ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
หน้าแรก » กีฬาอื่นๆ » "อำนาจ เกษตรพัฒนา" ผู้ดับฝัน "ซู ชิ หมิง" และคนจีนทั้งชาติ

"อำนาจ เกษตรพัฒนา" ผู้ดับฝัน "ซู ชิ หมิง" และคนจีนทั้งชาติ

Posted 09/03/2015 by siamsport

 

อำนาจ เกษตรพัฒนา แชมป์โลกรุ่นฟลายเวต IBF ทำให้คนไทยทั้งชาติสะใจกันถ้วนหน้าเมื่อสามารถไปป้องกันแชมป์โลกที่มาเก๊า ถิ่นของ ซู ชิ หมิง ซูเปอร์สตาร์ของจีนได้แบบเหนือชั้นขาดลอยแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เพราะคิดว่าไปเพื่อเสียแชมป์แน่ๆ แต่อำนาจก็ยังสามารถต้อนตือซุปตาร์จีนแบบสอนมวย ทำให้คนไทยทั้งชาติสุขใจเพราะรอเวลาที่จะเห็นภาพของ ซู ชิ หมิง แพ้มานานแล้วตั้งแต่สมัยที่เอาชนะ แก้ว พงษ์ประยูร อย่างค้านสายตาเมื่อ 3 ปีก่อน ที่ลอนดอนเกมส์ 2012 นี่คือผลงานยิ่งใหญ่ของนักชกไทยเราอีกครั้ง

อำนาจ ที่เราจะรู้จักเขาในนามของนักมวยไทย เพชร ป.บูรพา และ อำนาจ รื่นเริง นักชกเหรียญทองแดง เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ขุนพลเสื้อกล้ามทีมชาติไทย ทั้งหมดนี้ก็คือคนคนเดียวกัน คือยอดมวยสามแบบที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในวงการมวยของเมืองไทยที่ใครจะทำได้แบบนี้ ''เจ้าเพชร'' เกิดวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2522 ที่ตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี อายุตอนนี้ก็ย่างเข้า 36 ปีแล้ว ช่วงเป็นเด็กนั้นเป็นเด็กที่เกเรไม่เบา เพราะว่าไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนหนังสือหนังหาเหมือนคนอื่น เพราะไม่มีหลักฐานรับรองการเกิดว่าเป็นคนไทย ต้องรอถึงอายุ 16 ปี จึงได้สัญชาติไทย ก่อนที่ ''ครูตุ้ย'' ยอดธง เสนานันท์ ได้จับเพชรมาขัดเกลาและถ่ายทอดวิชาในรูปแบบมวยไทยให้ตอนอายุ 7 ขวบ ใช้ชื่อในการชกมวยไทยว่า โฮม ทิพย์ท่าไม้ ด้วยความเป็นเด็กที่เจ้าเล่ห์ มีความฉลาดหลักแหลม ทำให้สไตล์การชกของเขานั้นเป็นมวยที่มีจังหวะฝีมือดี สามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักมวยระดับยอดไอ้แอ้ดได้ด้วยการเป็นแชมป์ชมรมมวยสยามภาคตะวันออก เวทีมวยเทพประสิทธิ์ ในรุ่น 30, 35 และ 40 กิโลกรัม ก่อนที่จะมีโอกาสเข้ามาโชว์ฝีมือในเวทีเมืองกรุงยืนหยัดอยู่บนสังเวียนเมืองกรุงก่อนจะย้ายไปหลายค่าย สุดท้ายซ้อมที่ค่าย ป.บูรพา โดยใช้ชื่อว่า ''เพชร ต.บางแสน'' หรือ ''เพชร ป.บูรพา''

มีดีกรีเป็นแชมป์ฟลายเวตของเวทีลุมพินี ก่อนจะประสบปัญหาชีวิตต้องเข้าไปรับโทษในเรือนจำ ก่อนจะเริ่มหัดมวยสากลสมัครเล่นภายในเรือนจำ เมื่อปี พ.ศ. 2548 ได้เหรียญทองกีฬาราชทัณฑ์ 2 ปีซ้อน แล้วได้เหรียญทองรายการชิงแชมป์ประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2547 หลังจากที่คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยได้ทั้งที่เจ้าตัวยังต้องโทษอยู่ในเรือนจำ จนกระทั่งได้รับการดึงตัวให้เข้ามาซ้อมร่วมทีมชาติในทันทีที่พ้นโทษ และเส้นทางชีวิตก็พลิกจากมุมมืดสู่ความสดใสทันที เพราะช่วงนั้นเป็นจังหวะที่ สุบรรณ พันโนน นักชกทีมชาติไทยมีปัญหาบาดเจ็บจนต้องถอนตัวจากทีมชาติ จึงทำให้อำนาจได้กลายเป็นนักมวยทีมชาติตัวจริงทันที และยึดตำแหน่งเอาไว้อย่างเหนียวแน่น

อำนาจถือเป็นนักมวยที่มีพรสวรรค์และทักษะลีลาดี เหมาะกับการชกมวยสากลสมัครเล่นพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว สร้างชื่อกระหึ่มให้ตัวเองด้วยการเอาชนะโคตรมวยเสื้อกล้ามของแดนมังกร ซู ชิ หมิง เจ้าของเหรียญทองในรุ่นไลต์ฟลายเวต โอลิมปิก 2008 และโอลิมปิก 2012 และแชมป์มวยสากลสมัครเล่นโลก 3 สมัยได้ทั้งที่เป็นการติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในชีวิตเสียด้วย ในศึกคิงส์คัพที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ก่อนจะเดินทางไปคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันเวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่สหรัฐอเมริกา มาได้สำเร็จ จากผลงานนี้ทำให้อำนาจได้รับรางวัล ''นักกีฬาหน้าใหม่ยอดเยี่ยม สยามกีฬา อวอร์ดส์'' ชื่อของอำนาจมาโด่งดังสุดๆ ใน ปักกิ่งเกมส์ 2008 ก่อนเข้าแข่งเขาได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารไทม์ว่าเป็น 1 ใน 100 นักกีฬาที่น่าจับตามองในการแข่งขันโอลิมปิกที่เมืองจีน รอบแรกอำนาจเอาชนะ แจ็ค วิลลี่ นักมวยปาปัวนิวกินีไปได้ 14-2 หมัด ในรอบสองเอาชนะ เนสตัน มอนเตโร่ จากโดมินิกันขาดลอย 7-3 หมัด แต่ในรอบชิงเหรียญทองแดง อำนาจตกเป็นฝ่ายแพ้ให้กับ เซอร์ดัมบา ปูเรฟดอร์จ นักมวยมองโกเลียอย่างน่ากังขา เพราะอำนาจชกเท่าไหร่คะแนนก็ไม่ขึ้นสร้างความผิดหวังให้กับชาวไทยทั้งชาติและแล้ว ในปี พ.ศ. 2555 อำนาจจึงตัดสินใจเทิร์นโปรขึ้นชกมวยสากลอาชีพในสังกัดของ เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น เข้าอยู่ในโครงการหนึ่งสมองสองกำปั้นสู้แชมป์โลก แม้ว่าจะอายุ 32 ปีแล้วในตอนนั้น แต่ภายใต้การผลักดันของโปรโมเตอร์หนุ่ม เอกรัฐ ไชยโชติช่วง ในที่สุดอำนาจก็สบโอกาสได้ชิงแชมป์โลกในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่นครราชสีมา แม้ว่า โมรูต้า เอ็มทาลาเน่ แชมป์โลกรุ่นฟลายเวต IBF จะสละตำแหน่งไปแบบกะทันหัน แม้ว่าจะประกบชกกับอำนาจไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ทางโปรโมเตอร์จิมมี่ก็สามารถประสานเอา ร็อคกี้ ฟูเอนเตส แชมป์ OPBF ชาวฟิลิปปินส์ มาชกแทน ในการชิงแชมป์โลกที่ว่าง อำนาจเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน ร็อคกี้ ฟูเอนเตส ไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ผงาดเป็นแชมป์โลกคนที่ 48 ของเมืองไทย ด้วยฟอร์มชกที่เหนือชั้นสุดๆ เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว และก็ป้องกันแชมป์โลกไว้ได้ 2 ครั้ง ในปี 2557 บุกไปเอาชนะคะแนนยอดมวย บูชิโด คัตสึโตะ อิโอกะ ถึงโอซาก้า และป้องกันแชมป์ไฟต์บังคับในบ้านที่โคราช ชนะคะแนน แม็ควิลเลี่ยมส์ อาร์โรโย่ รองแชมป์โลกเบอร์ 1 ชาวเปอร์โตริกัน

ผลงานสุดยอดของอำนาจเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา เมื่อเขาเดินทางไปป้องกันแชมป์โลกครั้งที่ 3 กับ ซู ชิ หมิง นักชกขวัญใจของชาวจีน ที่โคไท อารีน่า ในมาเก๊า สังเวียนระดับโลกที่ แมนนี่ ปาเกียว เคยชกมาแล้ว ก่อนชกทางแชมป์โลกชาวไทยตกเป็นรองถึง 5-2 เพราะมองว่า ซู ชิ หมิง ชนะใสๆ แพ้ยาก แต่เมื่อชกกันจริงกลายเป็นนักชกเจ้าถิ่นที่ออกทะเล ต่อยวืดวาด และก็เดินชนแบบไร้ฟอร์ม แม้จะได้นับก่อนในยกที่ 2 ก็ตาม ครบ 12 ยก หลายคนบอกว่าอำนาจแพ้แน่ๆ แต่ว่าทางทีมงานนั้นมั่นใจกันหมด ซึ่งเมื่อ ไมเคิ่ล บัฟเฟอร์ ประกาศออกว่าอำนาจเป็นฝ่ายชนะคะแนน 116-111 คะแนนเท่ากันทั้งหมด ท่ามกลางความปลาบปลื้มของทีมงาน และทำเอา ซู ชิ หมิง จ๋อย แฟนมวยชาวจีนตะลึงกันทั้งสนาม ไม่อยากจะคิดว่าขวัญใจของพวกเขาจะพลาดหวังเป็นแชมป์โลกในบ้านแบบนี้ ความฝันของ ซู ชิ หมิง ต้องพังทะลาย ทั้งที่ก่อนชกมีการโปรโมตอย่างหนักมากว่า ซู ชิ หมิง จะต้องสร้างประวัติศาสตร์ได้แน่

อนาคตต่อไปของอำนาจมีแต่ความสดใสอย่างแน่นอน ด้วยเป้าหมายที่จะล่าแชมป์โลกสถาบันอื่นมาครองเพิ่มอีก อำนาจมีโอกาสที่จะไปชกที่อเมริกา ล้มแชมป์กับ ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า แชมป์โลก WBA / WBO ชาวเม็กซิกัน,โรมัน กอนซาเลซ แชมป์โลก WBC หรือว่าล้างตากับ คัตสึโตะ อิโอกะ คู่ปรับเก่าหากว่าอิโอกะได้เป็นแชมป์โลกของ WBA ในเดือนหน้า เชื่อเหลือเกินว่าอำนาจผู้สร้างความสุขให้กับคนไทยด้วยการพิชิต ซู ชิ หมิง อยู่ในเส้นทางที่จะเป็นแชมป์โลกที่ทำเงินได้มากที่สุดของเมืองไทยตั้งแต่เคยมีมา และน่าจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการมวยโลกเมืองไทยอย่างแน่นอน

"ช้างพีอาร์"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »