ช่วงนี้มีข่าวคราวการโยกย้ายทีมกันอย่างครึกโครม ถึงแม้จะมีกฏไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์ ออกมาควบคุม ไม่ให้การซื้อเกินตัวของหลายสโมสร แต่ก็ยังคงเกิดกระแสการปั่นค่าตัวกันอย่างสนุก ซึ่งจริงๆแล้วศักยภาพของบางคนก็ไม่ได้มีราคาสูงอย่างที่เป็นข่าวด้วยซ้ำ

 "เดลี่เมล์" หนังสือพิมพ์เล่มดังของอังกฤษ จึงทำสกู๊ปเตือนใจหลายสโมสร ว่าถึงค่าตัวแพง ก็ไม่สามารถรับประกันการทำผลงานได้ดี หรือสามารถเข้ามาช่วยทีมอย่างคุ้มค่า นี่คือ 10 นักเตะพรีเมียร์ลีกซึ่งถูกซื้อมาร่วมทัพเมื่อฤดูกาลก่อน และกาลเวลาพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นพวกที่แพงเกินจริง โดยพิจารณาจากค่าตัว ค่าเหนื่อย และผลงานที่ทำได้

ฮวน กวาดราโด้, เชลซี (ค่าตัว 26.8 ล้านปอนด์ จาก ฟิออเรนติน่า)
        ค่าจ้างที่ได้รับการเปิดเผย: 85,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์
        เชลซี ยอมให้ ฟิออเรนติน่า ยืมตัว โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ พร้อมจ่ายทันที 23.3 ล้านปอนด์ โดยเพิ่มเป็น 26.8 ล้านปอนด์ตามเงื่อนไข แต่ปีกทีมชาติ โคลอมเบีย ตอบแทนพวกเขา ด้วยการยิง 7 ครั้ง ไม่เป็นประตู และไม่มีการทำแอสซิสต์ให้ใครทำสกอร์ จากการเล่น 12 นัด เป็นตัวจริง 4 หน

        เรมี่ กาแบลล่า, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (ค่าตัว 12 ล้านปอนด์ จาก มงต์เปลลิเย่ร์)
        ค่าจ้างที่ได้รับการเปิดเผย: 60,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์
        สำหรับ นิวคาสเซิ่ล 12 ล้านปอนด์ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่ และยิ่งดูแพงมากขึ้นเมื่อนำไปซื้อจอมทัพที่สามารถทำได้แค่ 1 ประตู 2 แอสซิสต์ หาโอกาสยิงได้แค่ 44 ครั้งในการเตะ 31 เกม ความจริง นิวคาสเซิ่ล ยังมี เอ็มมานูเอล ริวิแยร์ ซึ่งยิง 1 ประตูจาก 23 นัด แต่ค่าตัวถูกกว่าครึ่งหนึ่ง

        แจ็ค ร็อดเวลล์, ซันเดอร์แลนด์ (ค่าตัว 10 ล้านปอนด์ จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
        ค่าจ้างที่ได้รับการเปิดเผย: 64,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์
        ค่าตัว 10 ล้านปอนด์สำหรับมิดฟิลด์ตัวกลางซึ่งจ่ายให้เพื่อนทำประตูไม่ได้เลยสักครั้ง ตลอดฤดูกาล และยิงเอง 3 ประตู จากจังหวะทั้งหมด 20 ครั้ง ในการเป็นตัวจริง 17 จากทั้งหมดที่ลงสนาม 23 เกม เหมือนตำพริกละลายแม่น้ำ ไม่นับว่าต้องให้ค่าเหนื่อยอีกสัปดาห์ละ 64,000 ปอนด์

        ฟิลิเป้ หลุยส์, เชลซี (ค่าตัว 16 ล้านปอนด์ จาก แอตเลติโก มาดริด)
        ค่าจ้างที่ได้รับการเปิดเผย: 75,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์
        16 ปอนด์สำหรับแบ๊กซ้าย ไม่ถือว่าแพงมาก แต่ถ้าทั้งฤดูกาลมีโอกาสลงสนาม 15 เกม เป็นตัวจริงแค่ 9 นัด สกัดบอล 47 หน ได้เปรียบ 77 เปอร์เซนต์ คงต้องคิดใหม่ว่าควรต้องจ่ายค่าจ้าง 75,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์หรือไม่ เขาคือคนเดียวกับที่เตะ 127 นัดใน 4 ปีกับ แอตเลติโก มาดริด

        เดยัน ลอฟเรน, ลิเวอร์พูล (ค่าตัว 20 ล้านปอนด์ จาก เซาธ์แฮมป์ตัน)
        ค่าจ้างที่ได้รับการเปิดเผย: 70,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์
        ลิเวอร์พูล ชอบให้เงิน เซาธ์แฮมป์ตัน ค่าตัว ลอฟเรน 20 ล้านปอนด์ ทำประโยชน์ให้ทีม "นักบุญ" เยอะ แต่เซนเตอร์แบ๊กทีมชาติโครเอเชียทำอะไรให้ "หงส์แดง" บ้าง คำตอบคือเตะ 26 เกม เป็นตัวจริง 22 นัด สกัดบอล 53 หน ได้เปรียบ 66 เปอร์เซนต์ มีโอกาสยิง 13 ครั้ง ไม่เป็นประตูเลย

        มาริโอ บาโลเตลลี่, ลิเวอร์พูล (ค่าตัว 16 ล้านปอนด์ จาก เอซี มิลาน)
        ค่าจ้างที่ได้รับการเปิดเผย: 90,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์
        หลายคนตื่นเต้นเมื่อ บาโลเตลลี่ ย้ายกลับมาค้าแข้งในอังกฤษ เพื่อแทนที่ หลุยส์ ซัวเรซ ขณะกองหน้าอุรุกวัยเป็นดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ลีก นักเตะอิตาเลียนคนนี้ยิงแค่ 1 ประตู จากการเตะ 16 นัด เป็นตัวจริง 10 หน ได้ยิง 36 ครั้ง จนไม่เป็นที่ต้องการของ ลิเวอร์พูล และอีกหลายทีม

        ลุค ชอว์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ค่าตัว 30 ล้านปอนด์ จาก เซาธ์แฮมป์ตัน)
        ค่าจ้างที่ได้รับการเปิดเผย: 90,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์
        ถ้าตัดสินว่าเล่นแย่ในการลงตัวจริง 15 จาก 16 นัด มีโอกาสยิง 3 หน ไม่เป็นประตู กับนักเตะอายุ 18 ปี อาจดูใจร้ายไปหน่อย แต่นี่คือเจ้าของค่าตัว 30 ล้านปอนด์ รับค่าเหนื่อย 90,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ มากกว่าแบ๊กอีกค่อนประเทศ และสกัดบอลแค่ 23 หน (ได้เปรียบ 83 เปอร์เซนต์)

        อังเคล ดิ มาเรีย, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ค่าตัว 60 ล้านปอนด์ จาก เรอัล มาดริด)
        ค่าจ้างที่ได้รับการเปิดเผย: 200,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์
        ลงเตะ 27 นัด เป็นตัวจริงถึง 20 เกม สำหรับนักเตะค่าตัว 60 ล้านปอนด์ แถมรับค่าจ้างสุดเว่อร์ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ หลายคนก็คาดหวังว่าเขาควรมีผลงานมากกว่าการยิง 3 ประตู จากโอกาสทั้งหมด 39 หน และจ่ายให้เพื่อนยิงอีกเพียง 10 ลูก แต่จอมทัพอาร์เจนไตน์ทำได้แค่นี้

        ราดาเมล ฟัลเกา, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ค่ายืมตัว 6 ล้านปอนด์ จาก อาแอส โมนาโก)
        ค่าจ้างที่ได้รับการเปิดเผย: 280,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์
        รวมค่ายืมตัว กับค่าเหนื่อยตลอดสัญญา 1 ปี "ปีศาจแดง" ต้องจ่ายให้หัวหอกทีมชาติโคลอมเบีย 14,609,700 ปอนด์ แลกกับการยิงเอง 4 และจ่ายให้คนอื่นซัดอีก 4 ประตู โดยมีโอกาสทำสกอร์ทั้งหมด 29 ครั้ง แถมเป็นตัวจริง 14 จากทั้งหมด 26 เกม หวังว่า เชลซี คงรู้ตัวเลขเหล่านี้น่ะ

        เอเลควิม ม็องกาล่า, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ค่าตัว 42 ล้านปอนด์ จาก ฟิออเรนติน่า)
        ค่าจ้างที่ได้รับการเปิดเผย: 100,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์
        ต่อให้เป็นค่าตัวตามรายงานเบื้องต้น 31.9 ล้านปอนด์ ก็แพงเกินไปอยู่ดี มีโอกาสลงสนาม 25 เกม (ตัวจริง 24) สกัดบอล 42 หน ได้เปรียบ 79 เปอร์เซนต์ แต่ไม่มีนัดไหนที่ฟอร์มโดดเด่นจนน่าจดจำ ค่าตัวขนาดนี้ไม่ควรนั่งสำรอง ตัวเขายังยอมรับว่าลูกหนังอังกฤษยากกว่าที่คิดไว้เยอะ