หลายปีก่อนหน้านี้ใครๆ ต่างก็เกรงกลัว เฟเดอเรอร์ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับ "เฟด-เอ็กซ์" ในวัยหนุ่มได้อย่างสูสี ซึ่งนั่นก็ทำให้เจ้าตัวได้ครองตำแหน่งมือ 1 ของโลกเป็นเวลานาน

 อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถหนีอายุที่เพิ่มมากขึ้นได้ เฟเดอเรอร์ เองก็เป็นหนึ่งในนั้น ช่วงที่ผ่านมามีหลายครั้งที่เขาแพ้ให้คู่แข่งแบบพลิกล็อก จนหลายฝ่ายมองว่าอาจจะหมดยุคของเขาแล้ว

  แต่ปีนี้ เฟเดอเรอร์ เหมือนจะเค้นฟอร์มในวัยหนุ่มออกมาได้อีกครั้ง ในฤดูกาลนี้เขาชนะ 40 แมตช์ และแพ้ 6 ครั้ง พร้อมคว้าแชมป์ไปครองได้ 4 รายการ และปัจจุบันก็เป็นมือ 2 ของโลกด้วย

 เฟเดอเรอร์ ต้องการสานต่อผลงานอันยอดเยี่ยมแบบนั้นด้วยการคว้าแชมป์ วิมเบิลดัน ครั้งนี้ให้ได้ ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองยังมีดีพอที่จะขับเคี่ยวกับคนหนุ่มเท่า นั้น แต่เพื่อให้ได้แชมป์ระดับ แกรนด์สแลม เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีด้วย หลังจากที่เขาไม่เคยได้สัมผัสกับแชมป์ในรายการระดับ แกรนด์สแลม อีกเลย นับตั้งแต่ได้แชมป์ วิมเบิลดัน ในปี 2012

ปัญหาก็คือคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศของเขาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสเลือดเซิร์บที่หลายคนยกย่องว่าได้ก้าวมาเป็นนักหวดเบอร์ 1 ในยุคปัจจุบันอย่างเต็มตัวแทน เฟเดอเรอร์ แล้ว

"โนเล่" ค่อยๆ พัฒนาฝีมือมาเรื่อยๆ จนขึ้นมาเป็นนักเทนนิสหัวแถว และในที่สุดก็กลายเป็นมือ 1 ของโลกได้อย่างสมภาคภูมิ แชมป์รายการระดับ แกรนด์สแลม 8 รายการ คือสิ่งที่มาจากความพยายาม และฝีมือของเขาล้วนๆ

ทั้งนี้ ถ้าหากคิดว่าผลงานในปี 2015 ของ เฟเดอเรอร์ ยอดเยี่ยมแล้ว มันก็ต้องบอกว่าของ ยอโควิช เจ๋งยิ่งกว่า เมื่อแร็กเกตมือ 1 ของโลกเอาชนะได้ 47 แมตช์ แพ้เพียง 3 หน และได้แชมป์ไปเชยชมแล้วถึง 5 รายการ

 นอกจากนี้ จนถึงตอนนี้แร็กเกตวัย 28 ปี ก็เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของรายการระดับ แกรนด์สแลม ในปีนี้ได้ทั้ง 3 รายการ โดยได้แชมป์ ออสเตรเลียน โอเพ่น และอกหักได้เพียงรองแชมป์ เฟร้นช์ โอเพ่น จากการแพ้ สตานิสลาส วาวรินก้า เพื่อนร่วมชาติของ เฟเดอเรอร์ แบบพลิกล็อกเล็กน้อย

แน่นอน การได้แชมป์ วิมเบิลดัน ในครั้งนี้ คงช่วยลบล้างแผลใจให้ ยอโควิช ได้ไม่มากก็น้อย และมันจะยิ่งมีค่ามากขึ้นไปอีกหากเอาชนะ เฟเดอเรอร์ ได้

เกร็ดน่ารู้ที่น่าสนใจ
- นี่นับเป็นครั้งที่ 40 แล้วที่คู่นี้ต้องมาดวลกัน โดยที่ผ่านมา เฟเดอเรอร์ มีผลงานที่ดีกว่านิดหน่อย เมื่อเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ 20 ครั้ง ส่วน ยอโควิช ได้เฮ 19 หน

- ขณะที่ในการพบกัน 4 ครั้งหลังสุด ทั้งคู่ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะฝ่ายละ 2 ครั้ง (ไม่นับรวมศึก เวิลด์ ทัวร์ ไฟนั่ลส์ เมื่อปีก่อน ที่ เฟเดอเรอร์ ขอถอนตัว)

- นี่นับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ทั้ง 2 คนต้องมาพบกันในนัดชิงดำของศึก แกรนด์สแลม ที่ 3 ของปี โดยเมื่อปีที่แล้ว ยอโควิช เป็นฝ่ายชนะไป 3-2 เซต 6-7 (7-9), 6-4, 7-6 (7-4), 5-7, 6-4 จนทำให้แร็กเกตเลือดเซิร์บได้แชมป์ วิมเบิลดัน เป็นสมัยที่ 2

- นี่เป็นครั้งที่ 13 ที่ ยอโควิช กับ เฟเดอเรอร์ ได้เจอกันในรายการระดับ แกรนด์สแลม โดยก่อนหน้านี้ต่างฝ่ายต่างก็เก็บชัยชนะได้ 6 ครั้ง