ขุนพล "ช้างศึกจูเนียร์" ทีมชาติไทย ยู-19 ได้พักรีแลกซ์งดซ้อมมื้อเย็น ด้านทาง "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด แม่ทัพของทีม เผยไม่อยากโฟกัสทีมใดเป็นพิเศษในรอบรองฯ เชื่อทุกทีมมีความแข็งแกร่งพอกัน พร้อมย้ำลูกทีมเล่นเป็นทีมเวิร์ก ไม่จับตายแข้งคนใดทั้งสิ้น

 ความเคลื่อนไหวของขุนพลเยาวชน 19 ปี ทีมชาติไทย ชุดสู้ศึก "เอเอฟเอฟ ยู-19 แชมเปี้ยนชิพ 2015" ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 22 ส.ค. - 4 ก.ย. นี้ โดยหลังจากเสร็จสิ้นรอบแรกขุนพล "ทัพช้างศึกจูเนียร์" สามารถทะลุผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศด้วยการไปอันดับ 1 ของสาย เอ ลงสนาม 4 เกม ชนะรวดทั้ง 4 เกม ยิงได้ 18 ประตู และเสียเพียง 2 ประตูเท่านั้น

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา ทาง "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด แม่ทัพของทีม ได้นำทัพนักเตะลงสระน้ำภายในโรงแรมที่พัก เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย หลังจากที่นัดสุดท้ายของรอบแรกไล่ถล่มเอาชนะ กัมพูชา ขาดลอย 6-0 จากนั้นช่วงเย็นได้ปล่อยให้นักเตะรีแลกซ์และพักผ่อนตามอัธยาศัย โดยไม่มีการฝึกซ้อมใดๆ ทั้งสิ้น

"โค้ชจุ่น"เผยรอบรองฯไม่โฟกัสทีมใดเป็นพิเศษ
 
         โดยทาง "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด กุนซือทีมชาติไทย ยู-19 ได้ออกมาเปิดเผยถึงทีมจะพบกันในรอบรองชนะเลิศว่า "เราคงไม่โฟกัสไปที่ทีมใดทีมหนึ่ง เนื่องจากคู่แข่งที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองฯ ล้วนเป็นทีมที่มีความแข็งแกร่งด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งเราก็กำลังทำงานกันอย่างหนักในการศึกษาเกมของคู่แข่ง ซึ่งผมได้เน้นย้ำกับน้องๆ อยู่เสมอว่าห้ามประมาททีมใดทั้งสิ้น และเราคงเน้นเกมต่อเกมยังไม่มองไปถึงรอบชิงชนะเลิศ"

ไม่เน้นจับตายใครย้ำเล่นเป็นทีมเวิร์ก

ขณะเดียวกันทาง "โค้ชจุ่น" ยังเผยต่อไปอีกว่า "ทางเราคงไม่จับตายผู้เล่นของคู่แข่งเป็นพิเศษ แต่ทว่าคงให้เด็กเล่นกันเป็นทีมเวิร์กมากกว่า เนื่องจากผมเชื่อว่าศักยภาพของเด็กๆ มีดีพอที่จะสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ไม่ยาก ซึ่งเกมที่ผ่านมาของรอบแรก น้องๆ ทุกคนก็แสดงให้เห็นแล้วว่าการที่เล่นเป็นทีมเวิร์ก คืออาวุธชั้นดีในการทำลายเกมของคู่ต่อสู้ และเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถเอาชนะทุกทีมได้อย่างแน่นอน"

 ส่วนผลการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ยู-19 แชมเปี้ยนชิพ 2015" ณ กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ประจำวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นการลงสนามนัดสุดท้ายของสาย บี ผลปรากฏว่า ติมอร์เลสเต เสมอ สิงคโปร์ 1-1 และอีกคู่ เวียดนาม ชนะ เมียนมาร์ 2-0

 สรุปว่า ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ประกอบไปด้วย สาย เอ อันดับที่ 1 ไทย อันดับที่ 2 ลาว (เจ้าภาพ) ส่วนสาย บี อันดับที่ 1 เวียดนาม อันดับที่ 2 มาเลเซีย 

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ จะมีขึ้นในพุธวันที่ 2 ก.ย. 58 คู่แรก ไทย พบ มาเลเซีย เวลา 16.00 น. และคู่ถัดมา เวียดนาม พบ ลาว (เจ้าภาพ) เวลา 19.00 น. ที่สนามลาว เนชันแนล สเตเดี้ยม