มิเกล อาร์เตต้า กองกลาง อาร์เซน่อล มั่นใจ "ปืนใหญ่" จะลบฝันร้ายจากเกมบุกพ่าย ดินาโม ซาเกร็บ ด้วยการบุกไปเอาชนะ เชลซี ที่แสตมฟอร์ด บริดจ์ วันเสาร์นี้ รับผิดหวังที่บุกไปแพ้ที่ โครเอเชีย ทั้งที่น่าจะเป็นฝ่ายเอาชนะได้

มิเกล อาร์เตต้า มิดฟิลด์ชาวสเปน ของ อาร์เซน่อล ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า ทีมจะลบฝันร้าย และความผิดหวังที่บุกไปแพ้ ดินาโม ซาเกร็บ 1-2 ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา ด้วยการบุกไปเอาชนะ เชลซี ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม แสตมฟอร์ด บริดจ์ วันเสาร์ที่ 19 ก.ย. นี้

อาร์เตต้า กล่าวกับ เดอะ ซัน หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์เล่มดังของอังกฤษว่า "มันเป็นเกมใหญ่ในวันเสาร์นี้ และเราก็จะต้องตอบโต้อย่างเร็วที่สุด มันเป็นสิ่งที่เราถนัดอยู่แล้ว เราเคยทำได้มาก่อน และรู้ว่าเกมในวันเสาร์นี้มันจะแตกต่างออกไป เราต่างผิดหวังกับผลงานเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา และบางครั้งมันก็ดีที่คุณต้องผิดหวังบ้าง เพราะมันจะทำให้คุณหาทางที่จะตอบกลับสิ่งเหล่านั้น"

"ตอนนี้เราจะต้องกอบกู้สิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ และเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับเกมกับ เชลซี เพราะเรามีเวลาแค่ 48 ชั่วโมง หลังกลับมาสนามซ้อมอีกครั้งนับตั้งแต่เดินทางไป โครเอเชีย เราจะพยายามพัฒนาแนวคิดในแง่ดีสำหรับเกมในนัดหน้า เพราะเราสามารถเอาชนะ เชลซี ได้"

นอกจากนั้น กองกลางวัย 33 ปี ยังเผยถึง อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือของทีมที่เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นหลายรายในเกมพ่าย ดินาโม ซาเกร็บ ด้วยว่า "พวกเรายังมีเกมอีกหลายนัดที่จะมาถึง และโปรแกรมแข่งขันก็ถี่ยิบ ผู้จัดการทีมตัดสินใจที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เขาเป็นคนจัดการทีม และเขามักจะพยายามนำเสนอทีมที่ดีที่สุด และมีสมดุลที่ดีเสมอในทุกๆ เกม"

"ทีมที่เรามีอยู่ในตอนนี้ดีพอที่จะเอาชนะ ดินาโม ซาเกร็บ ได้ ดังนั้นเราต่างก็ผิดหวังที่ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เราน่าจะขึ้นนำ 3-0 ตั้งแต่ใน 20 นาทีแรก แต่มันกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นหลังจากเราเสียประตูในโอกาสแรกที่พวกเขามี เมื่อตามหลัง 0-1 เราก็ยังมีโอกาสที่จะกลับมาสู่เกม แต่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ มาโดนใบแดงทำให้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด"

"ด้วย 10 คนที่เรามีมันเสี่ยง และจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงระบบ เราต้องเปลี่ยนมาเล่นแนวรับ 3 คน และพยายามกลับมาสู่เกม แต่ก็มาเสียประตูที่ 2 จากลูกตั้งเตะ และนั่นมันจึงทำให้เราไม่สามารถกลับมาได้ ตอนนี้เรารู้ว่ามันไม่มีที่ว่างให้ผิดพลาดอีกแล้วใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เรามีประสบการณ์แบบเดียวกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ตอนที่เราแพ้ในเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มให้ ดอร์ทมุนด์ แต่เราก็กลับมาเป็นรองจ่าฝูงของกลุ่มได้ เห็นได้ชัดว่าผลการแข่งขันนี้มันสร้างแรงกดดันให้กับเรา แต่เราก็ยังหวังที่จะเข้ารอบได้" กองกลางชาวเมืองกระทิงดุ ทิ้งท้าย