ไฮไลต์อองรี...6ลูกยิงเล่าขานไม่รู้เบื่อ
Posted 01/01/2015 by siamsport
คงทราบกันไปแล้วว่า เธียร์รี่ อองรี ประกาศรีไทร์จากอาชีพพ่อค้าแข้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นไป อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส จะเริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะกูรูลูกหนัง และทูตของสกาย สปอร์ตส์
แม้อดีตยอดดาวยิงจะผ่านการค้าแข้งมากับหลายสโมสรไล่ตั้งแต่โมนาโก, ยูเวนตุส, อาร์เซน่อล, บาร์เซโลน่า ก่อนจะแขวนรองเท้ากับนิวยอร์ก เร้ด บูลล์ส แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาโด่งดังที่สุด และประสบความสำเร็จสูงสุดกับทีมปืนใหญ่
ฉะนั้นแล้ว ก่อนที่เจ้าของนิกเนมสุดคิกขุ "ติตี้" จะผันตัวเองไปเป็นคอมเมนเตเตอร์ให้กับสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษในปีหน้า เรามาลองไล่ดูกันดีกว่าว่าสมัยยังค้าแข้งกับเดอะ กันเนอร์ส อดีตหัวหอกเฟร้นช์แมน เคยสร้างวีรกรรมอะไรเอาไว้บ้าง ที่ถือเป็นไฮไลต์เฉพาะตัวสามารถนำมาเล่าขานได้อย่างไม่รู้เบื่อ
"ลูกวอลเลย์กำราบผีแดง"
อาร์เซน่อล 1 - แมนฯ ยูไนเต็ด 0 / ต.ค. 2000
ต้องยอมรับความจริงว่าอองรีมีฟอร์มที่ไม่สู้ดีเอาซะเลยในช่วงต้นซีซั่น นัดปะทะกับแมนฯ ยูไนเต็ด เจ้าของตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก
ยิ่งไปกว่านั้น เขาพังประตูให้อาร์เซน่อลไม่ได้หกนัดติดต่อกันแล้ว ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเปิดบัญชีสอยตาข่ายให้ท็อปกันเมื่อปีก่อน
เมื่อสถานการณ์บีบคั้นถึงเพียงนี้ อองรีจึงย่อมคิดอยู่ในใจถึงการทำในสิ่งที่ไม่ปกติธรรมดา
ชิลส์ กริม็องดี้ ผ่านบอลตามปกติมาที่เท้าของศูนย์หน้าตัวฉกาจ ซึ่งอยู่ห่างจากปากประตูทีมคู่แข่งเป็นระยะ 20 หลา ณ จุดนั้น ดาวเตะผิวสีถูก เดนิส เออร์วิ่น กองหลังจอมเก๋าประกบติดอยู่ แต่ก็ยังอุตส่าห์หาพื้นที่อันคับแคบกระดกบอลขึ้นมาจากพื้นได้ ทันใดนั้น ขวัญใจกองเชียร์ปืนโตก็บรรจงง้างเท้าซ้ายขึ้นวอลเลย์ลูกบอลลอยข้าม ฟาเบียง บาร์กเตซ ไปสงบนิ่งอยู่ที่ก้นตาข่าย
"คุณไม่มีทางทำอะไรกับลูกยิงแบบนั้นได้ ผมไม่อยากจะเชื่อเลย" เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซืออสูรแดงยอมรับ
"เมื่อคุณยิงประตูไม่ได้มานาน บางครั้งคุณก็ต้องทำในสิ่งที่บ้าบอบ้างเหมือนกัน" อาร์แซน เวนเกอร์ เสริม
นับจากนั้น มันก็กินเวลานานถึงสี่ปี ก่อนที่อองรีจะปืนฝืดลั่นไกไม่ได้นานติดต่อกันหกเกมอีกรอบ
"ฉลองชัยเหนือไก่เดือยทอง"
อาร์เซน่อล 3 - สเปอร์ส 0 / พ.ย. 2002
ฮีโร่ของทุกสโมสรย่อมต้องมีวีรกรรมที่สร้างเอาไว้กับทีมคู่ปรับร่วมเมือง และอองรีก็เป็นหนึ่งในจำนวนนี้
และไม่ต้องสงสัยเลยว่า ประตูที่ทำได้ในเกมบู๊กับไก่เดือยทอง มันช่างหอมหวานมากแค่ไหน
ขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังเบิกสกอร์กันไม่ได้ในช่วงต้นเกม อองรีก็ได้บอลในแดนตัวเอง และมันเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์แห่งถิ่นไฮบิวรี่
สตาร์เลือดน้ำหอมถูก แม็ทธิว เอเธอริงตัน ตามประกบ แต่ชั่วพริบตา เขาก็สลัดหนีขุนพลตราไก่ได้
ครั้นสปีดขึ้นมาเผชิญหน้ากับแนวรับของอาคันตุกะ อองรีก็หลอกล่อ สตีเฟ่น คาร์ ได้สำเร็จ ก่อนซัลโวผ่านนายทวาร เคซี่ย์ เคลเลอร์ ได้อย่างเฉียบคม
"มันเป็นประตูระดับเวิลด์คลาสของอองรี และเป็นฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของทีม" เวนเกอร์ออกปากชมเปาะ
หลังแสดงให้เห็นถึงคุณภาพในการสอยตาข่าย จะมีอะไรแจ๋วไปกว่าการฉลองผลงานของตัวเองด้วยการวิ่งห้อเต็มฝีเท้า ก่อนสไลด์เข่าใส่หน้าสาวกไก่เดือยทอง
และแน่นอนว่าแอ็กชั่นดังกล่าว มันกลายมาเป็นรูปปั้นที่ถูกนำมาประดับอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของสังเวียนแข้งเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
"แฮตทริกหักปีกหงส์แดง"
อาร์เซน่อล 4 - ลิเวอร์พูล 2 / เม.ย. 2004
มันเป็นอย่างที่เขาว่าเอาไว้นั่นแหละว่าฟุตบอลลูกกลมๆ จะไปเอาอะไรแน่นอนกับมัน
ในซีซั่นที่ว่า อาร์เซน่อลส่อแววว่าจะครองโลกเอาไว้แทบเท้าได้อย่างเบ็ดเสร็จ เมื่อสร้างผลงานไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีก และมีโอกาสคว้าทริปเปิลแชมป์ไม่น้อย
แต่หลังจากพ่ายแมนฯ ยูไนเต็ด ในศึกเอฟเอ คัพ ทีมปืนใหญ่ก็ถูกเชลซีของกุนซือ เคลาดิโอ รานิเอรี่ เขี่ยตกรอบฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ ลีก
ฉะนั้นแล้ว เมื่อลิเวอร์พูลนำไปก่อน 2-1 หลังจบครึ่งแรกที่ไฮบิวรี่ ซีซั่นของอาร์เซน่อลก็ดูจะพลิกผันไปอีกทาง
อย่างไรก็ดี อองรีไม่ได้คิดอย่างนั้น
หลังจากสอยตาข่ายได้ก่อนแล้วในครึ่งแรก ประตูสำคัญก็มาถึงหลังจาก โรแบร์ ปิแรส กดประตูตีเสมอได้ในช่วงต้นครึ่งหลัง
กับการควบบอลขึ้นมาประจันหน้ากับแผงหลังหงส์แดง เขาก็ต้องถูกคู่แข่งหลายรายขวางหน้าอยู่ แต่ทันใดนั้นอองรีก็สับไกส่งบอลผ่าน เจอร์ซี่ ดูเด็ค ได้สำเร็จพาปืนโตแซงนำจนได้
เท่านั้นไม่พอ ก่อนจบเกม 12 นาที อองรีก็จัดการซัดแฮตทริกพาทีมเก็บสามแต้มสุดสำคัญ และทำให้ทีมกลับไปมีผลงานที่ดีอีกรอบ
"ประตูที่สองของอองรีน่าทึ่งมาก" เวนเกอร์เอ่ย
"ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการตกรอบฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกแล้ว แต่ผมรู้สึกว่าเราตอบสนองกันได้อย่างวิเศษ"
จากนั้นอีกเดือนเศษ อาร์เซน่อลก็สยบเลสเตอร์พร้อมสร้างผลงานไร้พ่ายได้อย่างระบือลือลั่น
"คว้าชัยที่เบร์นาเบว"
เรอัล มาดริด 0 - อาร์เซน่อล 1 / ก.พ. 2006
ไม่มีใครบ้ามองโลกในแง่ดีแน่ เมื่ออาร์เซน่อลต้องบุกไปเยือนสังเวียนแข้งเบร์นาเบว ทำศึกกับเรอัล มาดริด ในเดือนก.พ. 2006
นั่นเป็นเพราะว่าไม่เคยมีทีมจากเมืองผู้ดีรายไหน บังอาจบุกมาคว้าชัยในถิ่นของราชันชุดขาวได้ แถมทีมปืนใหญ่ยังประสบกับปัญหามีผู้เล่นล้มเจ็บแทบทั้งทีมอีกด้วย
ถึงขนาดว่า โคโล ตูเร่ วัย 24 ปีกลายเป็นปราการหลังที่สูงวัยที่สุดในทีมปืนโตชุดเยือนแดนกระทิงดุก็แล้วกัน
เมื่อเป็นซะอย่างนี้ ใครเลยที่จะเชื่อว่าทีมจากลอนดอนจะมีปัญญาโค่นกาลาคติกอสลงได้
ที่สำคัญ อาร์เซน่อลอยู่ในช่วงมีฟอร์มที่กระเสือกกระสนพอสมควร กระทั่งก่อให้เกิดข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของอองรี
"แน่นอนว่าวันพรุ่งนี้เราต้องการอองรี" เวนเกอร์กล่าวก่อนเกม
และเขาไม่ผิดหวังเมื่อสตาร์เฟร้นช์แมนซัดประตูโทนพาทีมกำชัยได้อย่างยิ่งใหญ่
หลังได้บอลแถววงกลมกลางสนาม อองรีก็สปีดหนีสามคู่แข่งได้ก่อนเอาชนะ เซร์คิโอ รามอส ได้อีกราย และซัลโวผ่าน อีเกร์ กาซียาส ส่งบอลเข้าประตูอย่างสุดสวย
ทีมปืนใหญ่เขี่ยราชันชุดขาวตกรอบได้สำเร็จ พร้อมทั้งกรุยทางผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ด้วยการสยบยูเวนตุส และบียาร์เรอัล ก่อนปราชัยให้กับบาร์เซโลน่าที่ปารีส
"ผมบอกคุณแล้วว่าเราต้องการอองรีสำหรับคืนที่ยิ่งใหญ่ และเขาระเบิดฟอร์มออกมาได้" เวนเกอร์เอ่ยหลังเกม
"บอกลาไฮบิวรี่"
อาร์เซน่อล 4 - วีแกน 2 / พ.ค. 2006
ถัดมาในซีซั่นเดียวกัน แฟนบอลอาร์เซน่อลจำต้องโบกมือลาไฮบิวรี่ สังเวียนแข้งที่ทีมรักของพวกเขาใช้งานมาอย่างยาวนาน 93 ปี
และมันยอดเยี่ยมซะนี่กระไร เมื่ออองรีกดแฮตทริกพาทีมซิวชัยเหนือวีแกนด้วยสกอร์ 4-2 แถมเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจที่ดี ก่อนนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก กับบาร์เซโลน่า ในอีกสิบวันข้างหน้า
จริงๆ แล้ว วีแกนนำหน้าไปก่อน 2-1 ด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายอองรีก็โชว์ความจัดจ้านออกมาได้
เขารับลูกจ่ายจาก โรแบร์ ปิแรส ยิงประตูตีเสมอได้สำเร็จ และพาอาร์เซน่อลแซงนำช่วงต้นครึ่งหลัง ก่อนสังหารลูกโทษทำแฮตทริกได้อย่างยิ่งใหญ่
หลังจากสร้างผลงานสอยตาข่ายในไฮบิวรี่ได้ 137 ประตู อองรีก็คุกเข่าลงจุมพิตพื้นสนาม
"มันเป็นการบอกลาที่สมบูรณ์แบบ ตอนที่ผมจูบสนามหลังจากยิงประตูที่สามได้ ผมบอกลากับสนามแห่งนี้ด้วย" อองรีเอ่ย
"คืนสู่เหย้ามาหักปีกยูงทอง"
อาร์เซน่อล 1 - ลีดส์ 0 / ม.ค. 2012
ในช่วงที่ทีมปืนใหญ่ประสบกับวิกฤติในแดนหน้า ระหว่างซีซั่น 2011/12 อองรีตอบตกลงกลับมาช่วยอดีตอู่ข้าวอู่น้ำ
แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น หลังจากตำนานคนดังค้าแข้งอยู่กับนิวยอร์ก ตั้งแต่ปี 2010 และตัดขาดจากการรับใช้ชาติในปีเดียวกัน
ไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อยในแง่ความรักของแฟนบอลเดอะ กันเนอร์ส ที่มีต่ออองรี
กับการมีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมเอฟเอ คัพ นัดฉะกับลีดส์ และสกอร์ยังนิ่งอยู่ที่ 0-0 ในช่วงกลางครึ่งหลัง อองรีก็ถูกเปลี่ยนลงเล่นแทน มารูอาน ชามัค
จากนั้นอีกสิบนาที โอกาสของเขาก็มาถึง
ขณะอยู่ทางกราบซ้าย อองรีก็ได้บอล และเขาจัดแจงซัลโวเข้าเสาไกลอันเป็นเครื่องหมายการค้าประจำตัว
"ผมกลับมาพักผ่อนเมื่อ 15 วันก่อน ผมไม่คิดเลยว่าจะได้เล่นให้อาร์เซน่อลอีกครั้ง และยิงประตูพาทีมชนะ มันเป็นความรู้สึกที่น่าทึ่งมากตอนที่ผมยิงประตูได้" อองรีเปิดอก
"เขาเป็นตำนานของที่นี่อยู่ก่อนแล้ว แต่เขาสร้างชื่อให้กับตัวเองเพิ่มขึ้นไปอีกจากประตูนี้" นายใหญ่ท็อปกันเสริม
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์