ปราสาทสายฟ้าทะยานขึ้นกลุ่มเอฟหลังบุกไปเฉือนชนะทีม แกร่งจากแดนมังกรจากประตูชัยสุดสวยของมาเชนาในช่วงท้ายเกมช่วยให้พวกเขามีหก คะแนนเต็ม

AFCแชมเปี้ยนส์ลีก กลุ่ม F

วันอังคารที่ 3 มีนาคม 2558

กว่างโจว อาร์แอนด์เอฟ 1-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดที่สองของกลุ่มเอฟ เป็นการโคจรมาปะทะกันระหว่างกวางโจว อาร์แอนด์เอฟที่ชนะกัมบะ โอซาก้ามา 2-0 ในเกมแรกรับการมาเยือนของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดที่ชนะซองนัม เอฟซีมา 2-1

เกมนี้คอสมิน คอนทร้าจัดการวางอับดุรรอซัค ฮัมดัลลอฮ์กองหน้าชาวโมร็อกโกเป็นกองหน้าตัวเป้าในเกมนี้ โดยมีเจียง หนิงเป็นหน้าต่ำส่วนตรงกลางมีมิเชล เอร์เรโณและพาร์ค จอง วูคอยคุมเกม

ด้านอเล็กซานเดร กามาไม่มีการเปลี่ยนนักเตะจากเกมแรกเท่าไหร่โดยยังยึดตัวหลักชุดเดิมนำโดย สองกองหน้าชาวบราซิเลียนอย่างกิลแบร์โต มาเชนาและดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ ส่วนแดนกลางก็มีโก ซุลกิและสุเชาว์ นุชนุ่ม

ช่วงแรกเป็นกวางโจวที่ทำได้ดีกว่ากว่าเล็กน้อยและพาบอลเข้ามาป้วนเปี้ยนในเขตโทษบุรีรัมย์ได้หลายครั้งแต่ก็ยังโดนสกัดออกไปได้ทั่้งหมด

แต่ในนาทีที่ 27 กวางโจวก็มาได้ประตูออกนำจนได้จากจังหวะที่มิเชล เปิดเข้ามาตรงกลางและเป็นหลู หลินที่สอดเข้ามาเตะเปลี่ยนทางเข้าประตูไปช่วยให้เจ้าถิ่นขึ้นนำไปก่อน 1-0

พอโดนนำบุรีรัมย์ก็พยายามขึ้นเกมบุกและมาได้ลุ้นบ้างในนาทีต่อมาจากจังหวะที่โก ซุลกิ ได้ลองส่องไกลแต่บอลเหินออกนอกกรอบไปไกล

และนาทีที่ 32 บุรีรัมย์ก็มาโดนใบเหลืองเป็นใบแรกและเป็นกรวิทย์ที่ไปเตะใส่หลู หลิน คนทำประตูจนล้มไป

นาทีที่ 43 บุรีรัมย์มาได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ประกิตแทงทะลุช่องให้มาเชนายิงไปติดเซฟ ของนายทวารกวางโจวออกหลังไปและจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุมธีราทรเปิดเข้ามา ให้โก ซุลกิ โขกเปลี่ยนทางเข้าประตูไปช่วยให้ปราสาทสายฟ้าไล่มาเป็น 1-1 และเป็นประตูแรกของห้องเครื่องชาวเกาหลีใต้กับเซราะกราว

ช่วงทดเจ็บกวางโจวเกือบมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะที่ชิติพัทธ์ สกัดบอลพลาดมาเข้าทางฮัมดัลลอฮ์เปิดเข้ามาให้ซองวูได้ยิงเฉือนแต่ศิวรักษ์ รับไว้ได้ก่อนจะหมดครึ่งแรกทั้งคู่เสมอกันไป 1-1

ครึ่งหลังยังเป็นเจ้าถิ่นที่เหนือกว่าเล็กน้อยแต่ก็ต้องมาโดนใบเหลืองบ้างและเป็นลู หลินคนทำประตูที่ไปเสียบใส่โก ซุลกิ

นาทีที่ 55 บุรีรัมย์พลาดโอกาสพลิกขึ้นนำอย่างไม่น่าเชื่อจากจังหวะทีมาเชนาเบียดกับกอง หลังกวางโจวล้มลงไปและเป็นประกิตที่ได้เข้ามาวอลเลย์โล่งแต่บอลเหินนข้าม คานออกไปอีก

และในนาที 60 กวางโจวก็จัดการแก้เกมก่อนด้วยการส่งไฟยา ชางและเชา จางลงมาเล่นแทนเจียง หนิงและพาร์ค จอง วู

นาทีที่ 61 กวางโจวพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อจากจังหวะที่มิเชล แทงทะลุช่องให้เชา จางแปตามน้ำด้วยซ้ายแต่ศิวรักษ์ยังออกมาบล็อคได้ทันแบบหวุดหวิด

และนาทีที่ 64 บุรีรัมย์ก็น่ามาได้ลุ้นประตูพลิกขึ้นนำเช่นกันจากจังหวะโต้กลับและเป็นดีโอ โก้ที่แทงให้มาเชนายิงด้วยซ้ายหลุดเสาแรกไปนิดเดียวเท่านั้น

นาทีที่ 70 บุรีรัมย์ขยับบ้างด้วยการส่งสุรัตน์ สุขะลงมาเล่นแทนประกิต ดีพร้อมและนาทีที่ 78 บุรีรัมย์ก็มาได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ดีโอโก้ได้พาบอลลุยมายิงไกลด้วยซ้าย แต่ก็เหินข้ามคานออกไปอีก

นาทีสุดท้ายบุรีรัมย์มาได้ประตูชัยอย่างน่าเหลือเชื่อจากจังหวะวางบอลยาว ของธีราทรมาให้ดีโอโก้โขกตั้งให้มาเขนาโอเวอร์เฮดคิกข้ามหัวประตูกวางโจว เข้าไปช่วยให้ทีมเยือนพลิกขึ้นนำเป็น 2-1

ช่วงทดเจ็บบุรีรัมย์เกือบมาได้ประตูฝังจากจังหวะยิงไกลของธีราทรแต่นาย ทวารเจ้าถิ่นยังปัดไว้ได้แบบหวุดหวิด ก่อนจะไม่มีประตูเพิ่มเติมจบเกมบุรีรัมย์ พลิกกลับมาชนะกวางโจว อาร์แอนด์เอฟไป 2-1 ทำให้ปราสาทสายฟ้าทะยานขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของกลุ่มเอฟด้วยการมีหกคะแนนเต็ม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

กวางโจว อาร์แอนด์เอฟ : หลิว เตี่ยนจ๋อ, ถัง เหมี่ยว , จาง เย่าคุน , จาง ฮยอน-ซู เจียง จื่อเผิง - หลู หลิน , มิเชล เอร์เรโร , พาร์ค จอง-วู , หวัง ซ่ง - เจียง หนิง - อับดุรรอซัค ฮัมดัลลอฮ์

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), ชิติพัทธ์ แทนกลาง, อันเดรส ตูเญซ, กรวิทย์ นามวิเศษ - ธีราทร บุญมาทัน, สุเชาว์ นุชนุ่ม, โก ซุลกิ, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม - ประกิต ดีพร้อม - กิลแบร์โต้ มาเชนา, ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต้