พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รรท.ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เผยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายกรณีแฟนบอลSCGเมืองทองฯไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจชักปืนยิงขู่ขึ้นฟ้าหลังจบเกมโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แจงเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าห้ามปราบจนบานปลายเนื่องจากหวังเข้าไปห้ามปรามกลุ่มแฟนบอลไม่ให้มีการจุดพลุเพราะเป็นข้อบังคับของทีพีแอลแม้ว่าการจุดดังกล่าวจะเกิดขึ้นหลังจบเกมก็ตามที

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่กลุ่มแฟนบอล "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจของจังหวัดสุพรรณบุรีที่ชักปืนยิงขู่ขึ้นฟ้าหลังจบเกมโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และได้รวมตัวประท้วงอยู่ที่หน้าที่สนามกีฬากลาง จ.สุพรรณบุรี เพื่อหวังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวออกมาขอโทษ ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าห้ามปราบจนบานปลายด้วยการทำร้ายร่างกายนั้น เนื่องจากเป็นเพราะหวังเข้าไปห้ามปรามกลุ่มแฟนบอลทีมเยือนไม่ให้มีการจุดพลุเพราะเป็นข้อบังคับของทีพีแอลแม้ว่าการจุดดังกล่าวจะเกิดขึ้นหลังจบเกมก็ตามที
 
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รรท.ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอดช่วงคืนวันเสาร์ที่ผ่านมว่า "เรามีกล้องวงจรปิดกว่า 23 ตัวที่กำลังไล่เรียงลำดับภาพที่เกิดขึ้น ผมเข้าใจในอารมณ์ของแฟนบอลที่โมโห แต่ก็ต้องย้อนกลับมาดูว่าเพราะเหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงชักปืนยิงขึ้นฟ้า ผมได้รับคำชี้แจงจากทุกฝ่ายว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีแฟนบอลเอสซีจี เมืองทอง เดินลงมาจากอัฒจันทร์แล้วมีการจุดพลุที่ลานจอดรถด้านนอก แม้จะเป็นพื้นที่นอกสนามแล้วก็ตาม แต่ระเบียบของบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกก็บังคับว่าไม่ให้มีการจุดพลุเพราะถือว่าผิดกฏ ทีแรกการ์ดเข้าไปห้าม แต่ก็มีการโต้เถียงเกิดขึ้น จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ แต่กลุ่มแฟนบอลก็ยังไม่ยอมหยุด กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจหวังที่จะจับกุมตัวผู้จุดประทัดเพื่อนำตัวส่งให้ผู้ควบคุมการแข่งขันได้รับทราบ"
 
"แต่ในระหว่างที่เดินผ่านรถบัสของแฟนบอลทีมเยือนก็ได้พบกับกลุ่มแฟนบอลที่เป็นพรรคพวกกันเอง และได้มีการกระโดดถีบใส่ตำรวจเพื่อชิงตัวเพื่อนกลับมา มีการแย่งชิงโทรศัพท์ของตำรวจที่หล่นพื้น และเป็นที่มาที่ทำให้ตำรวจต้องยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า และตำรวจคนดังกล่าวก็บาดเจ็บและเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี ซึ่งทำไมจุดนี้ไม่เห็นมีใครพูดถึงบ้าง"
 
"ผมยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และช่วงตลอดคืนวันเสาร์ผมก็เข้าใจในอารมณ์ของแฟนบอล จึงได้มีการตั้งโต๊ะเป็นกองอำนวยการและนำร้อยเวรอีก 6 รายดำเนินการสอบพยานเพื่อรับแจ้งความจากแฟนบอล กว่าที่จะเลิกและแยกย้ายก็ปาเข้าไปตี 3 กว่าๆ ซึ่งผมยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเรื่องใด ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการกฏหมายให้แล้วเสร็จถึงจะมีการสรุปอีกครั้ง"