บี เตชะอุบล นักธุรกิจจากไทย ระบุเองว่าเขาได้ทุ่มเงินสูงลิบถึง 1 พันล้านยูโรเพื่อจะขอซื้อหุ้นของ มิลาน หลังมีข่าวลืออย่างหนาหูว่า "รอสโซเนรี่" กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ล่าสุด ฟินอินเวสต์ บริษัทของ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ เจ้าของทีม มิลาน ออกมาประกาศชัดว่าไม่คิดจะขายหุ้นส่วนใหญ่ของทีม

บี เตชะอุบล นักธุรกิจชาวไทย และทายาทของบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ ยืนยันเมื่อวันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า เขาได้ยื่นข้อเสนอเป็นเงินจำนวน 1 พันล้านยูโร (ประมาณ 40,000 ล้านบาท) เพื่อขอซื้อหุ้นของ เอซี มิลาน สโมสรชั้นนำแห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี แล้ว

มีข่าวลือมานานแล้วว่ากำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงภายใน มิลาน ขณะที่ก่อนหน้านี้ ลา รีพับบลิก้า สื่อของอิตาลีก็รายงานข่าวว่า "รอสโซเนรี่" ได้ทำการขายหุ้นจำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ของสโมสรไปแล้ว หลังได้รับข้อเสนอที่เป็นเงิน 300 ล้านยูโร (ประมาณ 12,000 ล้านบาท) ซึ่งนักธุรกิจจากไทยเผยว่าเขาอยากถือหุ้นของ มิลาน เป็นจำนวน 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อแลกกับการทำธุรกิจครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ฟินอินเวสต์ บริษัทที่ครอบครองโดย ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ เจ้าของทีม มิลาน ได้ออกมาแถลงการณ์แล้วว่า พวกเขาไม่สนใจที่จะขายหุ้นส่วนใหญ่ของทีมแต่อย่างใด "จากกรณีที่มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ ฟินอินเวสต์ ขอยืนกรานว่าเราไม่มีความสนใจที่จะขายหุ้นส่วนใหญ่ของ เอซี มิลาน แต่อย่างใด บริษัทขอยืนกรานคำพูดจากแถลงการณ์เดิมที่มีขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ ในเรื่องที่ว่ามีหลายฝ่ายสนใจที่จะเป็นพันธมิตรกับ มิลาน แต่มันไม่มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด ยิ่งแผนที่จะมีการทำข้อตกลงกันหรือการนัดประชุมกันยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย"