ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2)

วันอังคารที่ 17 มีนาคม 2558

โมนาโก (ฝรั่งเศส) - อาร์เซน่อล (อังกฤษ)

(ผลนัดแรก โมนาโกชนะ 3-1)

ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1, ทรูสปอร์ต HD2, Astro2 (เวลา 02.45 น.)

สนาม : สต๊าด หลุยส์ II (โมนาโก, ฝรั่งเศส)

        อาแอส โมนาโก รองแชมป์ลีก เอิง ฝรั่งเศสประจำปี 2014 จะเปิดสต๊าด หลุยส์ II ทางตอนใต้ ของฝรั่งเศส ปะทะ อาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 หลังจากผลงานนัดแรก โมนาโก บุกไปต้อน ปืนใหญ่ 3-1 เมื่อคืนวันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์

        ในนัดชนะ อาร์เซน่อล ทางด้าน โมนาโก ได้ประตูแรกในจังหวะที่ ชอฟเฟร่ กอนด็อกเบีย ซัลโวเท้าซ้ายระยะไกล 30 หลา บอลแฉลบ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ กัปตันทีมอาร์เซน่อล สกัดบอลเข้าประตูตัวเองนาที 38 และอีกสองประตูได้จาก ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิงบัลแกเรียวัย 34 ปี ในนาที 53, ยันนิก แฟร์เรร่า การ์ราสโก้ มิดฟิลด์ตัวรุกเบลเยียมวัย 21 ปี ซัดปิดท้ายนาที 90+4

        สำหรับ โมนาโก ผ่านเข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยอัตโนมัติ ในฐานะรองแชมป์ลีก เอิง นับเป็นการกลับมาแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรปในรอบ 8 ปีเลยทีเดียว และผลงานรอบแบ่งกลุ่ม ทีมคว้าแชมป์กลุ่มซี. จนผ่านเข้ามาเจอ อาร์เซน่อล รองแชมป์กลุ่มดี.

        เลโอนาร์โด้ ชาร์ดิม เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสของโมนาโกวัย 40 ปี นำทีมชนะ 2 นัดซ้อน และสโมสรเสียเพียง 2 ประตูใน 13 เกมหลังสุด โดยฟอร์มการเล่นล่าสุดทีมเปิดบ้านต้อน บาสเตีย 3-0 ในลีก เอิง นัดที่ 29 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 13 มีนาคม

        เวลานี้ โมนาโก รั้งอันดับ 4 ลีก เอิง เก็บไปแล้ว 50 คะแนน จากการลงสนาม 28 นัด ตามหลัง โอลิมปิก ลียง จ่าฝูง 8 คะแนน แต่ ลียง เตะมากกว่า 1 นัด เรียกได้ว่า ทีมจากย่านแพร็งซิโปเต้ มีลุ้นแชมป์ลีก เอิง เช่นเดียวกับ ลียง, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แชมป์เก่า, โอลิมปิก มาร์กเซย

        ขณะเดียวกัน โมนาโก เสียไปเพียง 20 ประตู จากการลงสนาม 28 นัด และทีมเสียไปแค่ 2 ประตู จากการลงสนาม 7 นัด ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกฤดูกาลนี้

        สภาพทีมล่าสุด ชาร์ดิม ได้ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เซนเตอร์แบ็กโปรตุเกสวัย 36 ปี หายเจ็บน่องขวา, อันเดรีย ร้าจจี้ กองหลังอิตาลีหายเจ็บเอ็นหัวเข่าซ้าย กลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว และ วัลเลซ เซนเตอร์แบ็กบราซิลวัย 20 ปี กลับสู่กลุ่ม หลังจากติดโทษแบนในลีก เอิง

        แต่ทีมยังขาดผู้เล่นอย่าง ติเอมูเอ้ บากาโยโก้ มิดฟิลด์ตัวรับบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้าย และ ยันนิก แฟร์เรร่า การ์ราสโก้ บาดเจ็บข้อเท้าซ้าย

        ในรายของ ลาซิน่า ตราโอเร่ ดาวยิงวัย 24 ปี เจ้าของความสูง 2.03 เมตร หนึ่งในขุนพลทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ชุดแชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2015 บาดเจ็บหน้าแข้งขวาหัก เข้ารับการผ่าตัดไปแล้ว ทำให้เขาจะพักแข้งนาน 6-8 สัปดาห์

        ชาร์ดิม จะจัดทีมลงเล่นระบบ 4-2-3-1 ดานิเยล ซูบาซิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย เฝ้าเสา อันเดรีย ร้าจจี้ กลับมาเล่นแบ็กขวา อัลมามี่ ตูเร่ กองหลังวัย 18 ปี จะยืนเซนเตอร์แบ็กคู่กับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ โดยมี เลย์แว็ง คูร์กซาว่า เล่นแบ็กซ้าย ฟาบินโญ่ ปราการหลังบราซิลวัย 21 ปี เล่นมิดฟิลด์ตัวรับเคียงข้าง เฌเรมี่ ตูลาล็อง กัปตันทีม

        เกมรุกจากขวาไปซ้ายนำโดย นาบิล ดีราร์ มิดฟิลด์โมร็อกโกวัย 29 ปี, ชูเอา มูตินโญ่ สตาร์ทีมชาติโปรตุเกสวัย 28 ปี, อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล และ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ เป็นกองหน้าตัวเป้า

        อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ฟอร์มร้อนต่อเนื่องหลังฟาดชัย 4 นัดรวดรวมทุกรายการ ล่าสุด เปิดบ้านกำชัยเหนือ เวสต์แฮม ไปแบบไม่ยากเย็น 3-0 แต่เจองานหนักในการไปเยือน โมนาโก หลังแพ้คาบ้านนัดแรก 1-3

        สภาพทีมล่าสุด อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า), แจ็ค วิลเชียร์ (ข้อเท้า), อาบู ดิยาบี้ (น่อง) และ มาติเยอ เดอบูชี่ (ไหล่) ยังต้องพักรักษาตัวต่อไป

        สำหรับ มิเกล อาร์เตต้า (ข้อเท้า) กลับมาซ้อมเต็มรูปแบบแล้ว แต่คงต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการเรียกความฟิต

        ส่วน กาเบรียล เปาลิสต้า (เอ็นหลังหัวเข่า) สภาพร่างกายยังไม่สมบูรณ์เหมือนเดิม

        ดาวิด ออสปิน่า รับหน้าที่ผู้รักษาประตูตามปกติ แบ็กขวาสลับมาใช้งาน เอ็คตอร์ เบเยริน แต่คู่ปราการหลังยังเป็น แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ กับ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ แดนกลางเป็น ฟร็องซิส โกเกอแล็ง ประสานงานกับ อารอน แรมซี่ย์

        แผงรุกเป็น 3 ประสาน อเล็กซิส ซานเชซ, เมซุต โอซิล และ ซานติ กาซอร์ล่า ที่กลับมาเป็นตัวจริงโดยยึดตำแหน่งของ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่ทำผลงานน่าผิดหวังในเกมล่าสุด ส่วนหอกเป้าเป็น โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เจ้าของผลงาน 3 ประตูจาก 3 เกมล่าสุดที่ลงเป็นตัวจริง

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        โมนาโก : ดานิเยล ซูบาซิช - อันเดรีย ร้าจจี้, อัลมามี่ ตูเร่, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, เลย์แว็ง คูร์กซาว่า - เฌเรมี่ ตูลาล็อง (กัปตันทีม), ฟาบินโญ่ - นาบิล ดีราร์, ชูเอา มูตินโญ่, อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล - ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ

        อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : ดาวิด ออสปิน่า - เอคตอร์ เบเยริน, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, นาโช่ มอนเรอัล - อารอน แรมซี่ย์, ฟร็องซิส โกเกอแล็ง - ซานติ กาซอร์ล่า, เมซุต โอซิล, อเล็กซิส ซานเชซ - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

        ผู้ตัดสิน : สเวน อ็อดด์วาร์ โมเอน (นอร์เวย์)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- โมนาโก เก็บชัย 3 นัดรวดในแชมเปี้ยนส์ ลีก และเหลืออีก 1 เกมเพื่อทาบสถิติสโมสร (4 นัดติดต่อกันระหว่างตุลาคม-พฤศจิกายน 1997)
- โมนาโก ชนะถึง 75 เปอร์เซ็นต์จากเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ในบ้าน (18 จาก 24) มีเพียง เรอัล มาดริด ที่ทำค่าเฉลี่ยดีกว่า (76 เปอร์เซ็นต์ หรือ 77 จาก 101)
- โมนาโก ไม่เสียแม้แต่ประตูเดียวจากการเล่นเกมเหย้าชปล.ทั้ง 3 นัดในซีซั่นนี้
- อาร์เซน่อล ไร้พ่าย 11 นัดซ้อนในเกมยุโรปที่ไปเยือนฝรั่งเศส (ชนะ 7 เสมอ 4) กระนั้นพวกเขาไม่เคยชนะด้วยผลต่างเกินกว่า 1 ประตู
- ปืนใหญ่ ไม่เสียประตูเพียง 3 จากเกมเยือนแชมเปี้ยนส์ ลีก 31 นัดหลัง
- อาร์เซน่อล คือ 1 ใน 2 ทีมร่วมกับ เรอัล มาดริด ที่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ทุกครั้งนับตั้งแต่เปลี่ยนระบบแข่งขันในซีซั่น 2003/04 ทว่าในทางกลับกัน อาร์เซน่อล ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายมา 4 ปีติดต่อกันแล้ว
- เดอะ กันเนอร์ส ผ่านคู่แข่งจากฝรั่งเศสได้ตลอดรอบน็อกเอาต์ทั้ง 5 ครั้งในอดีต
- โมนาโก ตีตั๋วน็อกเอาต์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 2004/05 ที่ทีมจอดป้ายด้วยน้ำมือพีเอสวี ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
- โมนาโก มีประสบการณ์ที่ดีกับทีมอังกฤษ ผ่านเข้ารอบได้ตลอด 3 หนที่ผ่านมา ทั้งกับนิวคาสเซิ่ล ในยูฟ่า คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย 1996/97, แมนฯ ยูไนเต็ด ในชปล.รอบ 8 ทีมสุดท้าย 1997/98 และเชลซี ในเกมตัดเชือกชปล. 2003/04
- โมนาโก คือทีมล่าสุดจากแดนน้ำหอมที่ไปไกลถึงนัดชิงชนะเลิศ เมื่อปี 2004 ก่อนพ่ายปอร์โต้ 0-3
- โมนาโก เสียไปแค่ 2 ประตูจาก 7 เกมชปล.ฤดูกาลนี้ เป็นผลงานเกมรับที่ดีกว่าทุกทีม
- โมนาโก ยิงได้ 3 ประตูในเลกแรกกับอาร์เซน่อล ทั้งๆ ที่ 6 เกมก่อนในรายการนี้สอยตาข่ายแค่ 4 โดยทั้ง 7 ประตูที่ทีมทำได้นั้น มีถึง 6 ที่เกิดขึ้นในครึ่งแรก
- ขณะเดียวกัน โมนาโก ยังได้ 7 ประตูในชปล.ซีซั่นนี้ จากนักเตะไม่ซ้ำหน้ากันเลย
- โมนาโก มีค่าเฉลี่ยครองบอลต่ำที่สุด (43.7 เปอร์เซ็นต์) ในกลุ่มทีมเข้ารอบน็อกเอาต์ซีซั่นนี้
- อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่เคยคุมทีมชนะในการเผชิญหน้าโมนาโกทั้ง 7 เกมที่ผ่านมา (เสมอ 4 แพ้ 3)