ปรีวิว ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

(รอบ16ทีมสุดท้าย นัดแรก)

วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558

ชาลเก้ (เยอรมนี)  -  เรอัล มาดริด (สเปน)

ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1, เวลา : 02.45 น.

สนาม : เฟลตินส์ อารีน่า

        "ราชันสีน้ำเงิน" ภายใต้การทำทีมของ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ เพิ่งพ่ายแฟร้งค์เฟิร์ตเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามความพร้อมนัดนี้ถือว่าน่าสนใจ

        คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ พ้นโทษแบนจากเกมลีกกลับมาประจำการ น่าจะได้ยืนตัวจริงทันที ส่วนตัว
เดี้ยงยาวอย่าง ยูเลียน ดรักซ์เลอร์(กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง), เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน(เข่า),ราล์ฟ เฟห์รมันน์(เข่า),เลออน โกเร็ตซ์ก้า(กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง),ชิเนดู โอบาชี(เท้า) หมดสิทธิ์ทั้งหมด

        ฟาเบียน กีเฟอร์ นายทวารมือสองหายเจ็บขาหนีบกลับมาซ้อมแล้ว เกมนี้มีลุ้นโดยมี ทิโมน เวลเลนรอยเธอร์ นายด่านดาวรุ่งคอยสแตนด์บาย แนวรับยึดระบบหลังสามเช่นเดิม เบเนดิคท์ เฮอเวเดส ทำงานร่วมกับ โฌแอล มาร์ทิป และ มาติย่า นาสตาซิช

        ใช้ อัตสึโตะ อุจิดะ ยืนวิงแบ็คขวา คู่มิดฟิลด์ ยาน เคียร์ชโฮฟฟ์ ประสานงาน มาร์โค เฮอเกอร์ วิงแบ็คซ้ายเป็น คริสเตียน ฟุคส์ หน้าต่ำ เควิน พรินซ์ บัวเต็ง เดินเครื่องข้างหลังคู่หัวหอก เอริค มักซิม ชูโป โมติง และ คลาส ยาน ฮุนเตลาร์

        เรอัล มาดริด ฐานะแชมป์เก่า เคยเจอชาลเก้มาแล้วฤดูกาลก่อนในรอบเดียวกัน ก่อนถล่มด้วยสกอร์รวม 9-2 กระนั้นเกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ มีปัญหาให้ขบคิดพอสมควร

        เซร์คิโอ รามอส เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง, ฟาบิโอ โกเอนเตรา เจ็บน่อง ชวดแน่นอน , มาร์เชโล และ เปเป้ กลับมาซ้อมและมีชื่อติดอยู่ในทีมชุดนี้ด้วย แต่ต้องรอทดสอบความฟิตอีกครั้ง

        ฮาเมส โรดริเกซ เป็นอีกรายที่หมดสิทธิ์ช่วยทีม เจ็บนิ้วเท้า เช่นเดียวกับสองมิดฟิลด์ ซามี่ เคดิร่า(กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง), ลูก้า โมดริช(กล้ามเนื้อต้นขา) เป็นโอกาสของ อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ ลงตัวจริงตามเดิม ส่วนสามประสาน "บีบีซี" ในแดนหน้าไม่มีปัญหา พร้อมรบ

        นายทวาร อิเคร์ กาซียาส ตามเดิม แนวรับจากขวาไปซ้าย ดาเนียล คาร์บาฆัล, เปเป้, ราฟาแอล วาราน และ มาร์เชโล

        กลางสนาม อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ ประสานงานกับ โทนี่ โครส, อิสโก้ ส่วนเกมรุกปล่อยให้ แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        ชาลเก้ : ทิโมน เวลเลนรอยเธอร์ - เบเนดิคท์ เฮอเวเดส,โฌแอล มาร์ทิป,มาติย่า นาสตาซิช - อัตสึโตะ อุจิดะ,ยาน เคียร์ชโฮฟฟ์,มาร์โค เฮอเกอร์,คริสเตียน ฟุคส์ - เควิน พรินซ์ บัวเต็ง - เอริค มักซิม ชูโป โมติง,คลาส ยาน ฮุนเตลาร์

        เรอัล มาดริด : อิเคร์ กาซียาส - ดาเนียล คาร์บาฆัล, เปเป้, ราฟาแอล วาราน,มาร์เชโล - อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้,โทนี่ โครส,อิสโก้ - แกเร็ธ เบล,คาริม เบนเซม่า,คริสเตียโน่ โรนัลโด้

        ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน (อังกฤษ)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- นี่คือการจับสลากมาเจอกันหน 2 ต่อจากรอบเดียวกันเมื่อซีซั่นก่อนซึ่ง เรอัล มาดริด ถล่มชาลเก้ด้วยสกอร์รวม 9-2 รวมถึงเกมถล่ม 6-1 ถึงเฟลตินส์-อารีน่า
- เรอัล มาดริด ตีตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์เป็นปีที่ 18 ติดต่อกัน มากกว่าทุกทีม นอกจากนั้นยังทะลุรอบตัดเชือกตลอด 4 ซีซั่นหลัง ก่อนผงาดคว้าแชมป์สมัย 10 ในซีซั่นที่แล้ว
- ชาลเก้ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 5 ซีซั่นหลังสุด มีเพียง บาเยิร์น มิวนิค ที่ทำได้ดีกว่าในช่วงเวลาเดียวกัน
- กระนั้น ชาลเก้ เสียไปถึง 19 ประตูจากเกมน็อกเอาต์ชปล. 6 นัดที่ผ่านมา (เสมอ 1 แพ้ 5)
- เรอัล มาดริด ชนะ 18 จาก 20 นัดหลังในชปล. (เสมอ 1 แพ้ 1) ทว่าเกมหนึ่งเดียวที่ปราชัยนั้นเกิดขึ้นด้วยน้ำมือทีมเยอรมันอย่าง ดอร์ทมุนด์ ในรอบ 8 ทีมซีซั่นก่อน (0-2)
- ราชันชุดขาว คือทีมเดียวที่ทำสถิติชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ในชปล.ซีซั่นนี้ (6 นัด)
- หากคว้าชัยได้ในเกมนี้ เรอัล มาดริด จะชนะ 10 เกมรวดในชปล. ทาบสถิติของบาเยิร์น มิวนิค ที่ทำเอาไว้ระหว่างเมษายนถึงพฤศจิกายน 2013
- เรอัล มาดริด หาโอกาสยิงได้เยอะที่สุด (123) รวมถึงตรงกรอบมากสุด (49) ในชปล.ซีซั่นนี้
- 75 เปอร์เซ็นต์ของประตูที่ทีมราชันชุดขาวทำได้ในชปล. ซีซั่นนี้ เกิดขึ้นในครึ่งแรก (12 จาก 16) อีกทั้งยังเป็นทีมเดียวที่ไม่เคยเสียประตูในครึ่งหลัง
- ชาลเก้ โดนเจาะตาข่ายทั้งสิ้น 14 หนในรอบแบ่งกลุ่ม มากที่สุดในกลุ่มทีมที่เข้ารอบน็อกเอาต์
- คลาส-ยาน ฮุนเตลาร์ หอกชาลเก้ ยิงไป 8 จากเกมชปล. 10 นัดที่ผ่านมาในบ้านตัวเอง
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทะลวงตาข่ายทั้งสิ้น 57 ตุงจาก 57 เกมชปล.ในสีเสื้อราชันชุดขาว