"หัวฟู" มารูอาน เฟลไลนี่ กองกลางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรแห่งศึกพรีเมียรืลีก อังกฤษ ฟอร์มเข้าฝัก ยิงสองประตู ช่วยให้ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" เบลเยียม บุกไปเอาชนะ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ถึงถิ่น 4-3 ในการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา 

ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ

วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2558

ฝรั่งเศส 3-4 เบลเยียม

สนาม : สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ (แซงต์-เดอนีส์, ฝรั่งเศส)

          เกมอุ่นเครื่องที่ สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ เจ้าถิ่น "เลส์ เบลอส์" ส่ง มาติเยอ วัลบูเอน่า, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และอ็องตวน กรีซมันน์ ล่าตาข่าย "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ที่นำทัพมามารูอาน เฟลไลนี่, เอแด็น อาซาร์ และคริสติย็อง เบนเตเก้

          เริ่มเกมมาแค่ทั้งสองทีมเดินหน้าเข้าใส่กันทันที และเป็น ฝรั่งเศส ที่มีโอกาสก่อนจากจังหวะที่ เบอนัวต์ เตรมูลินาส เติมเกมขึ้นมาทางด้านขวาก่อนปาดเข้ามาให้โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ วิ่งเข้าแปไม่ดีหลุดกรอบนิดเดียว

          เข้าสู่นาทีที่ 17 กลายเป็น "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ที่บุกมาออกนำจากจังหวะที่ รัดย่า นาอิงโกลัน ตั้งป้อมยิงจากหน้าเขตโทษบอลติดบล็อก แต่กระดอนมาเข้าทาง มารูอาน เฟลไลนี่ อัดด้วยซ้ายเต็มๆ ไม่เหลือเป็น 1-0 แม้ว่าจากภาพช้าจะเป็นจังหวะล้ำหน้าก็ตาม

          หลังเสียประตูเจ้าถิ่นพยายามเดินหน้าลุย แต่หาจังหวะเจาะไม่ได้เกือบมาโดนเพิ่ม  นาที 26 เมื่อ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ หลุดขึ้นมาทางขวาก่อนโยนเข้ากลางให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ ขึ้นโขกเต็มๆ แต่ติดเซฟ อูโก้ โยริส

          นาที 32 "ตราไก่" เพิ่งมามีโอกาสจังๆ จากจังหวะที่ มุสซา ซิสโซโก้ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวแหวกพาบอลมาจากกลางสนามก่อนลากเข้ามาส่องเองหน้าเขตโทษผ่านมือ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ แล้ว แต่หลุดเสาสอง

          กลายเป็น เบลเยียม มาได้ประตูที่สองนำห่างช่วงท้ายครึ่งแรกก่อนหมดเวลา 3 นาที เมื่อ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ เติมขึ้นมาโยนทางด้านขวา เฟลไลนี่ โถมโขกเต็มหัวเสียบเสาแรกเป็น 2-0 จบครึ่งแรก เบลเยียม บุกนำ 2-0

          กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังเจ้าถิ่นพยายามลุย และนาที 49 พวกเขาได้โอกาสทองเมื่อ ดิมิทรี ปาเยต ตัวสำรองหยอดให้ ชิรูด์ เกี่ยวบอลติดก่อนล็อกกลับมายิงด้วยขวา แต่ยังติดเซฟ ติโบลต์ กูร์กตัวส์

          เจ้าถิ่นลุยๆ กลายเป็นนาทีต่อมา เบลเยียม ออกมานำเมื่อ รัดย่า นาอิงก์โกลัน ไปแย่งบอลมาได้ก่อนเป็น เฟลไลนี่ จ่ายให้กองกลางจากโรม่าจะตะบันตูมเดียวเต็มเท้าพุ่งวาบเสียบเสาไกลสุดสวยเป็น 3-0

          นาที 53 เด็กๆ ของ ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ มีฮึดไล่มาเป็น 1-3 เมื่อมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ นิโกลัส ลอมบาร์ตส์ เหนี่ยว ชิรูด์ ล้มลงในเขตโทษ และเป็น มาติเยอวัลบูเอน่า รับหน้าที่สังหารไม่เหลือให้ทีมไล่มา

          ทว่าดีใจได้นาทีเดียวเจ้าบ้านมาโดนเพิ่มเมื่อมาเสียจุดโทษเช่นกันจากจังหวะที่ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ ทำฟาวล์ อั๊กเซล วิตเซล ในจังหวะหลุดเดี่ยว เอแด็น อาซาร์ รับหน้าที่สังหารส่งบอลเสียบตาข่ายเป็น 4-1

          เท่านั้นไม่พอนาที 62 เกือบโดนเป็นห้าเม็ดจากจังหวะที่ อาซาร์ โชว์ไขว้บอลเปิดมาหน้าประตู กอสซิแอลนี่ หาบอลไม่เจอมาตกตรงหน้า โรเมลู ลูกากู ที่ลงมาใหม่อัดด้วยขวาจังหวะเดียวชนคานสนั่น

          นาทีสุดท้าย นาบิล เฟคีร์ แข้ง "เลส์ เบลอส์" ซัดด้วยขวาเต็มข้อในเขตโทษ แสกหน้า ติโบลต์ กูร์กตัวส์ เข้าไป ตราไก่ไล่มาห่างๆ 2-4 พร้อมกับเป็นประตูแรกในนามทีมชาติของเจ้าตัวด้วย

          ถัดมาอีกหนึ่งนาที กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮอีกครั้ง เมื่อ "เลส์ เบลอส์" ไล่มาเป็น 3-4 จากจังหวะ มุสซ่า ซิสโซโก้ หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนหักเข้ากลางให้ดิมิทรี ปาเยต วิ่งมาแปด้วยขวา บอลแหวกแนวรับ ทีมเยือน เสียบเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบขาด พร้อมกับเป็นประตูแรกในนามทีมชาติอีกคนด้วย

          ช่วงเวลาที่เหลือ ตราไก่ บุกหนักหวังทวงประตูตีเสมอแต่ก็ทำไม่ได้จบเกม เบลเยียม ลั่นฟอร์มเฉียบ บุกไปเอาชนะ ฝรั่งเศส ได้ถึงถิ่น 4-3

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
          ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส - บาการี่ ซาญ่า, ราฟาแอล วาราน, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, เบอนัวต์ เตรมูลินาส - มุสซา ซิสโซโก้, โยอัน กาบาย (ดิมิทรี่ ปาเยต น.46), แบลส มาตุยดี้ - มาติเยอ วัลบูเอน่า (นาบิล เฟคีร์ น.73), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (ปอล-จอร์จส์ เอ็นเตป น.79), อ็องตวน กรีซมันน์ (อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ น.46)

          เบลเยียม : ติโบลต์ กูร์กตัวส์ - โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, นิโกลัส ลอมบาร์ตส์, เจสัน เดอนาเย่ร์ (ลีอันเดอร์ เดนดอนซ์เคอร์ น.85), ยาน แฟร์ตอนเก้น - รัดย่า นาอิงก์โกลัน, อาแซล วิตเซล (มุสซา เดมเบเล่ น.81), มารูอาน เฟลไลนี่ (นาเซอร์ ช้าดลี่ น.77)- เอแด็น อาซาร์, คริสติย็อง เบนเตเก้ (โรเมลู ลูกากู น.59), ดรีส์ เมอร์เท่นส์ (ยันนิก แฟร์เรร่า-การ์ราสโก้ น.60)

ผู้ตัดสิน : มาริโย สตราฮอนย่า (โครเอเชีย)