ปรีวิวฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีม นัดแรก

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) - เบซิคตัส (ตุรกี)

ถ่ายทอดสด : True4U, เวลา : 03:05 น.

สนาม : แอนฟิลด์

          ลิเวอร์พูล ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้าสู่รอบนี้จากการตกรอบแบ่งกลุ่มถ้วยใหญ่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่คว้าอันดับ 3 กลุ่มบี

          ในลีกผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ หลังคว้าชัย 4 จาก 5 นัดหลัง ล่าสุดในเอฟเอ คัพ รอบ 5 ก็บุกชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 จากประตูของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ อดัม ลัลลาน่า

          สภาพทีมเกมนี้ต้องขาด ลาซาร์ มาร์โควิช ปีกที่ถูกจับเล่นวิงแบ็ก ติดโทษแบนเกมยุโรป 4 นัด จากใบแดงรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. นัดสุดท้ายกับ บาเซิ่ล รวมกับของเดิมที่เคยโดนไล่ออกตอนอยู่กับ เบนฟิก้า ซีซั่นก่อน

          ในราย ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกตัวความหวังที่เจ็บเท้า ยังคงต้องรอทดสอบความฟิต ขณะที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด (เอ็นหลังหัวเข่า), ลูคัส เลวา (กล้ามเนื้อ), แบร๊ด โจนส์ (ต้นขา) และ จอน ฟลานาแกน (เข่า) พลาดแน่นอน

          การจัดทัพ แนวรุกอาจพัก ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แล้วส่ง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กับ ฟาบิโอ บอรินี่ ลงตัวจริง เพราะมีศึกใหญ่ในลีกรออยู่ ต้องบุกเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน วันอาทิตย์

          ด้าน เบซิคตัส ของกุนซือ สลาเวน บิลิช เข้ารอบนี้มาในฐานะทีมอันดับ 1 กลุ่มซี เบียด สเปอร์ส จบอันดับ 2 หลังคว้าชัยในนัดสุดท้าย

          ผลงานในลีกยังคงยอดเยี่ยม นำจ่าฝูง ซูเปอร์ลีก ตุรกี เหนือ เฟเนร์บาห์เช่ 1 แต้ม และ กาลาตาซาราย 2 แต้ม หลังจากเกมล่าสุดเปิดบ้านเฉือนชนะ บูร์ซาสปอร์ 3-2

          ข่าวร้ายจากเกมเมื่อวันอาทิตย์ ผู้รักษาประตูมือ 1 โตลกา เซนกิน เจ็บเข่าตั้งแต่ 15 นาทีแรก ต้องให้ เชงค์ โกเนน ลงเฝ้าเสาแทน

          สำหรับ เซงค์ โตซุน (เท้า) กลับมาซ้อมแล้วแต่ต้องรอประเมินความฟิตร่วมกับ ราม่อน (สะโพก), เดมบา บา (สะโพก) และ เออร์ซาน กูลุม (ไข้หวัด)

          อย่างไรก็ดี อติบา ฮัตชินสัน พ้นโทษแบนจากนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง

          รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
          ลิเวอร์พูล : ซิมง มินโญเลต์, เอ็มเร่ ชาน, มาร์ติน สเคอร์เทล, มามาดู ซาโก้, ฆาบี มานกีโย่, โจ อัลเลน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, อดัม ลัลลาน่า, ฟาบิโอ บอรินี่, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
          เบซิคตัส : เชงค์ โกเนน, เปโดร ฟรังโก้, เซอร์ดาร์ คูร์ตูลุส, อาติงช์ นูคาน, รามอน ม็อตต้า, เวลี่ คาฟลัค, อติบา ฮัตชินสัน, โฮเซ่ โซซ่า, โอลชาย ซาฮาน, โกคาน ตอเร่, เดมบา บา
          ผู้ตัดสิน : ซิมอน มาร์ชิเนียค (โปแลนด์)

          ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
          - ทั้งสองทีมพบกันในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ปี 2007-08 เมื่อ เบซิคตัส เอาชนะ 2-1 ที่อิสตันบูล ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะถล่ม 8-0 ในแอนฟิลด์ โดยนั่นเป็นความพ่ายแพ้เยอะที่สุดในเกมยุโรปของ เบซิคตัส รวมถึงเป็นสกอร์แพ้เยอะที่สุดของทุกๆ ทีมในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกด้วย (รอบแบ่งกลุ่มจนถึงนัดชิง)
          - ทีมที่ลงเล่นเกมเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2007
         ลิเวอร์พูล : เรน่า, อาร์เบลัว, ฮูเปีย, คาร์ราเกอร์, ฟาบิโอ ออเรลิโอ (บาเบิล 63), มาสเคราโน่, เจอร์ราร์ด (ลูคัส 73), เบนายูน, รีเซ่, โวโรนิน (คีเวลล์ 72), เคร้าช์
         เบซิคตัส : ฮาคาน อริคาน, เซอร์ดาน คูตูลุส (อิกวาอิน 62), เมเหม็ด เซเดฟ (ริคาร์ดินโญ่ 78), มาติอัส เดลกาโด้, โบโบ้, ดิอัตต้า, ซิสเซ่, อิบราฮิม อูเซลเมซ, เซอร์ดาร์ ออซคาน (อาลี ทันโดกัน 46), โคราย อัฟซี่, อิบราฮิม โทรามัน

          ปูมหลัง
          - ลิเวอร์พูล ไม่แพ้เลยตลอด 5 นัดเหย้าที่พบทีมจากตุรกี (ชนะ 4 เสมอ 1)
          - เบซิคตัส พบกับคู่แข่งจากอังกฤษมาแล้วในซีซั่นนี้ โดยบุกเสมอ สเปอร์ส 1-1 และเอาชนะที่บ้าน 1-0 ในยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็แพ้ อาร์เซน่อล ด้วยสกอร์รวม 0-1 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ
          - ลิเวอร์พูล ไม่ชนะเลยตลอด 5 นัดหลังสุดในบอลยุโรป (เสมอ 2 แพ้ 3) และก็ถูก เซนิต เขี่ยตกรอบ (ด้วยกฎประตูทีมเยือน) 32 ทีมเมื่อปี 2012-13

ปรีวิวฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีม นัดแรก

วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558  

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (อังกฤษ) - ฟิออเรนติน่า (อิตาลี)

ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 6, เวลา : 03:05 น.

สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน

          ไก่เดือยทอง ของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เข้ารอบมาในฐานะทีมอันดับ 2 กลุ่มซี จากผลงานชนะ 3 เสมอ 2 และแพ้ 1

          ผลงานในลีก เกมล่าสุดบุกแพ้ ลิเวอร์พูล 2-3 หล่นไปอยู่อันดับ 6 แต่ยังห่างจากอันดับ 3 เพียงแค่ 4 แต้ม

          สภาพทีมไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน ขึ้นอยู่กับว่าจะจัดใครลงสนาม มีเพียง เบน เดวิส แบ็กซ้ายคนเดียวที่คาดโทษอยู่ ต้องระวังใบเหลืองเพิ่ม

          โปเช็ตติโน่ อาจเรียกนักเตะที่หลุดเป็นสำรองในเกมล่าสุดกลับมาเป็นตัวจริงเกมนี้ อาทิ เฟเดริโก้ ฟาซิโอ, นาเซอร์ ชาดลี่ และ เปาลินโญ่ ขณะที่ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ เพิ่งฟิตกลับมา

          ด้าน วินเชนโซ่ มอนเตลล่า เทรนเนอร์ "ม่วงมหากาฬ" จะกลับมาใช้ระบบ 3-5-1-1 อีกครั้ง พร้อมเรียกแข้งหลักอย่าง โฮเซ่ บาซานต้า, ฆัวกิน, บอร์ฆา บาเลโร่, มานูเอล ปาสกวาล และ มาริโอ โกเมซ กลับมาเป็นตัวจริง หลังพักเป็นสำรองในเกมลีกนัดล่าสุด

          อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือ ชิเปรียน ตาตารูซานู ผู้รักษาประตูมือ 1 มีอาการบาดเจ็บที่หลัง ต้องรอทดสอบความฟิต หากไม่ไหวจะเป็น เนโต้ ที่ได้ลงเฝ้าเสาแทน ส่วน อเลสซานโดร เดียมานติ ไม่มีชื่อลงเล่นรายการนี้

          การจัดทัพ นายทวารรอเลือกระหว่าง ชิเปรียน ตาตารูซานู หรือ เนโต้ กองหลังประกอบด้วย สเตฟาน ซาวิช, กอนซาโล่ โรดริเกซ และ โฮเซ่ บาซานต้า

          ดาวิด ปิซาร์โร่ ประสานงานแดนกลางกับ มาติอัส แฟร์นานเดซ และ บอร์ฆา บาเลโร่ วิงแบ็กเป็น ฆัวกิน กับ มานูเอล ปาสกวาล วาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปั้นเกมรุกอยู่ข้างหลัง มาริโอ โกเมซ โดยมี คูมา เอล บาบาการ์ เป็นทีเด็ดข้างสนาม

          รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
          สเปอร์ส : อูโก้ โยริส, ไคล์ วอล์คเกอร์, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ, ยาน แฟร์ทองเก้น, เบน เดวิส, เบนจาแม็ง สต็อมบูลี่, นาบิล เบนทาเล็บ, แอนดรอส ทาวน์เซนด์, เปาลินโญ่, นาเซอร์ ชาดลี่, แฮร์รี่ เคน
          ฟิออเรนติน่า : ชิเปรียน ตาตารูซานู (เนโต้) - สเตฟาน ซาวิช, กอนซาโล่ โรดริเกซ, โฮเซ่ บาซานต้า - ฆัวกิน, มาติอัส แฟร์นานเดซ, ดาวิด ปิซาร์โร่, บอร์ฆา บาเลโร่, มานูเอล ปาสกวาล - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ - มาริโอ โกเมซ
          ผู้ตัดสิน : การ์ลอส เบลาสโก้ การ์บาโย่ (สเปน)

          ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
          - ทั้งสองทีมจะพบกันเป็นครั้งแรกในเกมยุโรป โดยพวกเขาเคยปะทะกันในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่น 2 ครั้ง ซึ่ง สเปอร์ส เอาชนะ 3-0 ในปี 2001 และ 3-2 ในปี 2010 โดยเล่นที่ลอนดอนทั้งหมด
          - สเปอร์ส ไม่แพ้เลยตลอด 5 นัดเหย้าที่พบทีมจากอิตาลีในเกมยุโรป (ชนะ 3 เสมอ 2) และไม่เสียประตูตลอด 3 เกมเหย้าหลังสุดที่พบทีมจากเซเรีย อา ด้วย
          - ฟิออเรนติน่า เคยพบทีมจากอังกฤษในรอบน็อคเอาต์แบบสองนัดเพียงหนเดียวก่อนหน้านี้ ซึ่ง วิโอล่า ผ่าน เอฟเวอร์ตัน ในยูฟ่า คัพ รอบ 16 ทีม ปี 2007-08 ด้วยการดวลเป้า หลังผลัดกันชนะในบ้านตัวเอง 2-0

          ปูมหลัง
          - สเปอร์ส ไม่แพ้เลยตลอด 4 เกมเหย้าในบอลยุโรปซีซั่นนี้ (ชนะ 3 เสมอ 1) พวกเขาประสบความสำเร็จตลอด 2 ครั้งหลังสุดที่เล่นรอบ 32 ทีม ตั้งแต่ถูก ชัคตาร์ โดเนตส์ค เขี่ยร่วมรอบนี้ในยูฟ่า คัพ ปี 2008-09
          - ฟิออเรนติน่า ไม่แพ้เลยตลอด 9 นัดเยือนในบอลยุโรป (ชนะ 7 เสมอ 2) พวกเขาไร้พ่ายมา 12 เกมเยือนในยูฟ่า คัพ และยูโรปา ลีก (ชนะ 8 เสมอ 4) ตั้งแต่เกมที่พ่าย เอฟเวอร์ตัน