ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม 2558

สเปอร์ส 5-3 เชลซี

สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน

          เกมดาร์บี้แมตช์กรุงลอนดอน "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส วาง คริสเตียน อีริคส์เซ่น ทำเกมรุก โดยมี แฮร์รี่ เคน ยืนค้ำแดนหน้า ด้าน "สิงห์บลูส์" เชลซี ส่ง เชส ฟาเบรกาส, เอแด็ง อาซาร์ และ วิลเลียน ทำเกมรุก โดยมี ดีเอโก้ คอสต้า ลงล่าตาข่าย

          เริ่มเกมแค่ 4 นาที เจ้าถิ่นมีโอกาสลุ้นประตูก่อน นาเซอร์ ชาดลี่ ลองส่องไกลด้วยขวาจากระยะ 25 หลา ไปเข้ามือ ตีโบต์ กูร์กตัวส์ รับเอาไว้ได้

          นาทีที่ 13 สถานการณ์ของเจ้าถิ่นไม่ดีนัก  ต้องมาเสีย ไรอัน เมสัน ที่ได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนเอา มูซ่า เดมเบเล่ ลงมาคุมแดนกลางแทน

          นาทีที่ 18 เป็นทีมเยือนที่ออกนำก่อน  จากจังหวะที่ เอแด็น อาซาร์ พาบอลลากลุยขึ้นมาทางขวาก่อนสับไกยิงด้วยขวาชนเสาไกลกระดอนออกมาเข้าทาง ออสการ์ หวดซ้ำไปเข้าทาง ดีเอโก้ คอสต้า แปด้วยซ้ายระยะเผาขนเปลี่ยนทางเข้าประตูไปเป็น 1-0

          นาทีที่ 24  "สิงห์บลูส์" ยังทำได้ดีกว่า นาที 24 คอสต้า ไหลจากขวาเข้ากลางให้ ออสการ์ จับแล้วจิ้มหัวเกือกเฉี่ยวโคนเสาแรกออกไป

          นาทีที่ 30 เจ้าถิ่นตามตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะที่  แฮร์รี่ เคน รับบอลมาจาก แดนนี่ โรส ก่อนพาบอลลากตัดจากซ้ายเข้ากลางก่อนสับไกยิงด้วยขวาตรงหน้าหัวกระโหลกผ่านมือ กูร์กตัวส์ เสียบโคนเสาขวาเข้าไปอย่างเด็ดขาดให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

          นาทีที่ 41 "ไก่เดือยทอง" น่าจะได้ประตูแซงนำ  คริสเตียน เอริคเซ่น แทงทะลุช่อง
ให้ ชาดลี่ หลุดเข้าไปยิงลอดขา กูร์กตัวส์ ไปชนเสาไกลอย่างน่าเสียดาย แต่ลูกนี้โดนเป่าว่าล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

          นาทีที่ 44 เป็นเจ้าถิ่นที่ทำประตูแซงนำจนได้ จากจังหวะที่ เอริคเซ่น แทงทะลุช่องให้ ชาดลี่ หลุดเข้าไปยิงสวนตัว กูร์กตัวส์ ไปชนเสาไกลอีกครั้ง บอลกระเด้งเข้าทาง แดนนี่ โรส ปรี่มาซ้ำดาบสองตุงตาข่ายให้เจ้าถิ่นออกนำ 2-1

          นาทีที่ 45+4 เจ้าถิ่นมาได้ประตูเพิ่มอีกลูก จากจังหวะที่ แฮร์รี่ เคน ไปโดน  แกรี่ เคฮิลล์ สกัดล้มลงในเขตโทษ ก่อนที่ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปเป็น 3-1 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

          เริ่มครึ่งหลัง นาทีที่ 52  "ไก่เดือยทอง" ยังฮอตไม่เลิก มาบวกประตูเพิ่มได้อีก นาเซอร์ ชาดลี่ ลากบอลจี้หากกองหลังทีมเยือน ก่อนผ่านบอลทะลุช่องให้ แฮร์รี่ เคน หลุดเข้าไปแปด้วยขวา เสียบเสาสองสวยงาม เป็นประตูที่สองของ เคน ในเกมนี้

          นาทีที่ 62 "สิงห์บลู" ไม่ยอมง่าย มาทำประตูไล่มา 2-4 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ เฟเดริโก้ ฟาซิโอ พลาดเสียบอลในแดนตัวเอง บอลเข้าทาง เอแด็น อาซาร์ ลากจี้เข้าเขตโทษ ก่อนทำชิ่งกับ เชส ฟาเบรกาส และเป็น อาซาร์ ที่หลุดเข้าไปซัดผ่านมือ อูโก้ โยริส ตุงตาข่าย

          นาทีที่ 68 สเปอร์สมีโอกาสลุ้นประตูนำห่างอีกครั้ง เปาลินโญ่ ผ่านบอลทะลุช่องให้ แฮร์รี่ เคน หลุดเข้าแตะบอลหลบ ตีโบต์ กูร์กตัวส์ ก่อนแปด้วยซ้าย แต่มุมเหลือน้อย บอลผ่านเส้นหน้าปากประตูไปอย่างสุดเสียวด

          นาทีที่ 70 เจ้าถิ่นที่หันมาเน้นดักจังหวะโต้กลับ มีลุ้นประตูอีกครั้ง นาเซอร์ ชาดลี่ หาจังหวะซัดประตูในเขตกรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลพุ่งเรียด แต่ไปตรงตัว ตีโบต์ กูร์กตัวส์ รับเข้าซอง

          นาทีที่ 75 เชลซียังพยายามบุก มีโอกาสได้ประตูไล่มาอีกครั้ง เอแด็น อาซาร์ ผ่านบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า วิ่งเข้ามาตะบันด้วยขวา แต่ยังเป็น อูโก้ โยริส โชว์ซูเปอร์เซฟ ปัดเอาไว้ได้

          นาทีที่ 78 สเปอร์สยังฮอตไม่เลิก มาบวกประตูเพิ่มได้อีกลูก แฮร์รี่ เคน ผ่านบอลทะลุช่องให้ นาเซอร์ ชาดลี่ หาจังหวะส่องด้วยขวา บอลแฉลบ จอห์น เทอร์รี่ เปลี่ยนทางเข้าประตูไปให้ สเปอร์สนำ 5-2

          สิงห์บลูส์ ไม่ยอมง่ายๆ นาทีที่ 87 เอแด็น อาซาร์ พาบอลขึ้นมาริมเส้นฝั่งขวา ก่อนผ่านให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช หลุดเข้าเขตโทษแล้วเปิดเข้าไปหน้าปากประตู ดีเอโก้ คอสต้า ล้มตัวชาร์จไม่โดน แต่เป็น จอห์น เทอร์รี่ ที่เติมขึ้นมาซัดไม่เหลือ เชลซี ไล่มาเป็น 3-5

          ท้ายเกม เชลซี ยังพยายามโหมบุกหนัก แต่ก็เจาะแนวรับเจ้าถิ่นไม่ได้ จบเกม สเปอร์ส ถล่มเอาชนะ เชลซี 5-3 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 4 ของตาราง ส่วน เชลซี ยังนำเป็นจ่าฝูงร่วมกับ แมนฯซิตี้

          รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
          สเปอร์ส : อูโก้ โยริส, ไคล์ วอล์คเกอร์, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ, ยาน แฟร์ต็องเก้น, แดนนี่ โรส, ไรอัน เมสัน, นาบิล เบนตาเลบ, แอนดรอส ทาวน์เซนด์, คริสเตียน เอริคเซ่น, นาเซอร์ ชาดลี่, แฮร์รี่ เคน
          สำรอง : มิเชล ฟอร์ม (ผู้รักษาประตู), วลัด คิริเคส, เบน เดวิส, มูซ่า เดมเบเล่, เบนฌาแม็ง สต็อมบูลี่, เปาลินโญ่, โรเบร์โต้ โซลดาโด้
          เชลซี : ตีโบต์ กูร์กตัวส์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เชส ฟาเบรกาส, เนมานย่า มาติช, วิลเลี่ยน, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์, ดีเอโก้ คอสต้า
          สำรอง : ปีเตอร์ เช็ก (ผู้รักษาประตู), คูร์ต ซูม่า, รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, โลอิก เรมี่, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
          ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์