"น้องเนส-สุนัฐชา" เน็ตไอดอลด้านความฉาว โกอินเตอร์เล่นหนังฮ่องกง ร่วมกับ "อาซา" แห่งวง ทวิน -Twin และ "เยิ่นต๊ะหัว" ตีแผ่ธุรกิจค้ากามเมืองไทย ขึ้นเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ของฮ่องกง เจ้าตัวเผยรับเล่นไว้ก่อนที่จะมีภาพโป้และคลิปหลุดสุดวาบหวิว

เป็นที่รู้จักในโลกอินเตอร์เน็ตและสังคมออนไลน์อย่างมาก สำหรับสาวน้อยนามว่า "น้องเนส” สุนัฐชา ทัดระเบียบ  โดยเมื่อไม่นานมานี้เธอเคยมีประเด็นภาพโป้และคลิปหลุดของเธอกับแฟนหนุ่มจน กลายเป็นที่ฮือฮาในทางที่อื้อฉาวอยู่หลายสัปดาห์ และก็ค่อยๆเงียบหายไป 

ล่าสุดเธอตกเป็นข่าวอีกครั้ง เพราะเธอได้มีโอกาสร่วมแสดงในภาพยนตร์ของฮ่องกงเรื่อง"Sara”ผลงานของผู้ กำกับ "ชิวลี่เทา" ที่มี อาซา แห่งวง Twin และ เยิ่นต๊ะหัว นำแสดง สามารถทำรายได้ถึง 6.27 ล้านเหรียญฮ่องกง (26 ล้านบาท) จากการฉาย 4 วันแรกใน 41 โรงภาพยนตร์ที่ฮ่องกง จนขึ้นเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ประจำสัปดาห์สามารถเอาชนะทั้งหนังจีนแผ่นดินใหญ่ และหนังฮอลลีวูด

นอกจากนั้น Sara ยังได้ชื่อว่าเป็นหนังภาษาจีนนอกเทศกาลตรุษจีนที่เปิดตัวได้ดีที่สุดในปี 2015 ด้วย 

สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Sara เป็นหนังที่เล่าถึงชีวิตของนักข่าวสาวชาวฮ่องกง ที่เดินทางเข้ามาในเมืองไทยเพื่อฆ่าตัวตาย แต่แล้วเธอกลับได้พบกับโสเภณีวัยรุ่นคนหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ และสัญญากับตัวเองว่าจะพยายามช่วยเหลือหญิงสาวคนนี้ให้ได้ แต่แล้วเมื่อนักข่าวสาวพยายามจะช่วยเหลือเด็กสาวชาวไทย ให้หลุดพ้นวงการค้ากาม กลับเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ความทรงจำบางอย่างในอดีต กลับมาหลอกหลอนเธออีกครั้ง ซึ่งนอกจากนั้นเนื้อหาที่ว่าด้วยการตีแผ่ธุรกิจค้ากามในเมืองไทยในหลายๆ แง่มุมสะท้อนสังคมแล้ว หนังเรื่องนี้ยังได้รับความสนใจจากชาวฮ่องกง จากบทบาทการแสดงของ อาซา ที่ขอเล่นบทแรงๆ มีเลิฟซีนสุดดุเดือดในหนังเรื่องนี้ ซึ่งกระแสตอบรับของผู้ชมก็เป็นไปในแง่บวก

รวมถึงกรณี "น้องเนส" สุนัฐชา ทัดระเบียบ คนดังแห่งโลกออนไลน์ ที่เคยมีประเด็นคลิปหลุดจนกลายเป็นที่ฮือฮา ซึ่งได้ร่วมรับบทสำคัญในหนังเรื่องนี้ด้วย  จนเกิดเสียงวิจารณ์ในทำนองที่ว่าฉาวจนได้ดีหรือไม่  

 ซึ่งประเด็นนี้น้องเนสได้เปิดใจว่าเธอรับงานแสดงหนังเรื่องนี้เอาไว้นาน แล้ว ก่อนที่จะเกิดเรื่องอื้อฉาวในเมืองไทยซะอีก  และการเข้าไปมีส่วนร่วมแสดงก็เป็นไปตามขั้นตอนปกติไม่ได้มีอะไรซับซ้อนแต่ อย่างใด  อีกทั้งบทบาทที่เธอได้รับก็ไม่ได้มีอะไรวาบหวิวมากนัก มีเพียงฉากเปลือยหลังฉากเดียวเท่านั้น  แตกต่างกับภาพหลุดในโลกโซเชียลอย่างสิ้นเชิง