ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » หงส์ส่งคูตินโญ่ป่วนซัด,สิงห์จัดเต็มแม้แชมป์แล้ว

หงส์ส่งคูตินโญ่ป่วนซัด,สิงห์จัดเต็มแม้แชมป์แล้ว

Posted 10/05/2015 by siamsport

 
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมส่ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงหนุนปิดสกอร์ เกมบุกถิ่น "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่แม้จะคว้าแชมป์ลีกเป็นที่แน่นอนแล้วแต่ยังคงจัดผู้เล่นตัวหลักลงครบครัน ขณะที่อีกคู่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมเปิดบ้านรับ "คิวพีอาร์" ควีนส์ปาร์ค ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 10 พ.ค. ศกนี้

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม 2558

เชลซี  -  ลิเวอร์พูล

ถ่ายทอดสด ช่อง :
ช่อง 3, ซีทีเอช สเตเดี้ยม 4, เวลา : 22.00 น.


สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

        เชลซี ของ โชเซ่ มูรินโญ่ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ล่วงหน้าด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 ทำแต้มทิ้งขาด แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล เรียบร้อยแล้ว

        ความพร้อมล่าสุด ดีเอโก้ คอสต้า (เอ็นหลังหัวเข่า) พร้อมเป็นตัวเลือกแล้ว โดยต้องรอดูว่า มูรินโญ่ จะให้เจ้าตัวคืนสนามเลยหรือรอให้ฟิตเต็มถังก่อน

        ส่วน 2 แข้งแซมบ้าที่ไม่มีส่วนร่วมในเกมล่าสุดอย่าง รามิเรส (ไต) ที่ป่วยก่อนเกมจนต้องเข้าไปเช็คอาการที่โรงพยาบาล และ ออสการ์ ที่เจ็บต้นขา ไม่พร้อมเป็นตัวเลือกในสุดสัปดาห์นี้เหมือนเดิม

        ติโบต์ กูร์กตัวส์ เฝ้าเสาตามปกติ คู่ปราการหลังวางใจ จอห์น เทอร์รี่ กับ แกรี่ เคฮิลล์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช แดนกลางฝากไว้กับ เนมันย่า มาติช และ เชส ฟาเบรกาส แนวรุกนำโดย เอแด็น อาซาร์ ปั้นเกมรุกป้อน ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา

        ลิเวอร์พูล ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กลับมาสู่เส้นทางไล่ล่าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนสื ลีก อีกครั้งหลังเปิดบ้านเชือด ควีนส์ปาร์ค 2-1 ไล่หลัง แมนฯ ยูไนเต็ด อันดับ 4 เหลือเพียง 4 แต้ม

        สภาพทีมล่าสุด แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (สะโพก) เข้ารับการผ่าตัดที่ ประเทศสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว โดยเชื่อว่าจะใช้เวลาพักฟื้นและกลับมาลงสนามได้อีกครั้งในช่วงสตาร์ตของฤดู กาลหน้าในเดือน ก.ย. นี้

        สำหรับ มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่มีอาการบาดเจ็บจนชวดเกมล่าสุด ทั้งที่เป็นตัวจริง 2 นัดก่อนหน้านั้น ลุ้นกลับมาเป็นตัวเลือกหลังกลับมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมแล้ว

        ขณะที่ มามาดู ซาโก้ (เอ็นหลังหัวเข่า) ไม่พร้อมคืนสนามเหมือนเดิม ส่วน จอน ฟลานาแกน (เข่า) พักยาวอีกอย่างน้อย 6 เดือน

        ซิมง มิโญเล่ต์ ประจำการด่านสุดท้าย มาร์ติน สเคอร์เทล ดูแลหลังบ้านร่วมกับ เดยัน ลอฟเรน แดนกลางเป็นการผนึกกำลังระหว่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ โดย ราฮีม สเตอร์ลิง กับ อดัม ลัลลาน่า ร่วมกันสร้างสรรค์เกมรุกป้อน ริคกี้ แลมเบิร์ต


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เชลซี (4-2-3-1) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า - เชส ฟาเบรกาส, เนมันย่า มาติช - ฮวน กวาดราโด้, วิลเลี่ยน, เอแด็น อาซาร์ - ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

        ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเลต์ - เอ็มเร่ ชาน, มาร์ติน สเคอร์เทล, เดยัน ลอฟเรน, เกล็น จอห์นสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ - ราฮีม สเตอร์ลิง, ริคกี้ แลมเบิร์ต, อดัม ลัลลาน่า

        ผู้ตัดสิน : อันเดร มาร์ริเนอร์

ผลงานการพบกันที่บ้านเชลซี
เชลซีชนะ 44 ลิเวอร์พูลชนะ 21 เสมอ 19
ประตูที่ทำได้ : เชลซี 144 ลูก ลิเวอร์พูล 88 ลูก


- โชเซ่ มูรินโญ่ เก็บชัยไป 8 แพ้แค่ 1 จากเกมพรีเมียร์ลีก 10 นัดที่คุมเชลซีเจอลิเวอร์พูล กลับกันในช่วงรอยต่อกุนซือโปรตุกีสทั้ง 2 ช่วง (2007-13) หงส์แดงชนะถึง 6 แพ้เพียง 2 จาก 11 เกมลีกบู๊สิงห์บลูส์
- มูรินโญ่ คุมเชลซีลงเล่นเกมลีกในบ้านมาแล้ว 96 นัด แพ้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น (ชนะ 75 เสมอ 20 แพ้ 1)
- ลิเวอร์พูล ปราชัยหนเดียวเทานั้นจากเกมลีก 4 หนหลังที่บุกรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ (ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1)
- หงส์แดงไม่เสียประตูถึง 7 จากเกมเยือนพรีเมียร์ลีก 9 นัดล่าสุด
- เอแด็น อาซาร์ ปีกเชลซี สร้างสรรค์โอกาสจากจังหวะโอเพ่นเพลย์มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ (88) รวมถึงเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งมากที่สุดด้วย (160)
- เชส ฟาเบรกาส มิดฟิลด์สิงห์บลูส์ ทำแอสซิสต์มากกว่าผู้เล่นทุกคนในลีกท็อป 5 ยุโรปนับจากเริ่มซีซั่นที่แล้ว (30) โดยมากกว่าอันดับรองลงมาอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ อดีตเพื่อนร่วมทีมบาร์เซโลน่า อยู่ 1 ครั้ง
- จอห์น เทอร์รี่ คือนักเตะเชลซีคนเดียวที่ลงเล่นทุกนาทีในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (3,150)
- ซิมง มิโญเล่ต์ โกลลิเวอร์พูล เก็บคลีนชีตทั้งสิ้น 13 ครั้งในฤดูกาลนี้ มีเพียง เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ของเซาธ์แฮมป์ตัน ที่ทำได้เทียบเท่า
- เชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้นัดสุดท้ายของซีซั่น สโมสรจะทำสถิตินำจ่าฝูงยาวนานที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก (274 วัน)
- ลิเวอร์พูล ได้แค่ 4 แต้มจากเกมลีก 7 นัดที่เจอคู่แข่ง 4 อันดับแรกในลีกฤดูกาลนี้ (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 5)


ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (ที่บ้านเชลซี)
เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
29 ธันวาคม 2013  ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์
ผู้ทำประตู : 0-1 มาร์ติน สเคอร์เทล น.3, 1-1 เอแด็น อาซาร์ น.17, 2-1 ซามูเอล เอโต้ น.34 

 
แมนฯ ซิตี้ - ควีนส์ปาร์ค

ถ่ายทอดสด  ช่อง : ซีทีเอช สเตเดี้ยม 5, เวลา : 19.30 น.


สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

        แมนฯ ซิตี้ ของ มานูเอล เปเยกรินี่ เสียแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ให้ เชลซี เรียบร้อยแล้ว เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน แต่พวกเขากลับมาฟอร์มดีอีกครั้งหลังฟาดชัย 3 นัดรวด ล่าสุดบุกชนะ สเปอร์ส 1-0 เกาะรองจ่าฝูงโดยมี 70 แต้มเท่า อาร์เซน่อล แต่แข่งมากกว่า 1 นัด

        ความพร้อมล่าสุด ยาย่า ตูเร่ (เอ็นหลังหัวเข่า) และ แว็งซ็องต์ ก็องปานี (กล้ามเนื้อ) สลัดเดี้ยงพร้อมเป็นตัวเลือกอีกครั้งในวันอาทิตย์นี้

        อย่างไรก็ดี ซามีร์ นาสรี่ ที่ลงมาเป็นสำรองในเกมล่าสุด ดันเจ็บกล้ามเนื้อทั้งที่อยู่ในสนามเพียง 3 นาที ล่าสุดต้องหมดสิทธิ์ลงสนามในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้เรียบร้อยแล้ว

        โจ ฮาร์ท รับหน้าที่ผู้รักษาประตูตามปกติ คู่เซนเตอร์แบ็กยังวางใจ มาร์ติน เดมิเคลิส กับ เอเลียควิม ม็องกาล่า โดย แว็งซ็องต์ ก็องปานี เป็นสำรองไปก่อน เช่นเดียวกับ ยาย่า ตูเร่ ในแดนกลาง โดยให้ แฟร์นันโด กับ แฟร์นันดินโญ่ ประสานงานต่อเนื่อง แนวรุกอาจส่ง เฆซุส นาบาส แทน เจมส์ มิลเนอร์ หน้าเป้ายังเป็น เซร์คิโอ อเกวโร่ รับหน้าที่ตามปกติ

        ควีนส์ปาร์ค ของ คริส แรมซี่ย์ ต้องดิ้นรนอีกเฮือกใหญ่ในการเอาตัวรอดบนลีกสูงสุดหลังไม่ชนะมา 4 เกมติด ล่าสุดออกไปแพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 ทำให้ยังรั้งรองบ๊วยด้วยผลงาน 27 แต้มจาก 35 นัด

        สภาพทีมล่าสุด เนดุม โอนูโอฮา หมดสิทธิ์เล่นหลังติดโทษแบน 1 นัดหลังโดนไล่ออกในเกมล่าสุด

        นอกจากนี้ แรมซี่ย์ ต้องรอเช็คฟิตนักเตะอีกหลายคนทั้ง สตีเว่น คอลเกอร์ (มือ), คลิ้นท์ ฮิลล์ (เอ็นหลังหัวเข่า), เมาริซิโอ อิสล่า (เข่า) และ บ็อบบี้ ซาโมร่า (สะโพก)

        สำหรับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อาจได้รับอนุญาตให้อยู่กับครอบครัวหลังเพิ่งได้รับข่าวร้ายเมื่อ รเบ็คก้า เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเต้านมเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ เอดูอาร์โด้ วาร์กาส (เข่า) และ อเลฮานโดร ฟาอูร์ลิน (เข่า) พักรักษาตัวต่อไป

        โรเบิร์ต กรีน เฝ้าเสาตามปกติ แผงหลังปรับมาใช้ 3 ตัวนำโดย ริชาร์ด ดันน์ แดนกลางเป็น 3 ประสาน โจอี้ บาร์ตัน, ซานโดร และ คาร์ล เฮนรี่ โดย ลีรอย เฟอร์ ประจำการตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ข้างหลัง ชาร์ลี ออสติน


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, มาร์ติน เดมิเคลิส, เอเลียควิม ม็องกาล่า, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - แฟร์นันโด, แฟร์นันดินโญ่ - เฆซุส นาบาส, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ดาบิด ซิลบา - เซร์คิโอ อเกวโร่

        ควีนส์พาร์ค (3-5-1-1) : โรเบิร์ต กรีน - ริชาร์ด ดันน์, สตีเว่น คอลเกอร์, คลิ้นท์ ฮิลล์ - แม็ตต์ ฟิลลิปส์, โจอี้ บาร์ตัน, ซานโดร, คาร์ล เฮนรี่, ยุน ซุค-ยอง - ลีรอย เฟอร์ - ชาร์ลี ออสติน

        ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

 

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
ผลงานการพบกันที่บ้านแมนฯ ซิตี้
แมนฯ ซิตี้ชนะ 13 ควีนส์ปาร์คชนะ 3 เสมอ 7
ประตูที่ทำได้ : แมนฯ ซิตี้ 39 ลูก ควีนส์ปาร์ค 23 ลูก


- แมนฯ ซิตี้ แพ้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นจากเกมลีกในบ้าน 15 นัดหลัง (ชนะ 11 เสมอ 3 แพ้ 1)
- ทีมเรือใบยังครองสถิติไร้พ่าย 6 นัดหลังทุกรายการที่เจอควีนส์ปาร์ค (ชนะ 4 เสมอ 2) แต่กลับกันก็เสมอทั้ง 2 หนล่าสุดที่เป็นทีมเยือน
- เอดิน เชโก้ กองหน้าแมนฯ ซิตี้ ยิง 3 จ่าย 2 จาก 2 เกมลีกที่ลงตัวจริง และสำรองอีก 3 นัดพบกับคิวพีอาร์
- เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" หอกเรือใบอีกราย กดไป 3 จากเกมลีก 4 นัดที่เจอควีนส์ปาร์ค รวมถึงประตูไฮไลท์พาทีมคว้าแชมป์ในนัดสุดท้ายฤดูกาล 2011/12
- มีนายทวารพรีเมียร์ลีกแค่ 4 คน (เดวิด เจมส์ 13, โธมัส โซเรนเซ่น 12, แบรด ฟรีเดล 10, มาร์ค ชวาร์เซอร์ 10) ที่เซฟจุดโทษได้มากกว่า โรเบิร์ต กรีน โกลคิวพีอาร์ (9)
- อย่างไรก็ตาม กรีน กลับก่อความผิดพลาดนำไปสู่การเสียประตู (6) มากกว่านายทวารทุกคนในพรีเมียร์ลีกซีซั่น 2014/15
- ขณะที่นักเตะแมนฯ ซิตี้ รวมทั้งทีมทำพลาดจนเสียประตูแค่ 4 ครั้งตลอดฤดูกาลนี้
- เฆซุส นาบาส ปีกแมนฯ ซิตี้ หาโอกาสยิงทั้งสิ้น 42 ครั้งโดยไม่เป็นประตูเลยในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มากกว่าผู้เล่นทุกคน
- ผู้เล่นสำรองของแมนฯ ซิตี้ มีส่วนร่วมทำสกอร์ถึง 17 ลูก (ยิง 9 จ่าย 8) ในฤดูกาลนี้ มากกว่าทุกสโมสร
- นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2013/14 เป็นต้นมา ชาร์ลี ออสติน ยิงไป 36 ประตูในเกมลีกให้ควีนส์ปาร์ค (รวมเพลย์ออฟ) มากกว่าดาวยิงอันดับรองลงมาถึง 29 ลูก (บ็อบบี้ ซาโมร่า 7 ประตู)


ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (ที่บ้านแมนฯ ซิตี้)
ไม่ได้พบกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ลือหึ่ง!เป๊ปโอเคคุมเรือล่วงหน้าแล้ว
    บีอิน สปอร์ต สื่อกีฬาชื่อก้อง ตีข่าว โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ บาเยิร์น ตกลงล่วงหน้าที่จะไปคุม แมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาลหน้าแล้ว หลังจากสถานการณ์ของเขากับ "เสือใต้" ชักไม่แน่นอน
  • เปเยฯเชื่อเรือใบไล่จี้บาร์ซ่าได้ใน5ปี
    มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชื่อทีมสามารถลดช่องว่างจาก บาร์เซโลน่า ได้ภายใน 5 ปี หลัง "เรือใบสีฟ้า" ถูก "เจ้าบุญทุ่ม" สอนบอลตลอดหลายครั้งที่เจอกัน แต่ยอมรับพวกเขาจำเป็นต้องมีนักเตะอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ อยู่ในทีมเพื่อไปถึงระดับนั้น
  • คาร์รายกเมสซี่ยอดแข้งตลอดกาลระดับสโมสร
    เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตปราการหลัง ลิเวอร์พูล ยก ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ บาร์เซโลน่า เป็นนักเตะดีที่สุดตลอดกาลในระดับสโมสร หลังทำผลงานเหนือดุจเทวดามาตลอด 10 ปี ชี้ยอดแข้งอาร์เจนไตน์ไม่ได้เก่งแต่ในลา ลีกา เท่านั้น แต่ยังได้พิสูจน์ในเกมยุโรปแล้วว่าไม่มีใครเทียบได้ พร้อมชี้การเผชิญหน้ากับหัวหอกวัย 27 ปีถือเป็นงานหนักที่สุดของฟุตบอลในเวลานี้
  • ตัวแทนเจิด!หงส์ยื่น10ล.ยูโรขอซื้อโควาซิชแล้ว
    ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวยื่น 10 ล้านยูโร ขอซื้อ มาเตโอ โควาซิช กองกลางดาวรุ่ง อินเตอร์ มิลาน แล้ว โดยหวังได้มาเป็นตัวแทนระยะยาวของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่ "งูใหญ่" หวังได้เงินมากกว่านี้ ขณะที่ บาร์เซโลน่า ก็ให้ความสนใจด้วยเช่นกัน

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »