ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » หวิดร่วง!ราชันบู่พ่ายชาลเก้3-4แต่รวมลิ่ว5-4

หวิดร่วง!ราชันบู่พ่ายชาลเก้3-4แต่รวมลิ่ว5-4

Posted 11/03/2015 by siamsport

 

เกือบไปแล้วสำหรับ แชมป์เก่า เรอัล มาดริด เมื่อยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอ พลาดท่าพ่ายคารังต่อ "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ 04 สุดมันส์ 3-4 แต่รวมผลสองนัด "ราชันชุดขาว" ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปด้วยสกอร์รวม 5-4 ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อคืนวันอังคารที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา

 

 

 

 

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง

วันอังคารที่ 10 มีนาคม 2558

เรอัล มาดริด (สเปน) 3-4 ชาลเก้ 04 (เยอรมนี)

สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, (มาดริด, สเปน)

          "ราชันชุดขาว" บุกเอาชนะมาได้ก่อนในนัดแรก 2-0 โดยเกมนี้ไม่มี เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง และ ฮาเมส โรดริเกซ กองกลางที่กระดูกเท้าแตก แต่ได้ ลูก้า โมดริช มีชื่อเป็นสำรอง

          ด้าน "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้04 โชว์ฟอร์มหรูอัดฮอฟเฟนไฮม์ 3-1 ในลีกเกมล่าสุด เกมนี้ไม่มี เควิน พรินซ์ บัวเต็ง ที่ติดโทษแบน รวมถึง ยูเลียน ดรักซ์เลอร์,เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน, ชิเนดู โอบาชี่, ยาน เคียร์ชโฮฟฟ์, ซิดนี่ย์ แซม รวมถึงสองนายทวาร ราล์ฟ เฟห์รมันน์ และ ฟาเบียน กีเฟอร์ พักยาว

          ออกสตาร์ทครึ่งแรก ชาลเก้04 มีโอกาสก่อนในนาทีที่ 10 เมื่อ มักซ์ เมเยอร์ จ่ายให้กับ เอริค มักซิม ชูโป โมติง สับไกยิงด้วยขวาหลุดเสาขวา ก่อนที่ แปดนาทีต่อมา ทีมเยือนมาอีกครั้ง มาร์โก โฮเกอร์ ไหลให้กับ มักซ์ เมเยอร์ สับไกยิงด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษบอลถากเสาขวาอีกครั้ง

          อย่างไรก็ตาม "ราชันสีน้ำเงิน" มาขึ้นนำก่อนนาทีที่ 20 เมื่อ ทรานกีโย่ บาร์เน็ตต้า จ่ายจากกราบขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ มักซ์ เมเยอร์ ข้ามหลอกบอลเลยมาถึง คริสเตียน ฟุคส์ แบ็กซ้ายที่ดันขึ้นมาสูง ตะบันด้วยซ้ายเต็มเท้า อีเกร์ กาซียาส ปัดไม่อยู่เข้าประตู ชาลเก้ นำ 1-0

          กระนั้น 5 นาทีต่อมา เจ้าบ้านทวงคืนทันควัน เมื่อ โทนี่ โครส เปิดมุมจากทางด้านซ้ายเข้ามาให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทะยานขึ้นโหม่งเสียบเสาซ้ายอย่างสวยงามเป็น 1-1 และเป็นประตูที่ 74 ของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

          เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 29 ชาลเก้ จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา เลรอย ซาเน่ ลงมาเล่นแทน เอริค มักซิม ชูโป โมติง ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน

          ผ่านมา 40 นาที ทีมเยือนน่าได้  คริสเตียน ฟุคส์ โหม่งตั้งให้กับ คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ ตะบันด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

          แต่จังหวะต่อมาผู้มาเยือนมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง คริสเตียน ฟุคส์ จ่ายให้กับ มักซ์ เมเยอร์ ซัดด้วยซ้ายบอลเข้ากรอบ กาซียาส ปัดมาเข้าทางของ คลาส ยาน ฮุนเตลาร์ ปรี่มาซ้ำด้วยซ้ายเข้าประตูไปให้ ชาลเก้ นำ 2-1

          นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก "ราชันชุดขาว" ตามตีเสมอสำเร็จจากจังหวะที่ อีสโก้ จ่ายออกมาทางด้านซ้ายให้กับ ฟาบิโอ โคเอนเตรา ดันขึ้นมาโยนด้วยซ้ายเสาสอง โรนัลโด้ สอดขึ้นโหม่งเข้าประตู เป็น 2-2 เมื่อหมดครึ่งเวลาแรก และเป็นประตูที่ 75 ของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในการเล่นถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ขึ้นมาทาบกับสถิติสูงสุดซึ่ง ลิโอเนล เมสซี่ ของบาร์ซ่า ทำเอาไว้ 75 ประตู

          กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังเกมยังแยกกันสนุก และเป็นเจ้าถิ่นแซงนำบ้างนาที 52 จากจังหวะที่ เบล เล่นฟรีคิกเร็วให้ เบนเซม่า ลากหลบสามผู้เล่นทีมเยือนก่อนหลุดเข้าไปซัดผ่านมือ ติโมน เวลเลนรอยเธอร์ สุดสวยเป็น 3-2

          อย่างไรก็ตามดีใจได้แค่ 5 นาที ทีมจากเมืองเบียร์ตีเสมอเป็น 3-3 จากจังหวะที่ คริสเตียน ฟุคส์ เล่นเตะมุมสั้นเร็วให้ เลอรอย ซาเน่ ปีกตัวสำรองเลี้ยงตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยซ้ายเสียบเสาสองสุดสวยให้สกอร์กลับมาเสมอกันอีกครั้ง

          นาที 62 ชาลเก้ น่าแซงนำจากจังหวะที่ได้ลูกเตะมุมโยนเข้ามาเป็น เบเนดิคท์ เฮอเวเดส โขกเช็ดหลุดมาถึงเสาสองเข้าทาง ทรานกีโย่ บาร์เน็ตต้า อัดเต็มเท้ามุมแคบ กาซียาส ปัดไม่ดี ทว่ายังหลุดเสาสองออกหลังแบบหวาดเสียว
 
          ท้ายเกมนาทีที่ 84 ราชันสีน้ำเงินมาได้ประตูขึ้นนำ 4-3 เมื่อ เลรอย ซาเน่ กระชากบอลขึ้นมาโดนผู้เล่นของเรอัล มาดริด พุ่งมาสไลด์บอล แต่กลายเป็นดี เพราะคลาส ยาน ฮุนเตลาร์ วิ่งสอดขึ้นมาพาบอลไปตะบันด้วยขวาเต็มเท้าบอลพุ่งแรงเช็ดใต้คานเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด

          เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านพ่าย ชาลเก้ 04 สุดมันส์ 3-4 แต่รวมผลสองนัด "ราชันชุดขาว" ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปด้วยสกอร์รวม 5-4

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
          เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว (นาโช่ เฟร์นานเดซ น.83), เปเป้, ราฟาแอล วาราน, ฟาบิโอ โคเอนเตรา (มาร์เชโล่ วิเอยร่า น.58)- ซามี เคดิร่า (ลูก้า โมดริช น.58), โทนี่ โครส, อีสโก้ - แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้

          ชาลเก้04: ติโมน เวลเลนรอยเธอร์ - เบเนดิคท์ เฮอเวเดส (กัปตันทีม), โฌแอล มาร์ทิป, มาติย่า นาสตาซิช, คริสเตียน ฟุคส์ - มักซ์ เมเยอร์, โรมัน นอยสตั๊ดเตอร์,มาร์โก โฮเกอร์ (เลออน โกเร็ตซ์ก้า น.58), ทรานกีโย่ บาร์เน็ตต้า (อัตสึโตะ อูชิดะ น.80) - เอริค มักซิม ชูโป โมติง (เลรอย ซาเน่ น.29), คลาส ยาน ฮุนเตลาร์

ผู้ตัดสิน: ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »