Minions : สมุนวายร้ายป่วนจนดัง
Posted 13/07/2015 by siamdara
เรื่องราวของ Minions ภาพยนตร์โดยอิลลูมิเนชัน เอนเตอร์เทนเมนต์และยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส เริ่มต้นที่รุ่งอรุณแห่งกาลเวลา มินเนี่ยน ที่เริ่มต้นจากการเป็นสิ่งมีชีวิตสีเหลืองเซลล์เดียว ได้มีวิวัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ ผ่านยุคสมัยต่างๆ ด้วยการรับใช้เจ้านายที่น่ารังเกียจที่สุด อย่างไรก็ดี เมื่อพวกเขาไม่อาจคุ้มครองเจ้านายของตัวเอง ตั้งแต่ที.เร็กซ์ไปจนถึงนโปเลียน เอาไว้ได้ พวกมินเนี่ยนก็ขาดเจ้านายที่พวกเขาจะรับใช้ ทำให้พวกเขาจมอยู่ในห้วงของความหดหู่
แต่มินเนี่ยนตัวหนึ่งที่ชื่อ เควิน มีแผนการอย่างหนึ่ง และเขาก็ร่วมมือกับ สจวร์ต วัยรุ่นหัวขบถและบ็อบ หนูน้อยน่ารัก ออกบุกตะลุยในโลกกว้างเพื่อหาเจ้านายวายร้ายคนใหม่ให้เพื่อนพ้องชาวมินเนี่ยนได้ติดสอยห้อยตามรับใช้
ทั้งสามได้ออกผจญภัยสุดระทึก ที่ท้ายที่สุดแล้วก็นำพวกเขาให้ได้เจอกับผู้ที่อาจจะเป็นเจ้านายคนใหม่ของพวกเขา สการ์เล็ต โอเวอร์คิล สุดยอดวายร้ายหญิงคนแรกของโลก พวกเขาเดินทางจากดินแดนเยือกแข็ง แอนตาร์คติกา มาสู่นิวยอร์ก ยุค 60s และลงเอยในลอนดอนยุคปัจจุบัน ที่ซึ่งพวกเขาต้องเผชิญความท้าทายยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา นั่นคือการปกป้อง มินเนี่ยน ทั้งปวงให้รอดพ้นจาก...การถูกกำจัด
หลังจากความสำเร็จที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนของภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์เรื่อง Despicable Me และภาคต่อที่ทุกคนชื่นชอบ Despicable Me 2 ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ด คนทั่วโลกก็เฝ้ารอเรื่องราวต่อไปจากโลกที่ถูกสร้างขึ้นในแฟรนไชส์ดังเรื่องนี้โดยอิลลูมิเนชัน เอนเตอร์เทนเมนต์ ผู้ชมทั่วทุกหนทุกแห่งต่างหลงเสน่ห์พวกมินเนี่ยนและกระหายใคร่รู้ว่าลูกสมุนสุดพิลึกและจงรักภักดีของกรูมาจากไหน พวกเขาเป็นใครก่อนที่จะได้พบเจ้านายคนนี้และพวกเขาได้ผ่านการผจญภัยอะไรมาบ้างตั้งแต่พวกเขาปรากฏตัวในโลกของเรา
เมเลแดนดรี้ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของอิลลูมิเนชัน อธิบายว่า พวกมินเนี่ยนได้ทำตามที่พวกเขาต้องการในการสร้างเรื่องราวพรีเควล ตามแบบฉบับน่ารักแบบพิลึกๆ ของพวกเขา เขากล่าวว่า "เราไม่ได้ตั้งเป้าที่จะสร้างหนังเกี่ยวกับมินเนี่ยน แต่พวกมินเนี่ยนเรียกร้องครับ หลังจากที่เสร็จจาก Despicable Me 2 เราก็พบว่าทีมงานของเรา ซึ่งประกอบไปด้วยผู้มีความสามารถนับร้อยๆ คน ที่ผมถือเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานด้วย อดไม่ได้ที่จะสร้างภาพอนิเมชันของตัวละครพวกนี้"
นับตั้งแต่ที่พวกมินเนี่ยนได้ปรากฏตัวขึ้นบนจอเงินในฤดูร้อนปี 2010 เมเลแดนดรี้และเพื่อนทีมงานสร้างของเขาได้เฝ้ามองการที่เผ่าพันธุ์นี้และความโกลาหลที่พวกเขาสร้างขึ้นได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชมทั่วโลก เขารู้สึกว่าความผูกพันที่เรารู้สึกนั้นเกิดจากจิตวิญญาณที่น่าหลงใหลของพวกเขา เขาเล่าว่า "จิตวิญญาณนี้มาจากการผสมผสานแบบดีไซน์ของพวกเขา อนิเมเตอร์ที่เนรมิตชีวิตให้กับพวกเขาและการพากย์เสียงภายใต้การกำกับของปิแอร์และไคล์ และก่อนหน้านี้ก็ปิแอร์และคริส พวกเขาร่วมกันสร้างตัวละครที่มีเสน่ห์แรงเกินห้ามใจขึ้นมาครับ"
สำหรับเมเลแดนดรี้ ธรรมชาติที่คลุมเครือของตัวละครเหล่านี้ ยิ่งทำให้ผู้ชมเรียกร้องอยากได้เรื่องราวเกี่ยวกับมินเนี่ยน ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่ที่เขาก่อตั้งอิลลูมิเนชัน เมเลแดนดรี้ เน้นว่าภาพยนตร์ของบริษัทจะต้องโฟกัสไปที่ตัวละครเหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีสิ่งใดที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับตัวละครมากไปกว่าตัวมินเนี่ยนเองอีกแล้ว
ตอนที่ทีมงานสร้างสรรค์ของอิลลูมิเนชันได้เติบโตงอกงามขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา หนึ่งในบุคคลทรงคุณค่าของทีมคือมือเขียนบทไบรอัน ลินช์ ผู้เคยร่วมงานกับเมเลแดนดรี้ที่บลู สกาย สตูดิโอส์แห่งทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ก่อนที่เมเลแดนดรี้จะเปิดบริษัทโปรดักชันของตัวเองเพื่อสร้างภาพยนตร์ที่จะจัดจำหน่ายโดยยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ลินช์ถูกนำตัวมาเพื่อทำงานใน Hop ภาพยนตร์เรื่องที่สองของอิลลูมิเนชัน
หลังจากร่วมงานกันครั้งแรก ลินช์ ถูกทาบทามให้เขียนบท Despicable Me: Minion Mayhem จากแฟรนไชส์นี้ ซึ่งกลายเป็นเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงที่ทั้งยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ออร์ลันโดและยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ ฮอลลีวูด นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับพวกมินเนี่ยนอย่างใกล้ชิด และพวกเขาก็ชื่นชอบพวกเขามาก เครื่องเล่นนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงจนสร้างสรรค์ของอิลลูมิเนชันถามลินช์ว่าเขาสนใจเขียนบทภาพยนตร์สแตนด์อโลนเกี่ยวกับพวกมินเนี่ยนเพื่อเสริมเรื่องราวอื่นๆ ในแฟรนไชส์ Despicable Me รึเปล่า
ลินช์เล่าถึงเหตุผลที่เขายอมรับความท้าทายและเหตุผลที่เขาอยากให้เรื่องราวของพวกเขาเป็นพรีเควลปี 1969 ก่อนเหตุการณ์ที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2010 "เราทุกคนต่างก็มีมินเนี่ยนน้อยในตัวเอง ซึ่งบางคนอาจมีมากกว่าคนอื่น คนมีคำถามมากมายเกี่ยวกับว่ามินเนี่ยนเป็นใคร พวกเขามาจากไหน จนเราคิดว่าการตอบคำถามพวกนั้นคงเป็นเรื่องสนุกมากน่ะครับ"
ในการพัฒนาโลกที่เปี่ยมด้วยรายละเอียดซับซ้อนนี้ ลินช์ ซึมซับทุกอย่างที่เป็นมินเนี่ยน แน่นอน ตอนที่เขาร่วมงานกับสวนสนุกทั้งสองแห่ง เขาได้จดจำทุกรายละเอียดของ Despicable Me และ Despicable Me 2 รวมไปถึงภาพยนตร์ Minion ขนาดสั้นที่ฉายร่วมกับฉบับโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ ด้วยการดูภาพยนตร์เหล่านั้นซ้ำหลายๆ ครั้ง และสิ่งเหล่านั้นมาเป็นข้อมูลอ้างอิงอย่างเคร่งครัด
"การมีเสียงมินเนี่ยนในหัวของคุณอาจเป็นเรื่องน่ากลัวก็จริง แต่ในกรณีนี้ มันช่วยได้จริงๆ โชคดีที่ปิแอร์เป็นคนพากย์เสียงมินเนี่ยน ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ผมมีคำถามว่าพวกเขาจะทำตัวยังไง เขาก็จะรู้คำตอบครับ ส่วนที่ยากที่สุดคือตัวละครหลักทั้งสามของเราไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ แต่ปิแอร์ก็นำเสนอสิ่งที่พวกเขาพยายามจะพูดออกมาได้อย่างวิเศษสุด" ลินช์ กล่าว
ในตอนจินตนาการถึงเรื่องราวต้นกำเนิดสำหรับตัวเอกของเรา ลินช์รู้สึกตื่นเต้นในการครุ่นคิดถึงสิ่งที่ผู้ชมคิดมาตั้งแต่ได้พบกับพวกมินเนี่ยน นั่นคือพวกเขามาจากไหน และก่อนเจอกรู พวกเขาใช้ชีวิตอย่างไร "มันเยี่ยมมากที่ได้เห็นพวกมินเนี่ยนในโลกใบใหญ่ที่โหดร้ายนี้ก่อนหน้าที่กรูจะก้าวเข้ามา" มือเขียนบทเล่า "เขาคอยคุ้มครองพวกเขาในหนังสองภาคแรกและเป็นเหมือนพ่อของพวกเขา เช่นเดียวกับที่พวกมินเนี่ยนต้องการวายร้ายมานำทางพวกเขา พวกเขาก็ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วย ในหนังเรื่องนี้ พวกเขายังไม่มีครอบครัวและพยายามหาคำตอบว่านั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ"
เมื่อได้รับมอบหมายให้คิดตัวละครหลักทั้งสามสำหรับเรื่องราวเริ่มต้นนี้ ลินช์ได้เล่าให้เราฟังถึงนิสัยที่แตกต่างกันของทั้งสามว่า "นอกจากพวกเขาจะหยอกล้อกันเล่นไปมาแล้ว พวกเขายังคอยช่วยเหลือกันและกันด้วย เควินเป็นพี่ใหญ่ และถ้าเขาไม่อยู่ ตัวอื่นๆ คงจะล้มหายตายจากไปนานแล้ว สจวร์ตเป็นเหมือนพวกวัยรุ่นหัวดื้อ เขาไม่แคร์เกี่ยวกับภารกิจแต่กลับสนใจแต่เรื่องของการเที่ยวเตร่ เล่นดนตรีและคุยกับสาวๆ ส่วนบ็อบเป็นเด็กไร้เดียงสาที่ตื่นเต้นที่จะได้มีส่วนร่วม แต่กลับเสียสมาธิเพราะแสงเจิดจ้า ทีวีหรือตุ๊กตาหมีที่ตั้งบนพื้น" อย่างไรก็ดี มันไม่ได้เป็นความรักที่งดงามเสมอหรอก "คุณอยากให้พวกเขาทะเลาะกัน อยากให้พวกเขามีไอเดียที่ตัวอื่นๆไม่มี และคุณก็อยากให้พวกเขาแกล้งกันครับ"
แม้ลินช์จะรอบรู้ในเรื่องมินเนี่ยนเป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่มินเนี่ยนสื่อสารกันโดยใช้ภาษากายเป็นหลัก เขาก็รู้ว่าเขาต้องอาศัยทีมอนิเมเตอร์มากความสามารถของคอฟฟินและบัลด้าในการช่วยให้ผู้ชมเข้าใจเควิน, สจวร์ตและบ็อบ
โลกนี้คงไม่มีใครรู้จักมินเนี่ยนดีไปกว่าผู้กำกับฯ ปิแอร์ คอฟฟิน ผู้ที่ผลงานของเขาที่ทำร่วมกับคริส เรน็อด ส่งให้ Despicable Me และ Despicable Me 2 ได้รับการยกย่องในแวดวงภาพยนตร์อนิเมชันและทำให้อิลลูมิเนชันได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์สำหรับภาคสอง เป้าหมายที่คอฟฟินตั้งเอาไว้สำหรับพวกมินเนี่ยนคือการทำให้เรามองพวกเขาอย่างจริงจังแต่ในขณะเดียวกันก็ยกย่องความน่าขันของพวกเขาด้วย
ด้วยความที่ธรรมชาติในงานของคอฟฟินคือการเนรมิตชีวิตให้กับสิ่งไร้ชีวิต ความสำเร็จในการทำให้มินเนี่ยนเป็นที่ชื่นชอบและเข้าถึงได้เกิดขึ้นได้จากการที่คอฟฟินและไคล์ บัลด้า ผู้กำกับร่วมของเขา ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับทีมอนิเมชันมากความสามารถของพวกเขาเพื่อสร้างบุคลิกที่โดดเด่นให้กับมินเนี่ยนแต่ละตัว คอฟฟินเล่าว่า "คุณจะไม่เข้าใจคำพูดของพวกเขาหรือหลักไวยากรณ์ของพวกเขาหรอกครับ แต่คุณจะเข้าใจในตอนที่พวกเขาเกิดความขัดแย้ง เศร้าหรือมีความสุขครับ"
ในขณะที่กรู, มาร์โก้, อีดิธและแอ็กเนสเป็นตัวละครหลักของแฟรนไชส์ Despicable Me ก็ได้เวลาที่พวกมินเนี่ยนจะเปล่งประกายในภาพยนตร์ของตัวเองเสียที คอฟฟินอธิบายว่า "ในหนังเรื่องนี้ เราผลักดันขอบเขตออกไปเพื่อทำให้มันไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับไซด์คิก มันไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับตัวละครรองที่น่าขบขัน เราทุกคนต่างก็เอาด้วยเพราะเรามีเรื่องราวดีๆ ตัวละครดีๆ และรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องท้าทายที่จะมอบสิ่งที่พิเศษสุดมากๆ แก่ผู้ชมครับ"
ความมุ่งมั่นที่พวกมินเนี่ยนมีต่อการรับใช้วายร้าย และบังเอิญได้เจอสิ่งที่ดีกว่าสำหรับพวกเขา ทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีกว่าการมีเจ้านายที่พวกเขาบังเอิญกำจัดทิ้งไป ผู้กำกับบัลด้าเล่าว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชะตากรรมที่โลกเตรียมไว้สำหรับพวกเขา "บ้านสำหรับพวกมินเนี่ยนไม่ใช่สถานที่แต่เป็นกรู สิ่งที่เราได้เห็นใน Despicable Me คือกรูเป็นเจ้านายจอมวายร้ายที่พวกเขาติดสอยห้อยตาม เขาเป็นคนที่พวกเขาเข้าถึงได้มากที่สุด มีความรักเกิดขึ้นระหว่างเขาและพวกมินเนี่ยน ท้ายที่สุดแล้ว นั่นคือเป้าหมายของพวกเขา การตามหากรูและรับใช้เขาน่ะครับ"
เมเลแดนดรี้กล่าวสรุปถึงสิ่งที่เขาพบว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จของทีมงานของเขาว่า "สิ่งที่ผมชื่นชอบเกี่ยวกับปิแอร์, ไคล์และไบรอันคือเมื่อไหร่ก็ตามที่ Minions เสี่ยงกับการกลายเป็นสิ่งที่สะเทือนอารมณ์มากเกินไป พวกเขาก็จะลดทอนมันลงด้วยคอเมดีเพื่อที่หนังเรื่องนี้จะไม่เป็นอะไรที่อ่อนไหวเกินไป แต่มันก็จะมีอารมณ์ที่แท้จริงอยู่ คุณจะสัมผัสได้ถึงความอ่อนหวานของมันก่อนที่จะหัวเราะอย่างรวดเร็วครับ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ส่องความเซ็กซี่ คาเรน คาเอเดะ ดารา AV ขวัญใจมหาชน ประกาศรีไทร์สายฟ้าแลบ
บอมบ์ สุภาวดี สวมบิกินี่ตัวจิ๋ว อวดหุ่นแซ่บริมทะเล
นุ่น โดโรธี นางแบบสาวลูกครึ่งไทย ผู้รับบทผีดงโขมดจากธี่หยด 2 ร่างจริง แซ่บเว่อร์ !
วินแอมป์ จิราภรณ์ สาดความแซ่บเต็มร้อย จนไอจีลุกเป็นไฟ
คาเรน ยูซูริฮะ ดาราดาวรุ่งขวัญใจหนุ่ม ๆ ติดอันดับยอดขายหนัง AV แห่งปี
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์