เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานกองหลัง ลิเวอร์พูล ออกโรงจวก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกรุ่นน้องในทีม "หงส์แดง" ว่าพูดแบบไร้เดียงสาหลายจุด เรื่องที่ยังไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัด เชื่อไม่มีที่ไหนเหมาะกับเขาเท่า แอนฟิลด์ แต่กลับร่วมมือกับเอเยนต์ ใช้สื่อกดดันสโมสรจนภาพลักษณ์เสียหาย

ดาวเตะวัย 20 ปี ปฏิเสธข้อเสนอของ ลิเวอร์พูล ที่ยอมให้ค่าเหนื่อยถึงสัปดาห์ละ 100,000 ปอนด์ (ราว 4.7 ล้านบาท) โดยมีข่าวลือว่าเขาอยากได้ถึงสัปดาห์ละ 150,000 ปอนด์ (ราว 7.1 ล้านบาท) ซึ่งทำให้ "คาร์ร่า" ออกมาร่ายยาวผ่านทางคอลัมน์ของเขา ในหนังสือพิมพ์ "เดลี่เมล์" ถึงเรื่องที่ไม่ควรพูดอย่างยิ่ง 4 ข้อ ไล่ตั้งแต่การยอมรับกับ "บีบีซี" ว่าหวังให้ "หงส์แดง" เพิ่มค่าเหนื่อยให้เขาจาก 35,000 ปอนด์ (ราว 1.6 ล้านบาท) ตอนช่วงจบฤดูกาลก่อนแล้ว แต่กลับไม่มีข้อเสนอใดๆทั้งสิ้น

ประเด็นนี้ "คาร์ร่า" ยกคำให้สัมภาษณ์ของ สเตอร์ลิ่ง ในวันนั้นว่า "มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน ถ้าเป็นช่วงนี้เมื่อปีกลาย ผมคงเซ็นไปแล้ว" พร้อมให้ทัศนะต่อว่า "อย่างนั้นคงเป็นความผิดของ ลิเวอร์พูล ที่ยื่นข้อเสนอให้ผิดเวลา แต่ผมว่ามันไร้สาระ ช่วงท้ายฤดูกาลก่อน สเตอร์ลิ่ง กับ ลิเวอร์พูล ฟอร์มร้อนแรงมาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (กุนซือ "หงส์แดง") ยกให้เขาเป็นดาวรุ่งที่ดีสุดในยุโรป แต่ตอนนั้นสัญญาของเจ้าตัวยังเหลืออีก 3 ปี จึงมีโอกาสน้อยมากที่สโมสรจะนึกถึง แถมเป็นเรื่องเพิ่มค่าจ้างแบบมหาศาลให้นักเตะอายุน้อยอย่างเขา"
 
  "คุณคงไม่ได้ค่าตอบแทนเพิ่มโดยทันที หลังโชว์ฟอร์มดีเพียงไม่กี่เดือน และยังมีสัญญาระยะยาวกับสโมสร การพูดถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับเรื่องคว้าแชมป์ เหมือนบอกเป็นนัยๆว่า ลิเวอร์พูล คงมีโอกาสทำได้ยาก เขาเองมีลุ้นแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ปีนี้ก็ยังเหลือถ้วย เอฟเอ คัพ นั่นเป็นงานของคุณในฐานะนักเตะ ลิเวอร์พูล ต้องตั้งเป้าหมายไว้ให้สูง และพยายามทำให้มันเป็นจริง ถ้าคุณไม่สามารถทำแบบนั้น ทำไมถึงควรจะได้ค่าจ้างเพิ่ม ถ้าสามารถคว้าแชมป์ และประสบความสำเร็จ เวลานั้นเขาจะได้รับเงินตามที่ต้องการ"

ประเด็นต่อมา คือ สเตอร์ลิ่ง พูดว่า "เป็นปลื้มที่ได้รับความสนใจจาก อาร์เซน่อล และความฝันของทุกคนคือเล่นในประเทศแสงแดดอบอุ่น" คาร์ราเกอร์ โต้กลับว่า "สเตอร์ลิ่ง ไร้เดียงสามากที่พูดแบบนั้นก่อนเกมสำคัญ (ลิเวอร์พูล ไปเยือน อาร์เซน่อล วันเสาร์ที่ 4 เม.ย.) ไร้เดียงสาไม่ต่างจากที่ปรึกษาของเขา ถ้าคิดว่า "ปืนใหญ่" จะรับประกันตำแหน่งตัวจริงให้ทุกสัปดาห์ ลิเวอร์พูล คือทีมที่ดีสุดสำหรับเขา ลืมเรื่องเงินไปก่อน มันเกี่ยวกับฟุตบอล และการพัฒนาฝีเท้า เขาสามารถเป็นตัวจริงอีกนานใน แอนฟิลด์ แต่จะไม่ได้สิทธิ์แบบนี้กับ อาร์เซน่อล"

 "เขาคงไม่ได้ถูกมองว่าเป็นกองหน้าตัวเป้าที่เหนือกว่า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กับ อเล็กซิส ซานเชซ การเป็นจอมทัพตรงกลาง ก็ยังยาก เพราะเขาไม่เหมือน เมซุต โอซิล หรือ ซานติ การ์ซอล่า ถ้าไปยืนทางกราบขวา ต้องสู้กับ แดนนี่ เวลเบ็ค และ ธีโอ วัลค็อตต์ การไปอยู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเป็นแค่ตัวเลือกอีก เพราะพวกเขาเล่นระบบ 4-4-2 ในยุค มานูเอล เปเยกรินี่ ซึ่งทำให้ต้องแย่งตำแหน่งกับ เฆซุส นาบาส และ ซามีร์ นาสรี ทางกราบขวา การพูดถึง บาเยิร์น มิวนิค กับ เรอัล มาดริด ตอนนี้เขายังไม่ใกล้เคียงมาตรฐานของทั้งสองทีมด้วยซ้ำ"
 
ขณะเรื่อง สเตอร์ลิ่ง บอก "พยายามจะลบข่าวลือทั้งหมด และเปลี่ยนวิธีการรับรู้ข่าวสาร" ทำให้ "คาร์ร่า" ต้องยกตัวอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เพื่อนร่วมทีม "หงส์แดง" โดยชี้ว่า "ถึงมีปัญหาคล้ายกัน แต่สถานการณ์ของเขากับ สเตอร์ลิ่ง ต่างกันมาก ฤดูกาลนี้ เฮนเดอร์สัน โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้ง แม้จะหมดสัญญาอีก 12 เดือนข้างหน้า และช่วงยังมีการเจรจาอย่างต่อเนื่อง ก็แทบจะไม่ได้ยินใครเรียกว่าเป็นพวกกอบโกย เพราะเขา และตัวแทน ไม่เคยใช้สื่อช่วยเพิ่มโอกาสย้ายทีม หรือสร้างแรงกดดันต่อ ลิเวอร์พูล ในเรื่องสัญญา"
 
"ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผม คือ สเตอร์ลิ่ง และตัวแทนของเขา นักเตะอายุแค่ 20 ปี กับตัวแทน ทำให้ภาพลักษณ์ ลิเวอร์พูล เสียหายในวงกว้าง ผมไม่มีปัญหา ถ้าผู้เล่นอยากมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่ สเตอร์ลิง ทำนั้น มันยิ่งกว่าเรื่องตลก มันคงดีกว่าถ้าให้สัมภาษณ์กับ "บีบีซี" ว่ากำลังจะเซ็นสัญญาฉบับใหม่ แต่สิ่งที่เห็นคือการสร้างปัญหาใหญ่อยู่เสมอ พวกเขายกเลิกการเจรจากับสโมสร แต่ออกไปพูดกับสื่อ หากคุณไม่ต้องการให้คนพูดเรื่องนี้ ก็ไม่ควรพูดออกมาด้วยตัวคุณเองแบบที่เป็นอยู่"
 
ส่วนเรื่อง สเตอร์ลิ่ง อ้างว่า "พยายามทำให้ดีที่สุดในฐานะวิงแบ๊ก แม้ไม่ใช่ตำแหน่งถนัดมากที่สุด" คาร์ราเกอร์ อธิบายว่า "ถ้าเป็นดาวรุ่ง เรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ การถูกโยกไปเล่นตำแหน่งอื่น จะช่วยให้เข้าใจเกม และได้ประสบการณ์มากขึ้น ครึ่งหนึ่งในชีวิตค้าแข้งของผม ก็เล่นตำแหน่งที่ไม่ถนัด มีกี่ตำแหน่งแล้วที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ต้องโดนจับไปเล่น ตลอดอาชีพของเขา ความจริง สเตอร์ลิ่ง เล่นดีหลายตำแหน่ง คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าเขาไม่เหมาะกับการเป็นศูนย์หน้า ร็อดเจอร์ส ก็พยายามห้ความรู้ และปรับปรุงเขา น่าเสียดายถ้าไม่เห็นค่าในเรื่องนี้"

"สเตอร์ลิ่ง มีความสามารถมาก และไม่ใช่คนแรกที่ทำแบบนี้ เมื่อ 10 ปีก่อน ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ เคยเป็นเหมือนกัน เขาย้ายออกจาก แมนฯ ซิตี้ ไปอยู่ เชลซี หลังโด่งดังกับทีมชาติอังกฤษ แต่เอาตัวไม่รอดใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ และโยกกลับรังเก่าในเวลาแค่ 2 ปี ล่าสุดเป็นแค่ตัวสำรองใน ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ครั้งหนึ่ง ร็อดเจอร์ส เคยพูดกับผม เรื่องตอนเขาอยู่ เชลซี ว่าดาวรุ่งหลายคนต้องอับแสง เพราะได้เงินเยอะเกินตัว ค่าจ้างแพงทำให้ความมุ่งมั่นลดลง ลิเวอร์พูล ไม่อยากให้ สเตอร์ลิ่ง สูญเสียความพยายาม นั่นคือสาเหตุว่าค่าเหนื่อยถึงควรเป็นแรงจูงใจมากกว่า"
 
"แฟนบอล "หงส์แดง" บางคนที่คิดแบบเด็กๆ พูดว่าจ่ายให้เขาตามต้องการ หรือจะให้ไปอยู่กับทีมอื่น มันแสดงให้ถึงการขาดเป้าหมาย ผมกลัวว่า ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ซึ่งเล่นดีไม่แพ้ สเตอร์ลิ่ง จะรู้สึกอย่างไรถ้าได้ค่าจ้างน้อยกว่าเกือบครึ่ง หากยอมให้ สเตอร์ลิ่ง แล้วสถานการณ์เป็นแบบนี้ในอีก 2 ปีข้างหน้า แล้วเขาขอค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 250,000 ปอนด์ (ราว 11.8 ล้านบาท) จะเกิดอะไรขึ้น ลิเวอร์พูล กับ ร็อดเจอร์ส คือสิ่งที่ สเตอร์ลิ่ง ต้องการในช่วงนี้ของอาชีพ เขาควรยอมรับเรื่องนี้ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเดียวที่อยากแนะนำให้ทำในช่วงซัมเมอร์ แต่ไม่ใช่เรื่องทีมที่สังกัดแน่"