ติอาโก คุนญา 21', นูรูล ศรียานเก็ม 41'

มาริโอ ยูรอฟสกี้ 15'

 "ต้องบอกว่า นี่เป็นเกมที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของฟุตบอลลีกบ้านเรา ที่ทำให้ทุกคนที่ได้ชมเกมรู้ว่าบอลไทยอยู่ในเลเวลไหน ทุกรสชาติที่เกิดขึ้นสมกับที่รอคอยมา ทั้งคุณภาพตัวผู้เล่น คุณภาพเกม ว่ากันตามตรง ทุกอย่างมันรวมกันเป็นทัศนคติที่เชิงบวกตลอดเวลาครับ เป็นเกมที่แม้ว่าเมืองทองจะเหลือ 9 คน แต่พวกเขาก็สู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ขณะเดียวกันก็เป็นเกมที่ชลบุรียิงไม่ง่าย ซึ่งแม้จะขึ้นนำได้สำเร็จ แต่พวกเขาก็ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปแบบที่ต้องมาถ่วง มาลาก หรือมานอน มันจึงเป็นรูปเกมที่เอ็นเตอร์เทนคนดูตลอด 90 นาที 

สำหรับเจ้าบ้าน ต้องบอกว่าเป็นเกมที่ชลบุรีได้กำไรมากๆ ในเกมนี้ในทุกๆ แง่ และผลการแข่งขันก็เป็นใจให้พวกเขาจนจบ 90 นาที นี่จึงเป็นโมเมนต์ที่น่าสนใจบนตารางคะแนน เพราะชลบุรีไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาโดนทีมหัวตารางทิ้งหรือมีช่องว่างของ คะแนนไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว แต่โจทย์ของฉลามชลก็คือ พวกเขาจะรักษาความรู้สึกฮึกเหิมหลังเกมนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เพราะปัญหาคือชลบุรีเวลาเล่นเจอทีมใหญ่ ตัวพวกเขาก็จะใหญ่ตาม ขณะที่พอไปเจอกับทีมที่เล็กกว่า ก็เล็กไปด้วยตามเกม นี่คือสิ่งที่ต้องแก้ไข

ส่วนเมืองทอง ผมเชื่อว่าแฟนๆ ของพวกเขาไม่รู้สึกว่าตัวเองแพ้เท่าไหร่ และพูดได้ว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเหล่าแฟนๆ กิเลนผยอง ที่ได้เห็นทีมรักกลับมาเล่นแบบกัดฟันสู้แบบน่าชื่นชมในความตั้งใจ ข้อเสียเปรียบอย่างเดียวในเกมนี้คือด้วยตัวผู้เล่น 9 คน มันดูจะหินเกินไปเท่านั้นเอง"

ธีรยุทธ บัญหนองสา
ผู้บรรยายกีฬา / พิธีกร / ผู้ประกาศข่าวกีฬาทางทรูวิชั่นส์

"ฟุตบอลคู่ใหญ่ทุกคู่ที่ “สนุก” และ “ตื่นเต้น” ตลอดเกมการแข่งขันจนถูกพูดถึงทุกครั้งเวลาแฟนบอลนึกถึงความมัน จะต้องมีองค์ประกอบใหญ่ๆ 2 ส่วน คือ 1.การชิงไหวชิงเหลี่ยมในการสวนกลับ และ 2.จุดเปลี่ยนของเกม ไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยอะไรก็ตาม ซึ่ง ชลบุรี-เมืองทองฯ ตรงตามสเป็กที่ผมบอกทั้งหมด (ถ้าใครได้ติดตามตลอดทั้งเกมจะรู้ดี)

พูดถึงเมืองทองฯ ผู้แพ้ ไม่เสียหายเลยในมุมมองผม เพราะโดนจุดเปลี่ยน 3 ครั้งในครึ่งแรก 2 ใน 3 มาจากการเสีย สราวุธ กัลยาณบัณฑิต กับ เคลตัน ซิลวา ที่โดนไล่ออกทั้งคู่ก่อนจะจบครึ่งแรก มันเป็นข้ออ้างที่ฟังขึ้นจริง ลองคิดดูตัว 11 ตัวเท่ากัน กิเลนผยองเลือกที่จะรอสวนกลับแล้วขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากโอกาสเหน่ง ๆ ครั้งแรกของทีมจาก มาริโอ ยูรอฟสกี้ ซึ่งนี่คือมาตรฐานที่กำลังกลับมาของทีมแชมป์ลีก 3 สมัย แต่ดันมีปัญหาที่ต้องเสี่ยงเมื่อ สราวุธ ที่แทนที่ อาทิตย์ ดาวสว่าง ที่เจ็บ ขันน๊อตเกมรับไม่แน่น และกลายเป็นเกลียวหวานทุกทีที่โดนชลบุรีบุก รวมถึง เกลย์ตัน ที่ถูกวางมาให้ป่วนเกมรับของเจ้าบ้านทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะวิธีใดก็ตาม แต่สุดท้ายสมาธิแตกเอง ไปเล่นตามเกมของคู่แข่ง เสียค่าโง่แบบไม่น่าเสีย จนเป็นที่มาของการแพ้ และจุดเปลี่ยนสุดท้ายที่สำคัญที่ผู้ตัดสินเป็นผู้กำหนด คือ จุดโทษของ ติอาโก้ คุนย่า ซึ่งดูยังไงก็นอกกรอบชัด ๆ ทำให้สติของชลบุรีกลับมาจากลูกตีเสมอลูกนี้ และโยนความกดดันไปให้ทีมเยือนแทน โดยทั้งหมดผมขอชื่นชม จเด็จ มีลาภ กุนซือของชลบุรี ที่เก๋าเกม มองขาดว่าทีมเยือนมีบ่อตรงพื้นที่ไหน และสั่งย้ำด้วยบอลยาวจุดเดียวซ้ำไปซ้ำมา จนประสบความสำเร็จ แต่บอลสั้นเท้าต่อเท้าที่เคยสวยงามของฉลามชลคงต้องไปถามนักเตะของตัวเองแล้ว ล่ะว่า “จุดเด่นแบบนั้น มันหายไปไหน” 

โดยส่วนตัวชอบความระทึกใจของเกมนี้ ที่ถ้าใครก้มหน้าจะต้องเงยขึ้นมาทันที เพราะจังหวะหวาดเสียวเกิดขึ้นแทบทุกนาที เสียอย่างเดียวแท็คติกของทั้งสองทีมไม่ถูกงัดมาใช้แบบเต็มที่ เนื่องจากเมืองทองฯ เสียเปรียบตัวผู้เล่นน้อยกว่าในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้แผนที่เตรียมมาต้องปรับเปลี่ยบนหน้างานไปหมด แต่ 9 คน ในครึ่งหลัง น่าชื่นชมใจที่ช่วยกันเล่น จนบางจังหวะของการสวนกลับเล่นเอาเจ้าบ้านเป๋ได้เหมือนกัน 

ขณะที่ชลบุรีก็รอดตัวจากความได้เปรียบตรงจุดนี้ ทำให้ไม่ต้องตั้งรับและมีโอกาสได้ครองบอล แต่ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่าความหลากหลายในการเจาะเข้าทำในกรอบเขตโทษ รวมถึงสปีดบอลจังหวะเร็วของ เกริกฤทธิ์ กับ นูรูล ที่ทำได้ในนามทีมชาติ ไม่สามารถนำมามาใช้กับเพื่อนร่วมคนอื่นได้เลย ไม่งั้นเราจะได้ดูของดีจากทั้งสองทีมมากกว่านี้"

วรปัฐ อรุณภักดี
ผู้ประกาศข่าวกีฬา ไทยรัฐทีวี

"ก่อนอื่นของชื่นชม นักเตะทั้งสองทีมทั้งชลบุรี และ เมืองทอง ที่แสดงให้เห็นถึงเกมคุณภาพ เล่นฟุตบอลกันด้วยสปิริตอย่างแท้จริง สมกับเป็นฟุตบอลบิ๊กแมตช์อันดับ 1 ของเมืองไทย โดยชลบุรี ที่ชนะในบ้านเพียงนัดเดียวตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา การชนะเกมนี้ถือว่าเป็นการเรียกความมั่นใจขอทีมได้เยอะ แม้รูปเกมที่มีผู้เล่นมากกว่าในช่วง 45 หลัง จะไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ และกินบุญเก่าแต่ครึ่งแรกเอาชนะไป 2-1 แต่การเกือบจะโดนตีเสมอหลายต่อหลายครั้ง นี่ยังเป็นจุดที่ชลบุรี จะต้องแก้ให้ได้ เพราะที่ผ่านมามักเสียประตูง่ายๆ แบบไม่น่าเสีย 12 นัดที่ผ่านมาเสียประตู 11 นัด หากต้องการเก็บแต้มไล่จี้ทีมนำคงต้องสร้างมาตรฐานให้ดีขึ้นมา 

ส่วนเมืองทอง แม้จะเล่น 9 คน แต่เมื่อไม่สิ้นเสียงนกหวีดก็ไม่มีหยุดวิ่งให้แฟนที่ตามไปเชียร์ต้องผิดหวัง พวกเขาลงมาเล่นด้วยความกระหายชัยชนะนี่เป็นจุดเด็ดของเมืองทอง แต่การที่เมืองทองขาด กองหลังอย่างอาทิตย์ ดาวสว่าง ต้องบอกว่านี่คือจุดสำคัญเพราะ สราวุฒิ กัลยาณบัณฑิต ที่ลงมาแทนในเกมนี้ ไม่สามารถทดแทนได้ดีเท่าทีควร และการขาด ดัสกร ทองเหลา ก็ทำต้องเปลี่ยนรูปแบบนิดหน่อย ส่วนเรื่องผู้ตัดสินในเกมนี้ อาจมีผิดพลาดที่ต้องปรับปรุงอยู่บ้าง 

แต่สำหรับ 2 ใบแดงผมถือว่าก็สมเหตุสมผลตามที่ดลุยพินิจของผู้ตัดสิน"

เกริกชัย คุณโฑ 
ผู้สื่อข่าวกีฬาไทยรัฐทีวี / ผู้ดำเนินรายการ "เจาะสนามบอลไทย" FM99 Mhz