ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » เคาท์ดาวน์บัลลงดอร์...กระแสหนุนนอยเออร์

เคาท์ดาวน์บัลลงดอร์...กระแสหนุนนอยเออร์

Posted 12/01/2015 by siamsport

 

 

       "ฟีฟ่า บัลลงดอร์" รางวัลที่นักเตะต่างเฝ้าหวังฝันที่จะโชว์ฝีเท้าไต่ขึ้นไปได้สัมผัสกับมัน บ้างเตรียมประกาศเจ้าของลูกบอลทองคำประจำปี 2014 ประมาณเที่ยงคืนครึ่งคืนนี้(เวลาประเทศไทย)

 

        นับตั้งแต่ เลฟ ยาชิน ตำนานนักเตะเจ้าของฉายา "แมงมุมดำ" จากสหภาพโซเวียต เคยคว้าถ้วย บัลลงดอร์ ไปครองเมื่อปี 1963 ก็ไม่มีผู้รักษาประตูคนใดขึ้นรับรางวัลใหญ่ระดับโลกกันอีกเลย ถึงแม้มีอีกหลายรายที่ประสบความสำเร็จ และสร้างชื่อเสียงกันได้อยู่เรื่อยๆ

         ยาชิน สร้างชื่อกับสโมสร ดินาโม มอสโก แต่โด่งดังจากการเล่นระดับนานาชาติ ถูกยกย่องว่ามีปฏิกิริยาคล่องแคล่วว่องไว จนสามารถเซฟการยิงของคู่แข่งได้เกือบหมดทุกลูก และกลับมาคืนฟอร์มสุดยอดอย่างรวดเร็ว หลังจากล้มเหลวในศึกฟุตบอลโลก 1962 เหลือเชื่อที่เขาได้รางวัล บัลลงดอร์ 3 ปีหลังจากพา สหภาพโซเวียต คว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1960 และก่อนหน้าที่เขาจะประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต ด้วยการช่วยให้ประเทศบ้านเกิดคว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 1966

         มีนายทวารหลายรายที่เกือบเดินตามรอยเท้า ยาชิน ได้สำเร็จ เช่น โอลิเวอร์ คาห์น จากสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ผู้พาทีมชาติเยอรมัน เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2002 แต่ก็ทำได้แค่อันดับ 3 เท่านั้นจากการโหวตในปีดังกล่าว โดยแพ้ โรนัลโด้ กับ โรแบร์โต้ คาร์ลอส สองนักเตะ บราซิล ทีมแชมป์โลก ปี 2001 คาห์น ก็ได้อันดับ 3 แพ้ ไมเคิ่ล โอเว่น (ลิเวอร์พูล) กับ ราอูล กอนซาเลซ (เรอัล มาดริด) ในปี 1976 อิโว วิคเตอร์ นายทวารชาวเช็กของสโมสร ดุ๊คล่า ปร๊าก ก็ได้อันดับ 3 พ่าย ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ (บาเยิร์น) กับ ร็อบ เรนเซนบริงค์ (อันเดอร์เลชท์)

         นายด่านที่มีโอกาสคว้า บัลลงดอร์ มาครองมากกว่า เพราะได้อันดับ 2 มีอีก 2 คนคือ จานลุยจิ บุฟฟ่อน จากสโมสร ยูเวนตุส หลังคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกกับทีมชาติ อิตาลี เมื่อปี 2006 แต่คะแนนโหวตแพ้ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ เซนเตอร์แบ๊กเพื่อนร่วมทัพ "อัซซูรี่" แบบห่างไกล 173-124 แต้ม อีกรายก็เป็น ดิโน่ ซอฟฟ์ รุ่นพี่ชาวอิตาเลียนจาก ยูเวนตุส อีกราย แต่ต้องย้อนไปไกลถึงปี 1973 ตอนนั้น โยฮัน ครอยฟ์ ตำนานของ ฮอลแลนด์ จากสโมสร บาร์เซโลน่า ได้รางวัลไปครอง โดยคะแนนโหวตชนะห่างกันเยอะ 96-47

         จะเห็นว่าการแข่งขันฟุตบอลโลก มีผลต่อการโหวตเลือกผู้ได้ บัลลงดอร์ พอสมควร แต่ก็ไม่เสมอไปที่นักเตะแชมป์โลกจะคว้ารางวัลนี้ไปครอง เพราะเมื่อปี 2010 สองนักเตะทีมชาติสเปน คือ อันเดรส อิเนียสต้า กับ ชาบี เอร์นานเดซ กลับได้แค่อันดับ 2 และ 3 เพราะพ่าย ลิโอเนล เมสซี่ เพื่อนร่วมสโมสร บาร์เซโลน่า ทั้งๆทีมชาติ อาร์เจนตินา ไม่ได้เข้าชิงฯด้วยซ้ำ และต้องบันทึกไว้เลยว่ากองหน้ารายนี้ติดโผ 3 คนสุดท้ายที่จะได้ บัลลงดอร์ ไม่เคยขาดมาตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปี 2014 ซึ่งประเทศของเขาเข้าชิงฯฟุตบอลโลก

         อย่างไรก็ตาม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าทีมชาติ โปรตุเกส จากสโมสร เรอัล มาดริด คู่แข่งในลีกสเปน คือตัวเต็งที่จะได้รางวัลในปีนี้ แม้ประเทศของเขาตกรอบแรกฟุตบอลโลก 2014 แต่ปีนี้สามารถพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้รับการโหวตเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของยุโรป เป็นดาวซัลโวยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยเตะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังซัดถึง 17 ประตู ในฤดูกาล 2013-14 ได้รางวัลรองเท้าทองคำ (ดาวซัลโวสูงสุดของลีกยุโรป) ร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ จากการทำได้ 31 ประตู ตลอดฤดูกาล 2013-14

         แต่ที่ฮือฮา และหลายคนลุ้นให้ได้ บัลลงดอร์ ปีนี้ไปครอง เพราะจะเป็นนายทวารคนแรกในรอบ 51 ปีพอดี คือ นอยเออร์ ซึ่งสร้างชื่อในฐานะผู้รักษาประตู-ลิเบอโร่จากศึกฟุตบอลโลก 2014 เพราะทำหน้าที่เสมือนกองหลังคนสุดท้าย คอยอ่านเกม และสกัดบอลจากคู่แข่งเหมือนลิเบอโร่ แถมใช้เท้าครองบอลได้อย่างคล่องแคล่ว จนสามารถพาทีมชาติเยอรมัน คว้าแชมป์โลกครั้งแรกในรอบ 24 ปี โดยตัวเขาเองได้รางวัลถุงมือทองคำ (นายทวารยอดเยี่ยม) เพราะนายด่านวัย 28 ปีเสียตลอดทั้งการแข่งขันแค่ 4 ประตูเท่านั้น

         นอกจากนั้น นอยเออร์ ยังช่วยให้ บาเยิร์น ได้ดับเบิ้ลแชมป์ (บุนเดสลีกา กับ เดเอฟเบ โพคาล) ในฤดูกาล 2013-14 คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2014 ทั้งของเยอรมัน, สหภาพนักข่าวกีฬายุโรป และจาก เลกิ๊ป หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส, ผู้รักษาประตูแห่งปีของ สหพันธ์ประวัติศาสตร์ และสถิติฟุตบอลระหว่างประเทศ แต่เจ้าตัวกลับไม่เคยคิดว่าจะมีสิทธิ์ได้รางวัล บัลลงดอร์ เพราะตัวเขาไม่ใช่นักกีฬาที่มีชื่อเสียงโด่งดังถึงขั้นมีบริษัทต่างๆเข้ามา ขอให้เป็นพรีเซนเตอร์ หรือมีแฟนบอลให้ความสนใจชีวิตนอกสนามมากมาย

         ความจริงมันอาจไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นเท่าไหร่ แต่ความเป็นจริงคือ บัลลงดอร์ มาจากการโหวตจากโค้ช และกัปตันทีมชาติ รวมถึงนักข่าวกีฬา จากประเทศทั่วโลกที่เป็นสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ดังนั้นใครมีชื่อเสียงมากกว่า มีผู้ติดตาม หรือให้ความสนใจการแข่งขันของพวกเขาที่ผ่านมาทั้งในสโมสร และทีมชาติมากกว่า ก็ย่อมถูกเลือกมากกว่า เรียกว่าเป็นการสะท้อนระดับความนิยมของคนทั่วไป ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผ่านๆมาทำไมจึงมีแต่กองหน้า หรือมิดฟิลด์ตัวรุกที่ได้รางวัล ไม่มีกองหลัง หรือผู้รักษาประตู

         ถัดจาก บุฟฟ่อน ปี 2006 ในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่มีผู้รักษาประตูติดโผเป็น 3 คนสุดท้ายที่ได้ลุ้นอีกเลย ส่วนกองหลัง นอกจาก คันนาวาโร่ ปี 2006 เปาโล มัลดินี่ ของ เอซี มิลาน มีลุ้นเป็นรายสุดท้ายในปี 2003 และรั้งแค่อันดับ 3 ส่วนเมื่อปีกลายก็มีข่าวว่า โรนัลโด้ อาจไม่ไปร่วมงานเพราะงอนที่รางวัลนี้ให้ เมสซี่ มา 4 ปีซ้อน แต่เขาก็ได้ไป โดย ฟร้องค์ ริเบรี่ ปีกซ้ายเพื่อนร่วมทีม บาเยิร์น ของ นอยเออร์ ยังได้แค่อันดับ 3 ทั้งๆเป็นถึงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2012-13

         แฟนๆ นอยเออร์ คงต้องทำใจหากว่าเขาจะพลาดถ้วย บัลลงดอร์ ปีนี้มาครอง แต่ควรภูมิใจว่าอย่างน้อยเขาก็ได้รางวัลแชมป์ฟุตบอลโลก ซึ่งทั้ง เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ยังไม่เคยสัมผัส

        ทำเนียบผู้ครองรางวัล ฟีฟ่า บัลลงดอร์ 5 ปีล่าสุด

ปีอันดับ 1อันดับ 2อันดับ 3
2009ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า) อาร์เจนตินาคริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด) โปรตุเกสชาบี เอร์นานเดซ (บาร์เซโลน่า) สเปน
2010ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า) อาร์เจนตินาอันเดรส อิเนียสต้า (บาร์เซโลน่า) สเปนชาบี เอร์นานเดซ (บาร์เซโลน่า) สเปน
2011ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า) อาร์เจนตินาคริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด) โปรตุเกสชาบี เอร์นานเดซ (บาร์เซโลน่า) สเปน
2012ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า) อาร์เจนตินาคริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด) โปรตุเกสอันเดรส อิเนียสต้า (บาร์เซโลน่า) สเปน
2013คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (เรอัล มาดริด) โปรตุเกสลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า) อาร์เจนตินา ฟร้องค์ ริเบรี่ (บาเยิร์น มิวนิค) ฝรั่งเศส

        ผู้ได้รางวัลมากสุด
        4 - ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนตินา) 2009, 2010, 2011, 2012
        3 - โยฮัน ครอยฟ์ (ฮอลแลนด์) 1971, 1973, 1974
        3 - มิเชล พลาตินี่ (ฝรั่งเศส) 1983, 1984, 1985
        3 - มาร์โค ฟาน บาสเท่น (ฮอลแลนด์) 1988, 1989, 1992

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »