด
        ผู้จัดการทีม : หลุยส์ ฟาน กัล
        การเสริมทัพ : อังเคล ดิ มาเรีย (59.37 ล้านปอนด์), ลุค ชอว์ (30 ล้านปอนด์), อันเดร์ เอร์เรร่า (28.8 ล้านปอนด์), มาร์กอส โรโฮ (16 ล้านปอนด์), ดาเล่ย์ บลินด์ (13.8 ล้านปอนด์), ราดาเมล ฟัลเกา (ยืมตัว)
        ดาวเด่น : ดาบิด เด เคอา
        แม้ประจำการอยู่เพียงหน้าปากประตูตัวเอง แต่ เด เคอา งัดฟอร์มซูเปอร์เซฟเป็นฮีโร่กู้ชีพของ แมนฯ ยูไนเต็ด มานักต่อนักในซีซั่นนี้ เป็นผู้เล่น ''ปีศาจแดง'' คนเดียวที่ทำผลงานคงเส้นคงวาที่สุดในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล จนถูกลือว่าอาจโดนดึงตัวกลับบ้านเกิดไปเฝ้าเสากับ เรอัล มาดริด ด้วย
        ดาวดับ : ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์
        จากมิดฟิลด์จอมขยันกลายเป็นกองกลางที่เหลือแต่ความเก๋าไปแล้วสำหรับ เฟล็ทเชอร์ หลังต่อสู้กับโรคร้ายที่รุมเร้ามาร่วม 2 ปี ''เฟล็ทช์'' เชื่องช้าไปกว่าเดิมทำให้คงไม่เข้ากับสไตล์ของ ''แอลวีจี'' ที่เน้นสปีดบอลฉับไว แถมเจอการเข้ามาของ ดาเล่ย์ บลินด์ ทำให้เจ้าตัวอาจยุติช่วงเวลากับ ''ปีศาจแดง'' เร็วๆ นี้
ผลงาน :  อุตส่าห์ทุ่มทุนเสริมทัพมหาศาลเมื่อซัมเมอร์ แต่กลับเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บเล่นงานตั้งแต่เปิดซีซั่นจนถึงทุกวันนี้ ทำให้ผลงานลุ่มๆ ดอนๆ ไร้ความสม่ำเสมอในระยะแรกๆ แต่ หลุยส์ ฟาน กัล ยังเข็น ''ปีศาจแดง'' ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 พร้อมทำสถิติไร้พ่ายมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ถ้าฟูลทีมเมื่อไร เมื่อนั้นพวกเขาพร้อมล่าแชมป์แน่นอน
        คะแนน : 7.5/10

        ---------------------


        นิวคาสเซิ่ล
        ผู้จัดการทีม : อลัน พาร์ดิว
        การเสริมทัพ : เรมี่ กาแบลล่า (12 ล้านปอนด์), คาร์ล ดาร์โลว์+จามาล ลาสเซลล์ส (7 ล้านปอนด์), เอ็มมานูแอล ริวิแยร์ (6.3 ล้านปอนด์), เซียม เดอ ยอง (6 ล้านปอนด์), ดาริล ยันมาต (5 ล้านปอนด์), อโยเซ่ เปเรซ (1.5 ล้านปอนด์), แจ็ค โคลแบ็ค (-), ฟาคุนโด้ เฟร์เรย์ร่า (ยืมตัว)
        ดาวเด่น : อโยเซ่ เปเรซ
        นับเป็นเพชรเม็ดงามในราคาลดกระหน่ำ พาร์ดิว สายตาเฉียบคมเหลือเกินกับการดึงแข้งโนเนมอย่าง เปเรซ มาร่วม แต่ ดาวเตะวัย 21 ปี ใช้เวลาไม่นานในการสร้างชื่อให้ตัวเองด้วยการกดไปแล้ว 4 ประตูในลีกและก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในแดนหน้าของ ''สาลิกาดง'' เรียบร้อยแล้ว
        ดาวดับ : เรมี่ กาแบลล่า
        ย้ายทีมด้วยค่าตัวค่อนแข้งแพงในฐานะความหวังใหม่ในแผงรุก แต่ กาแบลล่า ยังไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งเหมือนเมื่อครั้งที่ช่วยให้ มงต์เปลลิเย่ร์ คว้าแชมป์ลีก เอิง เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร โดยเจ้าตัวยังเป็นตัวเลือกลำดับรองๆ ในแผนการทำทีมของ พาร์ดิว ในเวลานี้
        ผลงาน : นิวคาสเซิ่ล รูดม่านเปิดฉากซีซั่นนี้อย่างน่าผิดหวังด้วยไม่ชนะ 6 นัดรวดก่อนมาติดเครื่องจนกระโดดขึ้นมาอยู่ครึ่งบนของตารางหลังฟาดชัยติดกัน ใน 5 เกมถัดมา โดยก่อนหน้านี้เจอปัญหาแข้งเดี้ยงแบบบานตะไทก่อนเริ่มทยอยกันกลับมาแล้ว ทว่า ผลงานต่อไปไม่รู้ว่าดีขึ้นหรือแย่ลงเมื่ออาจต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงครั้ง ใหญ่กับการที่ อลัน พาร์ดิว อาจอำลาตำแหน่งในเร็วๆ นี้
        คะแนน : 6/10


        ---------------------

        ควีนส์ปาร์ค
        ผู้จัดการทีม : แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์
        การเสริมทัพ : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ (ไม่เปิดเผย), สตีเว่น คอลเกอร์ (8.5 ล้านปอนด์), ลีรอย เฟอร์ (8 ล้านปอนด์), จอร์ดอน มัตช์ (6 ล้านปอนด์), แจ็ค โรบินสัน (1 ล้านปอนด์), เมาริซิโอ อิสล่า (ยืมตัว), เอดูอาร์โด้ วาร์กาส (ยืมตัว), ซานโดร (6 ล้านปอนด์), นิโก้ ครานชาร์ (ยืมตัว), ริโอ เฟอร์ดินานด์ (-)
        ดาวเด่น : ชาร์ลี ออสติน
        จากผู้เล่นนอกลีก ออสติน ผลักดันตัวเองจนขึ้นมาเป็นหนึ่งในหัวหอกแถวหน้าของ พรีเมียร์ลีก เรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวใช้เวลาสักพักใหญ่ในการปรับตัวกับลีกสูงสุดเมืองผู้ดีก่อนรัวกระสุน ต่อเนื่องโดยทำไปแล้ว 12 ประตู เรียกความสนใจจากยักษ์ใหญ่ร่วมลีกจนได้ คงไม่ผิดหากจะบอกว่าการอยู่รอดของ ''ทหารเสือราชินี'' ขึ้นอยู่กับ ดาวยิงวัย 25 ปี รายนี้    
        ดาวดับ : ริโอ เฟอร์ดินานด์
        กลายเป็นส่วนเกินของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ เฟอร์ดินานด์ ยังสนุกกับชีวิตค้าแข้งเลยออกมาหาการผจญภัยครั้งใหม่กับ คิวพีอาร์ ทว่า ด้วยวัยที่ปาเข้าไป 36 ปีแล้ว แทนที่จะใช้ประสบการณ์ช่วยเหลือทีม กลับเป็นภาระเสียอีก คงใกล้ถึงเวลาเต็มทีแล้วสำหรับเขาในการอำลาสังเวียนแข้ง
        ผลงาน : วนเวียนอยู่แถวท้ายตารางตามมาตรฐานทีมน้องใหม่ แต่ระยะหลังเริ่มคว้าชัยให้เห็นบ่อยๆ ต้องยกความดีความชอบให้แฟนบอล เนื่องจากสถิติยามเฝ้ารังถือว่ายอดเยี่ยม โดยชัยชนะทั้ง 5 นัดในซีซั่นนี้เกิดขึ้นใน ลอฟตัส โร้ด ทั้งหมด หากจะเอาตัวรอดบนลีกสูงสุด คงได้แต่ฝากความหวังไว้กับผลงานในเกมเหย้าอย่างเดียวแล้ว
        คะแนน : 4/10

        ---------------------


        เซาธ์แฮมป์ตัน
        ผู้จัดการทีม : โรนัลด์ คูมัน
        การเสริมทัพ : เชน ลอง (12 ล้านปอนด์), ดูซาน ทาดิช (10.9 ล้านปอนด์), เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ (10 ล้านปอนด์), ซาดิโอ มาเน่ (10 ล้านปอนด์), กราเซียโน่ เปลเล่ (9 ล้านปอนด์), ฟลอริน การ์ดอส (6 ล้านปอนด์), ไรอัน เบอร์ทรานด์ (ยืมตัว), โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ (ยืมตัว)
        ดาวเด่น : โชเซ่ ฟอนเต้
        เลือกยากมากสำหรับแข้งเด่นของ เซาธ์แฮมป์ตัน เนื่องจากทุกคนต่างระเบิดฟอร์มจนพาทีมขึ้นมาถึงหัวตารางอย่างสง่าผ่าเผย แต่สุดท้ายขอจิ้ม โชเซ่ ฟอนเต้ ปราการหลังกัปตันทีม หนึ่งในแกนหลักจากซีซั่นก่อน ที่ช่วยให้แนวรับ ''นักบุญ'' แข็งแกร่งเป็นภูผาหิน โดยเสียไปเพียง 15 เม็ด น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ในลีกเวลานี้
        ดาวดับ : เชน ลอง
        ย้ายมาด้วยค่าตัวแพงสุดติด 5 อันดับแรกของสโมสร แต่ยังไม่ระเบิดฟอร์มตอบแทน ''นักบุญ'' แบบเต็มเม็ดหน่วย อันที่จริง ลอง โชว์ฟอร์มน่าประทับใจในแง่ของการช่วยเกมรุก แต่น่าผืดหวังในแง่ของจำนวนประตูเมื่อทำได้เพียง 2 เม็ดเท่านั้นจนถึงซีซั่นนี้
        ผลงาน : หักปากกาเซียนกันถ้วนหน้าสำหรับ ''นักบุญ'' ในยุคของ โรนัลด์ คูมัน เนื่องจากโดนสบประมาทว่าอาจเอาตัวไม่รอดเนื่องจากขายแกนหลักออกไปเพียบทั้ง ริคกี้ แลมเบิร์ต, อดัม ลัลลาน่า, เดยัน ลอฟเรน, ลุค ชอว์ และ คาลั่ม แชมเบอร์ส แต่พวกเขากลับระเบิดฟอร์มแกร่งกว่าเดิมถึงขั้นรั้งรองจ่าฝูงมาพักใหญ่แล้ว เป้าหมายในเวลานี้คงเป็นการจองพื้นที่ฟุตบอลยุโรปแล้ว
        คะแนน : 9/10

        ---------------------


        สโต๊ค ซิตี้
        ผู้จัดการทีม : มาร์ค ฮิวจ์ส
        การเสริมทัพ : โบยาน เกร์กิช (3 ล้านปอนด์), ดิโอนาตาน เตเซร่า (ไม่เปิดเผย), มาเม่ บิราม ดิยุฟ (-), ฟิล บาร์ดสลี่ย์ (-), สตีฟ ซิดเวลล์ (-), วิคเตอร์ โมเสส (ยืมตัว), อุสซาม่า อัสไซดี้ (ยืมตัว)
        ดาวเด่น : โบยาน เกร์กิช
        ตั้งแต่ทะลุปล้องแจ้งเกิดขึ้นมากับ บาร์เซโลน่า โบยาน มีแต่จะดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ ก่อนมาพบ สโต๊ค ซิตี้ ที่ให้โอกาสอีกครั้ง ช่วงแรกๆ ดาวเตะวัย 24 ปี ใช้เวลาปรับตัวจนต้องนั่งสำรองบ่อยๆ ก่อนเริ่มฉายแววเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นดาวรุ่งในระยะหลังและยึดตำแหน่งตัว จริงในแผงรุกของ ''ช่างปั้นหม้อ'' ไปแล้ว 
        ดาวดับ : สตีเฟ่น ไอร์แลนด์
        ยังคงไม่สามารถระเบิดฟอร์มเก่งเหมือนตอนเป็นดาวรุ่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สำหรับ ไอร์แลนด์ ล่าสุดโดนปัญหาบาดเจ็บรุมเร้าต่อเนื่องจนไม่สามารถปักหลักเป็นตัวจริงอย่าง ต่อเนื่อง แต่หากฟิตเต็มถังเมื่อไร เชื่อได้เลยว่า ''ช่างปั้นหม้อ'' จะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่นอน
        ผลงาน : ''ช่างปั้นหม้อ'' ทำผลงานขึ้นๆ ลงๆ ตามมาตรฐานทีมกลางตารางจากซีซั่นที่แล้ว โดยช่วงเปิดซีซั่น พวกเขาสร้างปาฏิหาริย์ด้วยการบุกเชือดแชมป์เก่า แมนฯ ซิตี้ 1-0 แต่ก็ไม่สามารถรักษาความคงเส้นคงวาไว้ได้ ทว่า ก็เป็นทีมที่แพ้ยาก ถือว่าแบ่งแต้มจากทีมหัวแถวมาเยอะพอสมควร เป้าหมายคงเป็นการจบในครึ่งบนของตารางอีกครั้ง
        คะแนน : 6/10


        ---------------------

        ซันเดอร์แลนด์
        ผู้จัดการทีม : กุสตาโว่ โปเยต์
        การเสริมทัพ : แจ็ค ร็อดเวลล์ (10 ล้านปอนด์), วิลล์ บัคลี่ย์ (2.5 ล้านปอนด์), พาทริค ฟาน อานโฮลท์ (ไม่เปิดเผย), จอร์ดี้ โกเมซ (-), บิลลี่ โจนส์ (-), คอสเตล ปันติลิม่อน (-), ซานติอาโก้ เวร์กินี่ (ยืมตัว), ริคาร์โด้ อัลวาเรซ (ยืมตัว), เซบาสเตียน โคอาเตส (ยืมตัว)
        ดาวเด่น : คอนเนอร์ วิคแฮม
        จากนักเตะที่แทบหมดอนาคตในถิ่นสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ หลังโดนปล่อยยืมตัวอย่างต่อเนื่อง วิคแฮม พัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นตัวหลักในแผงรุกของ ''แมวดำ'' ไปเรียบร้อยแล้ว แม้จำนวนประตูน้อยไปนิด แต่ถือเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของ โปเยต์ เลยทีเดียว
        ดาวดับ : แจ็ค ร็อดเวลล์
        หมดสภาพอดีตหนึ่งในดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการลูกหนังเมืองผู้ดีตั้งแต่ เลือกย้ายไปร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ร็อดเวลล์ เริ่มตาสว่างโดยไม่ขอทู่ซี้เป็นตัวสำรอง และเลือกย้ายมาหาโอกาสเป็นตัวจริงต่อเนื่องกับ ''แมวดำ'' ทว่า จนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มน่าประทับใจและเป็นเพียงตัวประกอบของทีม เท่านั้น
        ผลงาน : ซันเดอร์แลนด์ เป็นทีมจอมเสมอประจำครึ่งแรกของ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ หลังเสมอไปแล้ว 11 จาก 19 นัดที่ผ่านมา โดยปัญหาหลักอยู่ที่แนวรุกซึ่งยังคงขาดแคลนเรื่องจำนวนประตู อันอาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาต้องไปดิ้นรนหนีตกชั้นอีกครั้ง
        คะแนน : 5/10

        ---------------------

        สวอนซี ซิตี้
        ผู้จัดการทีม : แกร์รี่ มังค์
        การเสริมทัพ : เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ (7 ล้านปอนด์), เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ (4 ล้านปอนด์), มาร์วิน เอ็มเนส (1.5 ล้านปอนด์), ลูคัส ฟาเบียนสกี้ (-), บาเฟติมบี้ โกมิส (-), โมดู บาร์โรว์ (ไม่เปิดเผย)
        ดาวเด่น : กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน
        หลังไม่ประสบความสำเร็จกับชีวิตค้าแข้งที่ สเปอร์ส ซิกูร์ดส์สัน เลยเลือกย้ายกลับมาร่วมทัพ ''หงส์ขาว'' ที่เจ้าตัวเคยระเบิดฟอร์มเทพเมื่อครั้งเป็นตัวยืมจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ ''ซิกกี้'' ใช้เวลาไม่นานในการเค้นฟอร์มเทพออกมาอีกครั้ง โดยเป็นกำลังหลักของ สวอนซี คู่กับกองหน้าคนสำคัญอย่าง วิลฟรีด โบนี่ ในเวลานี้
        ดาวดับ : บาเฟติมบี้ โกมิส
        เจ้าของฉายา ''เบบี้ ดร็อกบา'' ไม่ได้เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในแดนหน้าของ วิลฟรีด โบนี่ เลยเมื่อไม่ได้แสดงความน่าครั่นคร้ามแก่เหล่ากองหลังใน พรีเมียร์ลีก สักเท่าไร เนื่องจากเพิ่งทำได้เพียงประตูเดียวเท่านั้นในสีเสื้อ ''หงส์ขาว'' ทว่า อาจไม่ต้องผิดหวังเมื่อคิดว่าได้ตัวมาร่วมทัพแบบฟรีๆ
        ผลงาน : สวอนซี ภายใต้การคุมทัพแบบเต็มตัวของ แกร์รี่ มังค์ เป็นซีซั่นแรก เปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยการฟาดชัย 3 นัดรวดขึ้นไปเริงร่าบนหัวแถว ทว่า ''หงส์ขาว'' มาปีกหักด้วยการไม่ชนะ 5 เกมติดร่วงมาอยู่แถวกลางตารางและยังบินไม่ขึ้นจนถึงตอนนี้ แถมช่วงต้นปีหน้าต้องมาเสีย วิลฟรีด โบนี่ ไปรับใช้ชาติอีก แต่คงไม่เลวร้ายถึงขั้นหลุดไปโซนท้ายตารางแน่นอน
        คะแนน : 7/10

        ---------------------

        ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
        ผู้จัดการทีม : เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
        การเสริมทัพ : เฟเดริโก้ ฟาซิโอ (8 ล้านปอนด์), เบน เดวิส (8 ล้านปอนด์), มิเชล ฟอร์ม (4.5 ล้านปอนด์), เอริก ดายเออร์ (4 ล้านปอนด์), เดอันเดร เยดลิน (2.5 ล้านปอนด์), เบนฌาแม็ง สต็อมบูลี่ (ไม่เปิดเผย)
        ดาวเด่น : แฮร์รี่ เคน
        ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในแดนหน้าของ สเปอร์ส อย่างเต็มตัวในยามที่รุ่นพี่อย่าง โรเบร์โต้ โซลดาโด้ กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ โชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานในฐานะหัวหอก โดยจนถึงเวลานี้ เคน ทำไปแล้ว 15 ประตูรวมทุกรายการ และคงไม่ใช่เรื่องแปลกใจหากจะถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ในเร็วๆ นี้
        ดาวดับ : ยูเนส กาบุล
        ได้รับตำแหน่งกัปตันทีมคนใหม่ของ ''ไก่เดือยทอง'' เมื่อตอนต้นซีซั่น แต่กลับไม่ทำผลงานเป็นเสาหลักให้ทีมพึ่งพาได้เลย โดยเป็นบ่อในแนวรับจนล่าสุดกลายเป็นตัวเลือกรองมาจากคู่ปราการหลังตัวจริง อย่าง แยน แฟร์ต็องเก้น และ เฟเดริโก้ ฟาซิโอ ไปแล้ว
        ผลงาน : เริ่มต้นแบบกระท่อนกระแท่นสำหรับ โปเช็ตติโน่ ในฤดูกาลแรกบนเก้าอี้กุนซือ ''ไก่เดือยทอง'' ทว่า เริ่มมาพัฒนาผลงานต่อเนื่องในระยะหลังโดยไร้พ่ายต่อเนื่องในลีกมาตั้งแต่ ช่วงต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยยังเกาะกลุ่มลุ้นพื้นที่ยุโรปตามมาตรฐานของตัวเอง
        คะแนน : 6.5/10

        ---------------------

        เวสต์บรอมวิช
        ผู้จัดการทีม : ร็อบ เคลลี่ (รักษาการ)
        การเสริมทัพ : เซบาสเตียน บลังโก้ (ไม่เปิดเผย), บราวน์ อิเดเย่ (10 ล้านปอนด์), เซบาสเตียง โปโกโญลี่ (1.5 ล้านปอนด์), เจสัน เดวิดสัน (ไม่เปิดเผย), คริสเตียน กัมบัว (ไม่เปิดเผย), จอร์จอส ซามาราส (-), เคร็ก การ์ดเนอร์ (-), โจลีออน เลสค็อตต์ (-), คริส แบร์ด (-), อันเดร วิสดอม (ยืมตัว), ซิลเวสเตร วาเรล่า (ยืมตัว)
        ดาวเด่น : ไซโด้ เบราฮิโน่
        เบราฮิโน่ กลายเป็นชื่อติดหูของแฟนบอลเมืองผู้ดีไปแล้วสำหรับความร้อนแรงในช่วงต้นซี ซั่น แม้ผลงานของ ''แบ็กกี้ส์'' จะอยู่ในเกณฑ์น่าผิดหวังก็ตาม ดาวยิงวัย 21 ปี ทำไปแล้ว 7 ประตูในลีก ซีซั่นนี้ โดยแม้ว่าจะปืนฝืดในระยะหลัง แต่เชื่อว่าอาจถูกจีบไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่ในเร็วๆ นี้
        ดาวดับ : บราวน์ อิเดเย่
        ย้ายมาพร้อมความหวังในฐานะเครื่องจักรถล่มประตู หลัง เวสต์บรอมวิช อุตส่าห์ทุ่มเงินก้อนโตไปคว้าตัวมาจาก ดินาโม เคียฟ ทว่า อิเดเย่ ไม่สามารถสร้างความประทับใจแก่ เออร์ไวน์ แถมเจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงานต่อเนื่องจนไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้ตามที่ หลายฝ่ายคาดหวัง
        ผลงาน : เวสต์บรอมวิช ทำผลงานในซีซั่นนี้อย่างน่าผิดหวัง โดยแม้ฟอร์มจะไม่ได้แย่ แต่กลับไม่ได้ผลการแข่งขันตามที่ต้องการ โดยแพ้ไปแล้วถึง 10 นัด มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในลีกเวลานี้ ล่าสุด อลัน เออร์ไวน์ โดนปลดออกจากตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว ต้องรอดูกันต่อไปว่ากุนซือคนต่อไปจะมาช่วยให้ทีมดีขึ้นจากสถานะทีมที่ต้อง หนีตกชั้นได้หรือไม่
        คะแนน : 4/10

        ---------------------

        เวสต์แฮม
        ผู้จัดการทีม : แซม อัลลาร์ไดซ์
        การเสริมทัพ : อเล็กซ์ ซง (ยืมตัว), เอ็นเนร์ วาเลนเซีย (12 ล้านปอนด์), อารอน เครสเวลล์ (3.75 ล้านปอนด์), ชีคู คูยาเต้ (ไม่เปิดเผย), เมาโร ซาราเต้ (ไม่เปิดเผย), ดิยาฟร่า ซาโก้ (ไม่เปิดเผย), ดีเอโก้ โปเยต์ (ค่าชดเชย), คาร์ล เจนกินสัน (ยืมตัว), มอร์กาน อมัลฟิตาโน่ (ไม่เปิดเผย)
        ดาวเด่น : ดิยาฟร่า ซาโก้
        สร้างความเซอร์ไพรส์กับใครหลายคนเมื่อ เวสต์แฮม ไปคว้าตัวกองหน้าจากลีกรองเมืองน้ำหอม ทว่า ซาโก้ ใช้เวลาไม่นานในการปรับตัวหลังทำไปแล้ว 7 ประตูช่วยให้ ''ขุนค้อน'' กระโดดขึ้นมาอยู่ครึ่งบนของตารางอย่างไม่ต้องอายใคร
        ดาวดับ : เมาโร ซาราเต้
        เป็นผู้เล่นที่หลายคนคาดหวังว่าจะเข้ามายกระดับ ''เดอะ แฮมเมอร์ส'' ด้วยประสบการณ์ค้าแข้งมากมายกับ อินเตอร์ มิลาน และ ลาซิโอ ทว่า ซาราเต้ ยังไม่สามารถเกาะกุมตำแหน่งตัวจริงในถิ่น โบลีน กราวนด์ แถมโดนหัวหอกที่ย้ายมาในเวลาไล่เลี่ยกันอย่าง ซาโก้ และ เอ็นเนร์ วาเลนเซีย บดบังรัศมีไปแล้ว
        ผลงาน : กลายเป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ สำหรับลูกทีมของ ''บิ๊กแซม'' ที่กล้าหาญถึงขั้นพุ่งพรวดไปลอยลำบนหัวแถวเวลานี้ ต้องขอบคุณความร้อนแรงของ ซาโก้ รวมถึงการกลับมาเกิดใหม่ของ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง หากยังยืนระยะได้อย่างต่อเนื่อง พวกเขาน่าจะได้ไล่ล่าตั๋วฟุตบอลยุโรปอย่างสนุกในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล
        คะแนน : 8/10

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • เชิ้ตดำขอโทษมูหลังไม่ให้จุดโทษเกมเจ๊านักบุญ
    เดลี่ เมล สื่อของเกาะอังกฤษ ประโคมข่าว กรรมการ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ถึงกับรีบไปขอโทษ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม เชลซี จากการที่เขาไม่ยอมให้ "สิงห์บลูส์" ได้ลูกจุดโทษในจังหวะที่ เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์ชาวสแปนิช โดนดึงล้มลงในกรอบเขตโทษ ในเกมที่ เชลซี เจ๊ากับ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แถมยังแจกใบเหลืองให้ ฟาเบรกาส อีกต่างหากเพราะไปมองว่าพยายามพุ่งล้ม
  • งูเล็งยืมซาลาห์จากสิงห์
    โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกส่วนเกินของ เชลซี ตกเป็นเป้าหมายในการเสริมทัพของ อินเตอร์ มิลาน ในช่วงตลาดนักเตะต้นปีหน้า โดย "งูใหญ่" พร้อมยืมดาวเตะชาวอียิปต์ไปใช้งานนาน 1 ปีครึ่งเลยทีเดียว
  • ซุ่มเงียบ! สิงห์จ่อรวบหอกโครแอตเสริมคมแดนหน้า
    สิงโตน้ำเงินครามใกล้ซิวกองหน้าโครเอเชียวัย 23 กะรัต ร่วมทัพเป็นรายแรกในเดือนมกราคมนี้โกลได้รับรายงานว่า เชลซี จ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีก จ่อรวบตัว อันเดรย์ ครามาริค ดาวยิงสโมสรริเยก้า ทีมในลีกโครเอเชียเสริมแนวรุกภายในสัปดาห์นี้
  • สิงห์โดนใบเหลืองข้อหาพุ่งล้มเยอะสุด
    อ็อปต้า บริษัทรวบรวมสถิติดัง เผย ในตอนนี้ เชลซี คือทีมที่โดนใบเหลืองจากข้อหาพุ่งล้มเยอะสุดด้วยจำนวน 4 ครั้ง ขณะที่ทีมในอันดับ 2 ของชาร์ตนี้อย่าง แมนฯ ซิตี้ กับ ซันเดอร์แลนด์ โดนไปทีมละ 2 ใบ

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »