"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ข่าวดีเมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับ ลุค ชอว์ หายเจ็บพร้อมลงสนามช่วยทีม เกมพบกับ เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด จากลีกทู ที่ลุ้นให้ ลุค แชดวิค อดีตแข้งผีแดงฟิตทันลงโม้แข้งทีมเก่า ในศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 4 คืนวันศุกร์ที่ 23 ม.ค. ศกนี้

ปรีวิวฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 4

วันศุกร์ที่ 23 มกราคม 2558

เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด (ลีก ทู)  -  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)

ถ่ายทอดสด : ช่อง 7, เวลา : 02:55 น.

สนาม : แอ็บบี้ย์ สเตเดี้ยม

        เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด น้องใหม่ลีก ทู ที่ตอนนี้รั้งอันดับ 12 ของลีก คุมทัพโดย ริชาร์ด โมนี่ย์ กุนซือผู้พาทีมเลื่อนชั้นจากคอนเฟอเรนซ์ลีก (นอกลีก) ด้วยการเพลย์ออฟซีซั่นที่แล้ว

        ผลงาน 3 รอบที่ผ่านมา ผ่าน ฟลีตวู้ด ทาวน์ ทีมลีก วัน รอบแรก, แมนส์ฟิลด์ ทีมลีก ทู รอบสอง และรอบที่แล้วก็โชคดีจับเจอทีมลีก ทู ด้วยกัน และผ่าน ลูตัน ทาวน์ มาได้

        ตัวหลักอย่าง ซุลเลย์ ไคไค, เลียม ฮิวจ์ส และ ไรอัน โดนัลด์สัน พร้อมลงช่วยทีมต่อไป ขณะที่ ไมเคิ่ล เนลสัน กองหลังหายเจ็บเรียบร้อย

        ส่วน คาเมรอน แม็คกีแฮน ดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่ยืมตัวมาจาก นอริช 1 เดือน ได้ไฟเขียวให้ลงเล่นเกมนี้ได้

        ที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือ ลุค แชดวิค อดีตปีกเด็กปั้นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ็บเข่าพลาดช่วยทีมนัดก่อน ต้องรอทดสอบความฟิต เช่นเดียวกับ ร็อบบี้ ซิมพ์สัน

        ฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ของ หลุยส์ ฟาน กัล ยังทำทีมเกาะอยู่อันดับ 4 ล่าสุดบุกชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 2-0 จาก 2 ตัวสำรอง มารูยาน เฟลไลนี่ กับ เจมส์ วิลสัน

        ความพร้อมของ "ปีศาจแดง" หมดสิทธิ์ใช้งาน แอชลี่ย์ ยัง ปีกที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ขณะที่ จอนนี่ อีแวนส์ กับ คริส สมอลลิ่ง 2 กองหลังไม่ฟิต ชวดเกมนี้เช่นกัน

        ส่วน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ ลุค ชอว์ หายเจ็บและผ่านความฟิตลงเล่นเกมนี้ได้ทั้งคู่  ขณะที่ ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กขวาที่เพิ่งผ่าตัดกระดูกโหนกแก้ม ต้องทดสอบความฟิตทั้งหมด

        ตำแหน่งผู้รักษาประตู ส่อพัก ดาบิด เด เคอา มือ 1 และเปิดทางให้ บิคตอร์ บัลเดส มือ 2 คนใหม่ ได้ประเดิมเฝ้าเสาบ้าง หลังเซ็นสัญญากับทีมเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

        นอกจากประตูแล้ว ตำแหน่งอื่นๆ อาจเปลี่ยนแปลงจากเกมล่าสุด อันเดร์ เอร์เรร่า, คริส สมอลลิ่ง, มารูยาน เฟลไลนี่, แพ็ดดี้ แม็คแนร์ มีโอกาสลงสนาม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เคมบริดจ์ (4-4-2) : คริ ส ดันน์ - ริชาร์ด เทต, ไมเคิล เนลสัน, จอช คูลสัน, เกร็ก เทย์เลอร์ - เลียม ฮิวจ์ส, ทอม แชมเปี้ยน, คาเมรอน แม็คกีแฮน, ไรอัน โดนัลด์สัน - ทอม เอลเลียต, ซุลเลย์ ไค-ไค

        แมนฯยูไนเต็ด (3-5-2) : บิ คตอร์ บัลเดส - ฟิล โจนส์, แพ็ดดี้ แน็คแนร์, มาร์กอส โรโฮ - ราฟาเอล ดา ซิลวา, อันเดร์ เอร์เรร่า, มารูยาน เฟลไลนี่, เวย์น รูนี่ย์, ลุค ชอว์ - อังเคล ดิ มาเรีย, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

        ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- เวย์น รูนี่ย์ ทำ 6 ประตูจาก 6 เกมหลังสุดในเอฟเอ คัพ
- แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้แค่ครั้งเดียวจาก 40 เกมหลังสุดในเอฟเอ คัพ ที่พบทีมจากลีกต่ำกว่า (ชนะ 33 เสมอ 6)
- คู่นี้เคยเจอกันแค่ครั้งเดียวในเกมอย่างเป็นทางการ จากเกมลีก คัพ 1991-92 ซึ่งปีศาจแดงชนะด้วยประตูรวม 4-1 จากสองนัด
- ฤดูกาล 1991-92 เป็นครั้งสุดท้ายที่เคมบริดจ์เขี่ยทีมจากลีกสูงสุดตกรอบเอฟเอ คัพ เมื่อพวกเขาชนะ โคเวนทรี ซิตี้ จากเกมรีเพลย์
- ครั้งล่าสุดที่เคมบริดจ์ผ่านเข้าถึงรอบ 5 เอฟเอ คัพ เกิดขึ้นในฤดูกาล 1999-2000
- แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะหมดทั้ง 7 ครั้งที่พบทีมจากดิวิชั่น 4 ในเอฟเอ คัพ โดยิยงได้ 21 ประตูจากนัดดังกล่าว

                                            อดีตเด็กผีเนื้อเต้นเคมบริดจ์จับเจอทีมเก่า
           
        ลุค แชดวิค ปีก ตัวประสบการณ์ของ เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด ทีมในลีกทู อังกฤษ เผยสุดตื่นเต้นกับโอกาสที่จะได้ลงสนามเผชิญหน้าทีมเก่าที่แจ้งเกิด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ ที่สนาม แอ็บบี้ย์ สเตเดี้ยม วันศุกร์ที่ 23 มกราคมนี้

        แชดวิค เป็นเด็กฝึกหัดของ ยูไนเต็ด เล่นให้ทีม 4 ปี ช่วงต้นยุค 2000 รวม 39 นัด ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และได้เล่นร่วมกับทีมยุคยิ่งใหญ่ทั้ง รอย คีน, เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์ และ ไรอัน กิ๊กส์ ทำให้เกมที่จะเจอกับ ยูไนเต็ด เป็นเกมที่มีความหมาย เพราะ เคมบริดจ์ ทีมปัจจุบันนั้น เป็นทีมบ้านเกิด ที่เขาเชียร์แต่เด็ก ส่วน ยูไนเต็ด คือทีมยิ่งใหญ่ที่เขาได้โอกาสเล่น

        "เราอยู่ในสถานะที่ดีเเพราะผมมั่นใจว่า นอกเหนือจากแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว คนอื่นๆ คาดหวังว่าเราจะเซอร์ไพรส์ออกทีวี นี่จะเป็นโอกาสที่ดี เกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถ่ายทอดสด ในค่ำคืนวันศุกร์ ผมว่าคุณคงขออะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว"

        "นี่คือโอกาสที่นักเตะในทีมของเราจะได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีดี ยังไง นี่คือโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้แสดงให้โลกได้เห็นว่า เคมบริดจ์ มีความสามารถ และเป็นสิ่งที่เราต้องฉกฉวยมันเอาไว้ทั้งสองมือ" แชดวิค วัย 34 ปี กล่าว