โยอัคคิม เลิฟ โค้ชทีมชาติเยอรมัน ยกย่องอดีตกัปตันทีมของเขา ฟิลิปป์ ลาห์ม แบ๊กจอมแกร่งบาเยิร์น มิวนิค ว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปี แม้จะหลุดโผลุ้นรางวัล บัลลง ดอร์ ชี้ทางที่ดี ฟีฟ่า ควรจัดรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ และให้รางวัลนี้กับ ลาห์ม ที่ฟอร์มสุดยอดทั้งระดับสโมสร และทีมชาติ

โยอัคคิม เลิฟ โค้ชทีมชาติเยอรมัน ชุดแชมป์โลก 2014 ที่ บราซิล บอกลืมไปให้หมดเรื่อง บัลลง ดอร์ ว่าใครได้-ไม่ได้ เพราะในสายตาของเขา ฟิลิปป์ ลาห์ม ฟูลแบ็กบาเยิร์น มิวนิค อดีตกัปตันทีม "อินทรีเหล็ก" เป็นนักเตะที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปี

ฟีฟ่า เพิ่งจัดงานประกาศรางวัลครั้งใหญ่ประจำปีที่ ซูริค, สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่ว่านักเตะคนไหนจะได้ บัลลง ดอร์ ไปครอง ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมายคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ได้ไปครองเป็นสมัยที่ 3 (2008, 2013, 2014) ทำให้ตลอด 7 ปีหลังสุดมีเพียง โรนัลโด้ กับ ลีโอเนล เมสซี่ ยอดนักเตะจากบาร์เซโลน่า เท่านั้นที่ได้ บอลทองคำ ไปกอด เพราะ เมสซี่ ได้มา 4 สมัยติด ในปี 2009-2012

อย่างไรก็ตาม ในปีที่มีฟุตบอลโลก ทำให้นักเตะเยอรมันหลายๆ คน ได้รับการเอ่ยถึงว่าคู่ควรได้ บัลลง ดอร์ ไม่ว่าจะเป็น ลาห์ม, มานูเอล นอยเออร์ หรือ บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์ สามสตาร์จาก "เสือใต้"  เป็นต้น และสำหรับ เลิฟ เขาไม่สนว่าใครได้บัลลง ดอร์ เพราะนักเตะที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีของเขาคือ ลาห์ม และในการโหวต บัลลง ดอร์ นั้น เลิฟ เลือก ลาห์ม เป็นอันดับสอง รองจาก นอยเออร์ และมี ชไวนี่ มาเป็นที่สาม

"นอกจาก บัลลง ดอร์ แล้ว เร็วๆ นี้ ฟีฟ่า น่าจะมีรางวัลสำหรับนักเตะที่ดีที่สุดแห่งทศวรรษด้วย และพวกเขาให้ ฟิลิปป์ ลาห์ม ได้รางวัลนี้ เขามีผลงานที่โดดเด่นในฟุตบอลโลก 3 สมัย ปี 2006, 2010 และ 2014 ที่เขาพาทีมชาติเยอรมัน เข้ารอบรองฯ สองครั้ง และซัมเมอร์ที่ผ่านมาก็ได้ชูถ้วยแชมป์โลกด้วย สำหรับผมแล้ว เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา" เลิฟ ที่ได้รางวัล โค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี กล่าว

ขณะเดียวกัน เลิฟ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึง นอยเออร์ ที่เข้าวินอันดับ 3 เท่านั้นในการโหวต บัลลง ดอร์ "แน่นอนว่า ตามมุมมองของผม ผมผิดหวังแทน มานูเอล ในฟุตบอลโลกที่ผ่านมาเขาสร้างรูปแบบใหม่ของการเป็นผู้รักษาประตูขึ้นมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมันเป็นสิ่งที่โดดเด่นมาก นอยเออร์ เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก แต่ในอีกแง่หนึ่ง โรนัลโด้ และ เมสซี่ เป็นนักเตะที่ยิงประตูได้ปีละ 50-60 ลูก ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ แล้ว ทั้งสามคนล้วนคู่ควรต่อรางวัลนี้ทั้งสิ้น"