แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ อดีตกุนซือคนดัง ระบุ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ทำพลาดมหันต์ที่ดร็อป ปีเตอร์ เช็ก มือกาวจอมเก๋าเป็นตัวสำรองในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่พ่าย โอลิมเปียกอส 2-3 ชี้ มันทำให้นักเตะเข้าใจความสำคัญของเกมผิดพลาด พร้อมจวก เมซุต โอซิล สตาร์ดังของทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" ที่ขวางคู่แข่งไม่ดีจนทำให้ทีมเสียประตูแรก

 แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ อดีตผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส สโมสรชั้นนำแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่า อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซน่อล ทำพลาดที่ไม่ใช้งาน ปีเตอร์ เช็ก ผู้รักษาประตูประสบการณ์สูงเป็นตัวจริงในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ นัดที่แพ้ โอลิมเปียกอส 2-3 คารัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อวันอังคารที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา เพราะมันเป็นการทำให้นักเตะในทีมเข้าใจความสำคัญของเกมผิดพลาด

เวนเกอร์ เลือกใช้งาน ดาบิด ออสปิน่า เป็นตัวจริงในเกมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังขา และสุดท้ายมือกาวชาวโคลอมเบียก็เล่นผิดพลาดจนมีส่วนทำให้ทีมต้องแพ้ในศึกชิงถ้วย "บิ๊กเอียร์" เป็นนัดที่สองในฤดูกาลนี้ รวมถึงส่งผลให้โอกาสเข้ารอบริบหรี่สุดๆ หลังยังเก็บแต้มไม่ได้เลย

 เร้ดแน็ปป์ เขียนผ่านคอลัมน์ของตัวเองใน ลอนดอน อีฟนิ่ง สแตนดาร์ด สื่อท้องถิ่นของเมืองผู้ดีว่า "การพัก เช็ก มันเป็นการส่งข้อความที่ผิดพลาดให้กับนักเตะที่เหลือทุกคนในทีม เราเคยเห็นมาแล้วหลายต่อหลายครั้งในการแข่ง แคปปิตอล วัน คัพ ที่บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ต้องตกรอบหลังทำการเปลี่ยนแปลงหลายตำแหน่ง เพราะมันทำให้นักเตะคิดไปเองว่า -เกมวันนี้มันไม่ได้สำคัญมากถึงขนาดนั้น-"

 "มันเป็นการทำให้ อาร์เซน่อล ไม่คงเส้นคงวา เหมือนที่เราเห็นกันหลายครั้งในฤดูกาลนี้ เมื่อทุกอย่างเข้าทางพวกเขา พวกเขาจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยม พวกเขาเล่นได้สุดยอดมากในเกมไปเยือน เลสเตอร์ (ชนะ 5-2) แต่มีบ่อยครั้งที่พวกเขาโดนทำลายได้อย่างง่ายดาย" กุนซือวัย 68 ปี ระบุ

อดีตนายใหญ่ "ไก่เดือยทอง" กล่าวตำหนิ เมซุต โอซิล มิดฟิลด์ตัวเก่งของ "ไอ้ปืนใหญ่" ด้วย ที่เข้าไปขวางจังหวะการเล่นของนักเตะ โอลิมเปียกอส ได้ไม่ดี จนทำให้ อาร์เซน่อล เสียประตูแรก "ลองดู เมซุต โอซิล ในตอนที่พยายามบล็อกจังหวะลูกแรกดูสิ มันน่าสมเพชสิ้นดี บอลมันมาอยู่ริมกรอบเขตโทษ และเขาก็เข้าไปหาแบบลังเล ถ้ามีใครบางคนกำลังจะยิงจากบริเวณริมกรอบเขตโทษแล้วล่ะก็ คุณก็ย่อมอยากให้กองกลางหรือกองหลังของคุณทำทุกอย่างเพื่อทีม ไม่ว่าคุณจะมีค่าตัว 4 ล้านปอนด์ หรือ 42 ล้านปอนด์ก็ตาม"