ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
บันเทิง » ข่าวบันเทิง » ผมผิดเอง! ซี ศิวัฒน์ น้ำตาคลอ ขอร้องอย่าด่าพ่อแม่ปม Maroon 5 (ชมคลิป)

ผมผิดเอง! ซี ศิวัฒน์ น้ำตาคลอ ขอร้องอย่าด่าพ่อแม่ปม Maroon 5 (ชมคลิป)

Posted 06/07/2015 by ไทยรัฐ

เกิดเป็นประเด็นดราม่าใหญ่โต กับกรณี เอมมี่ มรกรต กิติสาระ โพสต์ภาพบัตร Maroon 25 ใบ เกิดเป็นเสียงต่อว่าต่อขานเต็มโลกโซเชียล จน ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ ได้ออกมาอัพคลิปลงยูทูบโต้ตอบเสียงวิจารณ์ ส่งผลให้กระแสต่อว่ายิ่งกระพือ ล่าสุด ซี เองต้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อขอโทษ

 

กระแสย้อนกลับ รุมเกลียดรุนแรงเกินกว่าจะคาดคิด ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ ต้องออกมาน้อมรับผิดยอมขอโทษขอโอกาสอยู่ในวงการบันเทิงต่อไป ในกรณีโพสต์คลิปด่ากระเจิงเรื่องบัตรคอนเสิร์ตมารูนไฟว์ ช่วงเช้าวันนี้ซีได้ออกมาแถลงข่าวขอโทษที่สตูดิโอเจแอสแอล

ซี ศิวัฒน์ ร่ายยาวอย่างช้าๆ ชัดๆ "ตอนแรกคุณเอมี่ จะมาด้วย แต่วันนี้มีการฟิตติ้งละคร และอีกอย่างเขาคงไม่พร้อมที่จะมาพูด เขายังคงเจ็บซ้ำอยู่ เขาไม่อยากจะมานั่งร้องไห้ต่อหน้าสื่อ ไว้ให้เขาพร้อมกว่านี้แล้วให้คุณเอมี่ออกมาพูดกับพี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชนเอง ผมจะพูดในส่วนของผมก่อนว่าทำไมถึงได้โพสต์คลิปนั้นลงไป ผมขอพูดในส่วนของผมไม่ยากจะดึงใครเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องอีกครับ เพราะตอนนี้ผมเสียหายไปค่อนข้างเยอะแล้ว

"ผมกราบขอโทษกับสิ่งที่ผมได้ทำลงไป ในการโพสต์คลิปวิดีโอที่แสดงกิริยาอาการที่ไม่เหมาะสมนะครับ ใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ หยาบคาย แสดงกิริยาประชดประชัน ยียวน โดยที่ไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง ไม่คิดถึงผลที่จะตามมา ตั้งแต่ผมอยู่ในวงการนี้มาก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเหตุการณ์อะไรก็ตาม ผมไม่คิดจะออกไปตอบโต้หรือว่าใคร ผมไม่เคยมองว่าคนที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกับผมจะต้องเป็นศัตรูกับผม ผมไม่เคย แต่ในวันนั้น มันเป็นเหตุการณ์ที่ผมก็ไม่เคยเจอเหมือนกัน ผมไม่ได้ตั้งใจไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อน

"เนื่องจากมันมีข้อความอินบ็อกซ์มาในเฟซบุ๊กของผม ซึ่งในไอจีผมก็เข้าใจดีอยู่แล้วว่ามีคนว่าผม คือได้มีการตำหนิผมถึงการอบรมของคุณพ่อคุณแม่ผม ใช้คำหยาบคายที่ผมไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อน พูดถึงขนาดที่ว่าแม่ผมเป็นโสเภณี พ่อผมเป็นแมงดา (น้ำตาคลอ) บอกว่าผมมีความคิดแบบนี้เพราะการอบรมบ่มนิสัย สอนลูกดี๊ดีนะ ให้ลูกมาหากินกับประชาชน พวกโกงชาติ ซึ่งจึงๆ คำพูดมันหยาบคายกว่านี้มาก พูดใต้เข็มขัดตลอด เท่านั้นยังไม่พอยังพูดถึงภรรยาผม พูดถึงครอบครัวของผม พูดถึงคุณพ่อของคุณเอมี่ ซึ่งคุณพ่อของเอมี่ก็เปรียบเสมือนคุณพ่อของผม อันนี้ผมไม่ได้แก้ตัวนะครับ

"ผมคงคิดน้อยเกินไป ในเวลานั้นผมสุภาพไม่ไหวจริงๆ ผมไม่มีสติ ผมปล่อยให้ความโกรธอยู่เหนือเหตุผล ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น ไม่มีการคิดสคริปต์ไว้ก่อน แต่ถ้าถามว่ามีการกลั่นกรองหรือไม่ มีครับแต่มันไม่พอ มันยังคงมีคำหยาบคายอยู่ ความโกรธที่ผมแสดงออกไป ผมแสดงได้แค่นั้น ผมไม่สามารถแสดงได้มากกว่านั้น ตลอดเวลาที่ผมพูดในคลิปยังกราบขอโทษอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ผมโกรธมาก ผมยอมรับว่าผมยั้งอารมณ์ตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ พ่อใครแม่ใคร ใครก็รัก พ่อแม่ผมคือฮีโร่ของผม คือคนที่บ่มเพาะผมคือคนที่สอนผม (น้ำตาคลอ) ทำให้ผมเป็นผู้เป็นคนได้ทุกวันนี้ ยิ่งในวันนี้ท่านไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว ผมไม่ได้มีโอกาสจะชี้แจงว่าทำไมคนทั้งประเทศถึงเกลียดผม ว่าผมได้ครับ ผมยินดีน้อมรับเสมอ ยินดีปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่ไม่ตรงกัน แต่ผมขออย่างเดียวอย่าว่าพ่อแม่ผม อย่าตำหนิท่าน ท่านอบรมสั่งสอนผมมาดีแล้ว ผมมันไม่ดีเอง ผมยอมรับและกราบขอโทษมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ"

"ก่อนที่ผมจะโพสต์คลิป คุณเอมี่ก็ได้ห้ามปราม แต่ผมก็ยืนกรานจะลงคลิปวิดีโอเอง ผมขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ผมผิดผมรับยอมรับและผมก็ขอโทษ หลังจากที่ได้โพสต์คลิปไปคุณอาของคุณเอมี่ก็ได้โทรมาอบรมผม หลังจากนั้นผมก็ได้มีโอกาสอยู่กับตัวเอง ได้คิดได้วิเคราะห์ว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทำไมคนทั้งประเทศถึงได้เกลียดชังผม ความเชื่อมั่นและสิ่งดีๆ ที่ผมได้ทำมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา มันถูกทำลายใน 10 นาที (ในคลิป)

"เมื่อความโกรธผมหาย ผมก็มีสติมากขึ้น จริงๆ ผมไม่มีสิทธิ์ไปโกรธคนเหล่านั้นเลย เพราะว่าผมทำถูกต้องตั้งแต่แรก ทุกสิ่งทุกอย่างก็คงไม่เกิดขึ้น เขาก็คงจะไม่ตำหนิผม ไม่ตำหนิภรรยาผม เขาก็คงจะไม่ตำหนิบุพการีผม ทุกสิ่งทุกอย่างมันได้ย้อนมาที่ตัวเองว่า ผมคือคนที่ผิดเอง ผมคือคนที่ทำให้มันเกิดขึ้นตั้งแต่แรก ผมปล่อยให้ความโกรธไปยึดติดกับคำว่าโกงชาติ ไปยึดติดกับการไปว่าบุพการี จนลืมมองไปถึงสิ่งที่ประชาชนต้องการบอกกับผมก็คือ วิธีการ หรือการปรับทัศนคติในความเชื่อของผม ผมยอมรับผิดที่ผมใช้ชีวิตแบบนี้ซะจนชิน ในความอยากได้อยากมี ทำในสิ่งที่ผิด จนมีความเชื่อว่ามันถูก เมื่อก่อนอยากได้ไอโฟน มันยังไม่ได้เข้ามาในประเทศไทย มีคนหิ้วมาขายในราคาที่แพงกว่า ผมอยากได้ผมก็ซื้อ ตุ๊กตาเฟอร์บี้คนอยากได้หาไม่ได้ มีคนมาขายในราคาที่แพงกว่า ผมอยากได้ผมก็ซื้อ ครั้งนี้ผมก็คิดอย่างนั้นเช่นเดียวกัน โดยที่ไม่ได้คิดหรอกครับว่าผมได้เบียดเบียนใคร ต่อให้มันมีการล็อกบัตรจริงๆ เกิดขึ้น ผมไม่ได้เป็นคนล็อก ผมแค่เป็นคนหนึ่งที่อยากดูคอนเสิร์ตแล้วผมก็ซื้อบัตรมา เชื่ออย่างนั้นมาโดยตลอด

"แต่หลังจากที่ผมได้อ่านคอมเมนต์ ก็ขอบคุณมากๆ นะครับที่หลายคอมเมนต์ไม่ได้มีคำหยาบคายอะไร ก็เตือนสติผม อยากให้ผมปรับทัศนคติ ถึงแม้ผมจะไม่ได้เป็นคนล็อกบัตรหรือว่าอะไรก็ตาม แต่ผมเป็นคนซื้อ มันก็อยู่ในวงจรนี้อยู่ดี มันก็เหมือนผมอยากทำบุญปล่อยนก แล้วผมไปซื้อนกที่วัด แม้ว่าผมจะไม่ใช่คนที่จับนกแต่ผมก็ทำให้ขบวนการนี้เกิดขึ้น ผมขอยอมรับผิดในความคิดที่ผิดของผมมาโดยตลอด ผมกราบขอโทษทุกๆ ท่านผ่านสื่อมวลชน (ยกมือไหว้) กราบขอโทษไปยังแฟนคลับมารูมไฟว์ กราบขอโทษไปยังแฟนคลับของผมและไม่ใชแฟนคลับของผม กราบขอโทษไปยังครอบครัวของผมที่ผมทำให้ผิดหวังและเสียใจ ขอโทษไปยังครอบครัวของคุณเอมี่ ขอโทษไปยังน้องๆ ที่เห็นผมเป็นไอดอลเห็นผมเป็นแบบอย่าง แต่ผมกลับแสดงกิริยาอาการที่ไม่เหมาะสมออกไป ขอโทษแฟนๆ ที่เคยเชื่อมั่นในตัวผม ผมน่าจะเป็นคนที่เข้าใจและน่าจะมีสติมากกว่านี้

"วันนี้ผมได้เรียนรู้แล้วครับว่า ในเมื่อผมได้เลือกเส้นทางที่จะอยู่ในวงการบันเทิง สิ่งไหนที่ผมทนไม่ได้ ผมต้องทนให้ได้ เพราะผมเลือกแล้วที่จะเป็นดารานักแสดง ขอขอบคุณทุกคอมเมนต์ที่ได้เตือนสติผม ต่อไปนี้ผมไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว ผมยังมีครอบครัวอยู่ข้างๆ เมื่อผมทำอะไรผิดนั่นหมายความว่าครอบครัวผมโดนด้วย ผมขอสัญญากับทุกคนว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก และหลังจากนี้ถ้าทุกท่านยังจะตำหนิติเตียนอะไรผม ผมขอน้อมรับแต่เพียงผู้เดียว ผมกราบขอโทษทุกๆ ท่านครับ"

หลังจากได้พูดยาวเหยียดไปแล้ว ซีได้เปิดให้สื่อมวลชนได้ซักถาม การออกมาแถลงข่าวครั้งนี้มีใครแนะนำ "ไม่ได้มีใครแนะนำหรอกครับ ทุกคนให้กำลังใจผม บางท่านบอกให้ผมอยู่เฉยๆ ด้วยซ้ำ เพราะเรื่องทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นก็เพราะปากผมเอง เรื่องที่มันไม่น่าจะใหญ่ขนาดนี้ก็เพราะเกิดจากอารมณ์ของผมเอง มีหลายคอมเมนต์ครับที่มีความเชื่อว่าสุดท้ายผมก็ต้องออกมาขอโทษแน่ๆ จริงของท่านครับที่ผมต้องออกมาขอโทษ ผมผิดผมเรียนรู้ผมก็ต้องออกมาขอโทษ เพราะว่าผมไม่สามารถย้อนอดีตกลับไปแก้ไขมันได้แล้ว สิ่งที่ผมทำผมน้อมรับสิ่งที่ตามมา แต่ในวันนี้สิ่งที่ผมจะแก้ไขได้คือ ทัศนคติและความเชื่อที่ผิดมาโดยตลอดให้มันเปลี่ยนไป"

จากคลิปนั้นมีผลกระทบเยอะเลย "มันกระทบอยู่แล้ว วันนี้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่ผมได้เรียนรู้จากคนทั้งประเทศ เหตุการณ์ครั้งนี้มันก็ไม่ใช่เหตุการณ์ร้ายซะทีเดียว มันเป็นเรื่องดีๆ คือมันเป็นการเตือนสติผม บอกให้ผมได้รู้ว่าอย่าเชื่อมั่นในตัวเองมากจนเกินไป ให้มองในมุมมองของคนอื่นบ้าง การที่ผมซื้อบัตรในราคาพิเศษมา ถึงแม้ผมจะมีความเชื่อว่าผมซื้อด้วยเงินที่ผมหามาได้ด้วยความสุจริต แต่มันดูเหมือนการโกงหัวใจของคน ที่พร้อมจะต่อแถวดูคอนเสิร์ตด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมเพิ่งเข้าใจว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบัตร 25 ใบเลย มันอยู่ที่วิธีการมากกว่า ว่าผมได้มันมาอย่างไร ถ้าตัดคำที่ผมยึดติดในตอนแรก โกงชาติ ด่าบุพการีผม คือผมไม่เข้าใจที่ว่า ได้ 25 ใบก็แล้วแต่วิธีการที่ได้มา มันไม่ถูกต้อง อย่างที่บอกว่าผมทำผิดซะจนชิน ผมคิดว่ามันถูก วันนี้ผมได้เรียนรู้ว่าคนไทยได้ออกมารณรงค์เรื่องการไม่โกง ผมขอบคุณคอมเมนต์ที่เตือนสติผม คนเราจะโกงมากโกงน้อยมันก็โกง เหมือนคนขโมย 1 บาท ขโมยร้อยบาท หรือขโมยล้านบาท ก็ขโมยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมไม่มีสิทธิ์ สิ่งที่ผมทำคือโกงความรู้สึกของคนทั้งประเทศ แค่นั้นเลย

"ผมขอบคุณและดีใจ ผมไม่ได้ดีใจที่ว่าคนมาด่าตำหนิผมนะ แต่ผมดีใจที่ว่าคนไทย ณ ปัจจุบันให้ความสำคัญกับเรื่องการโกง และผมอยากจะให้คนกลุ่มนี้เกาะกลุ่มกันเอาไว้นะครับ ดี! แต่ผมขออย่างหนึ่งว่าขอให้มีสติ ออกมาแสดงด้วยอุดมการณ์และความเชื่อ มากกว่าที่จะมาสาดคำพูดแรงๆ ใส่กัน เพราะประเทศไทยเราประสบปัญหาแบบนี้มาโดยตลอด กว่าที่ผมจะรู้ตัว กว่าผมจะเข้าใจ ผมก็ทำในสิ่งที่ผมไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ เสียหายถึงขนาดที่ว่าชื่อเสียงที่ผมสร้างมา ความเชื่อมั่นความเชื่อใจจากแฟนๆ ที่ผมทำรายการมา ผมได้ถูกทำลายไปในเวลา 10 นาที แค่นั้นยังไม่พอ ผมยังลากครอบครัวและคนที่ไม่เกี่ยวข้องมาโดนหางเลขด้วย ความผิดครั้งนี้ผมน้อมรับครับว่า มันยากที่จะให้อภัย แต่วันนี้ผมหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจผมมากขึ้น ครอบครัวผมคือฮีโร่ผม ถ้าใครอยากจะตำหนิผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำผิดใดๆ ก็ตาม ผมยินดีน้อมรับและพร้อมที่จะปรับปรุงตัว

จะไปดูคอนเสิร์ตมารูนไฟว์ หรือไม่ "ผมคงไม่ไปดูแน่นอน เพราะผมคงเอาปี๊บไปด้วย ไปดูไม่สนุกแล้ว กังวลว่าจะมีใครมาโห่ผม ผมอยากจะชี้แจงเรื่องที่บอกว่าแฟนคลับปัญญาอ่อน ผมไม่ได้ว่าแฟนคลับนะครับ ผมพูดไปด้วยอารมณ์ ผมแค่ชี้แจงไม่ได้แก้ตัว ผมไม่ได้ว่าแฟนคลับ" ตั๋วที่ซีได้มามีกี่ใบ "ตั๋วในส่วนของผมมี 5 ใบ ผมกับคุณเอมี่ ยังไงก็ไม่ไปแน่นอน ผมได้มาไม่ถูกต้อง คงไม่มีใครกล้ามาซื้อต่อจากผมแน่ๆ ตอนแรกว่าจะโพสต์ในเฟซบุ๊ก หาวิธีคืนๆ ไปเอาเงินมาคืนอย่างไร ผมซื้อบัตรมาในราคาพิเศษ ทุกคนคงรู้ว่าบัตรพิเศษคืออะไรนะครับ นั่นคือในส่วนของผม ตั๋ว 25 ที่นั่งติดกันมั้ย ผมไม่ทราบ ผมไม่กล้าให้คำตอบ อาจจะอยู่ในโซนเดียวกัน ผมไม่ทราบเพราะผมยังไม่เห็นบัตร ผมไม่ทราบจริงๆ จะมีการล็อกหรือไม่ ไม่ทราบจริงๆ อย่างที่คุณเอมี่บอกไปแล้วว่า ทุกๆ คอนเสิร์ตที่เคยมีมาในเมืองไทย มันก็เป็นสิทธิ์ 100% ของต้นสังกัดว่าจะมีวิธีการตลาดมีการทำกำไรอย่างไร จะมีตั๋วพีอาร์จะมีตั๋วล็อกไว้ให้กับสปอนเซอร์ หรือจะเอาไปแจกใครนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของทางต้นสังกัด ตั๋วที่ผมได้มาไม่แฟร์แน่นอน ในส่วนของคุณเอมมี่ มรกต จะมีทีมงานไปช่วยคลิก (จองบัตรทางออนไลน์) หรือไม่คลิกเองหรือไม่ ผมไม่ทราบจริงๆ หลังจากเกิดเหตุการณ์มา มันตกใจมันเตรียมตัวกันไม่ทัน ตั๋วไม่ได้ซื้อพร้อมกันทีเดียว ที่เห็นคือเอามารวมกัน จริงๆ เลยผมยังไม่เห็นบัตรเลยครับ"

"ส่วนที่ว่าใช้หัวนมคิด ประชดครับ ด้วยอารมณ์มันคือการระบายความโกรธไม่ได้มีการยั้งคิดใดๆ ถ้ามีคนมายั้งเราบอกว่าที่คนมาด่าเรา เพราะตัวเราเองแต่มันสายไปแล้ว พ่อแม่คือฮีโร่ในใจผม ผมไม่รู้จะบอกถึงความเจ็บปวดของผมอย่างไร ความเจ็บปวดมันยากจะทำให้ผมมีสติได้ ถึงแม้ผมจะอยู่ในวงการมานาน ผมยอมรับผิดอย่างที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ครับ

โอกาสที่เขาจะมาเมืองไทยไม่ง่ายเลย ผมไม่แฟร์เลย ตั้งหน้าตั้งหน้ารอที่จะโกง หัวใจเรา เอมมี่ มรกต ต่างคนต่างปลอบใจตัวเอง ตอนนี้เอมมี่ มรกต เสียใจมาก เพราะเขาโทษมันเป็นเพราะเขา มันใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล มีผลกระทบไปดารา เซเลบ นักแสดงคนอื่น

มันเป็นเรื่องจริงครับ มันเป็นเพราะว่า ปากพาจนเรื่องจริงครับ ผมน้อมรับ กระทบแล้วแน่นอน วันนี้ผมกราบขอโทษไปยังพี่ๆ น้องๆ ศิลปินดารา เซเลบที่ผมทำให้เดือดร้อน ด้วยความคิดน้อยของผม ด้วยอารมณ์มีสติมากกว่านี้ ผมจะอดทนให้ได้มากกว่านี้ ขอโทษครับ"

ออกมาแถลงข่าวครั้งนี้ คิดว่าเรื่องจะจบหรือไม่ "ไม่จบหรอกครับ ถ้าผิดแล้วไม่ขอโทษก็ไม่รู้จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างไร มันไม่ใช่วิธีใช้ชีวิตของผมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรก่อนหน้านี้ อยากให้ผมปรับปรุง ผมยินดีน้อมรับ ขอโทษ มีหลายคอมเมนต์ที่ผมอ่านแล้วดีมากๆ ก่อนหน้านี้ผมลืมมองมุมมองในคนอื่น ตอนนี้ผมก็มีมุมมองที่ดีขึ้น เป็นคนที่ดีขึ้น" เข็ดการใช้โซเชียลมีเดีย "มันคงเข็ดไม่ได้หรอกครับ โลกอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับตัวคนมากกว่า อย่างที่ผมบอก ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายซะทีเดียว เมื่อมองข้ามคำหยาบคายไปแล้ว เราได้ปรับทัศนคติ ไม่ได้คิดแต่ตัวเอง ว่าจะเอาแต่ได้เอาแต่มี เอาแต่ตัวเองเป็นหลัก จริงๆ มันดีแล้ว แต่ให้ออกมาแสดงตัวด้วยอุดมการณ์ความเชื่อ ที่อยากจะให้สังคมมันดีขึ้นไป"

ต่อไปเวลามีคอนเสิร์ตที่อยากจะดู กลัวคนอื่นจะมองเราไม่ดีหรือไม่ ว่าได้บัตรมาแบบไหน "คุยกับคุณเอมมี่ กลัวมากจริงๆ ถ้าไม่ทำก็ไม่ผิด ง่ายๆ แค่นั้น ถ้าคิดในแง่ดี อยากดูจริงๆ ก็ดูในยูทูบก็ได้ หรือไปตามดูที่ต่างประเทศ แต่มันยากมีเรื่องคิว" ซี ทิ้งท้ายอีกครั้งถึงการโพสต์คลิปของตัวเอง "การพูดขาดความยั้งคิด กระแหนะกระแหน ใช้คำพูดหยาบคาย ทำเพื่อความสะใจ คุณด่ามาผมด่าไป ผมผิด ผมน้อมรับ และหวังว่าทุกๆ ท่านจะเข้าใจผมมากขึ้น ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะให้ทุกท่านอภัยให้ผมในวันนี้ แต่ถ้าจะเป็นไปได้ ถ้าความโกรธของทุกๆ ท่านน้อยใจ จะเป็นพระคุณกับผมอย่างสูง ที่จะให้โอกาสผมที่ะจะยังทำหน้าที่ต่อไปในวงการบันเทิงต่อไปครับ ขอโทษครับ".

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »