ตราหมีสถิติข่ม!ส่งกรีซมันน์ยิง-ราชันจัดโด้ซัดทุบสถิติ
Posted 04/10/2015 by siamsport
"ตราหมี" แอตเลติโก้ มาดริด มาในระบบ 4-4-2 วาง เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงล่าตาข่ายคู่กับ อองตวน กรีซมันน์ ฟาก "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ลุ้น แกเร็ธ เบล คืนสนามเกมนี้ แนวรุกวาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลุ้นซัดประตูที่ 324 เพื่อขึ้นนำเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของ "ราชันชุดขาว"
ปรีวิวฟุตบอลลา ลีกา สเปน
วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2558
แอต.มาดริด - เรอัล มาดริด
สนาม : เอสตาดิโอ บิเซนเต้ กัลเดร่อน, (มาดริด)
ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์, (เวลา : 01.30 น.)
สำหรับคู่นี้เจอกัน 8 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ปรากฏว่า แอต.มาดริด แพ้แค่เกมเดียวเท่านั้นเอง ที่เหลือตราหมี ชนะ ไป 4 และ เสมอ 3 นัด)
นอกจากนั้น เรอัล มาดริด ไม่ชนะเลยใน 5 เกมหลังสุดที่มาเยือนถิ่นบิเซนเต้ กัลเดร่อน รวมทุกรายการ (เสมอ 2 แพ้ 3 นัด) หากพวกเขายังไม่ชนะในเกมนี้ จะถือเป็นสถิติแย่ที่สุดเทียบเท่าในการมาเยือนที่นี่เลย (ช่วงปี 1956-63)
ขณะเดียวกัน เรอัล มาดริด ยิงไม่ได้เลยใน 4 เกมหลังสุดที่มาเยือนกัลเดร่อน (รวมทุกรายการ) ซึ่งเป็นสถิติแย่ที่สุดในการมาเล่นที่นี่
อย่างไรก็ตาม แอต.มาดริด ชนะแค่เกมเดียวจาก 14 เกมหลังสุดที่เปิดบ้านพบ เรอัล มาดริด (นับเฉพาะในลา ลีกา เสมอ 3 แพ้ 10 นัด) แต่เกิดขึ้นในหนล่าสุด (4-0)
ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์คนเก่งชาวอาร์เจนไตน์ของ ''ตราหมี'' แอต.มาดริด พาทีมเก็บไปแล้ว 12 คะแนนจากการลงสนาม 6 นัด ในลา ลีกา
ความพร้อมก่อนเกมมาดริด ดาร์บี้ ทางตราหมี ไม่มี โกเก้ กองกลางตัวรุกที่แม้จะหายเจ็บกล้ามเนื้อ กลับมาลงซ้อมได้แล้วเมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ฟิตพอ ทำให้ต้องใช้งาน ซาอูล ญีเกซ เล่นแทน
รูปแบบการเล่นใช้สูตร 4-4-2 วาง ฆวนฟราน ตอร์เรส, โฮเซ่ คีเมเนซ, ดีเอโก้ โกดิน และ ฟิลิเป้ ลุยส์ กาสมีร์สกี้ ลงยืนในแนวรับ
ขยับมาดูตรงกลางวาง ติอาโก้ เมนเดส คุมเกมกับ กาบี เฟร์นานเดซ (กัปตันทีม) ส่วนคู่หน้าให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงล่าตาข่ายกับ อองตวน กรีซมันน์
ทางด้าน ''ราชันชุดขาว'' เรอัล มาดริด เก็บไป 14 คะแนนจากการลงสนาม 6 นัด ในลา ลีกา โดยเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเขาทำศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ บุกไปเอาชนะ มัลโม่ ถึงสวีเดน 2-0 จากการเหมาทำคนเดียวสองประตูของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ส่งผลให้ปีกดาวดังวัย 30 ปี ทำสถิติยิงถึง 501 ประตูในอาชีพ และ 323 ประตูกับ ''โลส บลังโกส'' จากการลงสนาม 308 นัด ทาบสถิติของ ราอูล กอนซาเลซ ตำนานแห่งถิ่นซานติอาโก้เบร์นาเบว ได้แล้ว
สภาพทีมของเรอัล มาดริด เกมนี้ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือคนดังจะต้องขาด เปเป้ ปราการหลังที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วน ดานีโล่ แบ็กขวาจอมบุกทีมชาติบราซิล ยังคงต้องแยกซ้อม ชวดบู๊เช่นเดียวกันกับ ฮาเมส โรดริเกซ สตาร์ทีมชาติโคลอมเบีย ที่อยู่ระหว่างเรียกความฟิต หลังเพิ่งหายเจ็บต้นขา
อย่างไรก็ตามได้ตัว แกเร็ธ เบล ดาวเตะทีมชาติเวลส์ หายเจ็บน่อง กลับมาลงซ้อมได้แล้ว รวมถึง เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังกัปตันทีมที่ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บหัวไหล่ซ้าย โดยทั้งสองรายต้องรอเช็กความฟิตช่วงเช้าวันอาทิตย์ว่าจะพร้อมเล่นตัวจริง หรือไม่
พร้อมกันนั้น ราฟา ยังได้ดึงผู้เล่นจากทีมเรอัล มาดริด กาสตีย่า เข้ามาร่วมซ้อมด้วยทั้ง บอร์ฆา มาโยราล และ มาร์โกส โยเรนเต้
ระบบการเล่นในเกมนี้ใช้สูตรเก่ง 4-2-3-1 ให้ เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีมกลับมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ราฟาแอล วาราน โดยมี ดาเนียล การ์บาฆาล ประจำการแบ็กขวา อีกฟากเป็นหน้าที่ของ มาร์เซโล่ วิเอยร่า
ขุมกำลังในแดนกลางวาง ลูก้า โมดริช คุมเกมกับ โทนี่ โครส ปล่อยให้ แกเร็ธ เบล, อีสโก้, และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ร่ายเกมรุกสนับสนุน คาริม เบนเซม่า กองหน้าตัวเก่งเข้าทำประตู
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
แอต.มาดริด : ยาน โอบลัค - ฆวนฟราน ตอร์เรส, โฮเซ่ คีเมเนซ, ดีเอโก้ โกดิน, ฟิลิเป้ ลุยส์ กาสมีร์สกี้ - ซาอูล ญีเกซ, ติอาโก้ เมนเดส, กาบี เฟร์นานเดซ (กัปตันทีม), โอลีเบร์ ตอร์เรส - เฟร์นานโด ตอร์เรส, อองตวน กรีซมันน์
เรอัล มาดริด : เกย์ลอร์ นาวาส - ดาเนียล การ์บาฆาล, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), ราฟาแอล วาราน, มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส - แกเร็ธ เบล, อีสโก้, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า
ผู้ตัดสิน : อัลเบร์โต้ อุนเดียโน่ มาเยนโก้
เกร็ดที่น่าสนใจก่อนเกม
- แอต.มาดริด แพ้แค่เกมเดียวจาก 8 เกมหลังที่พบกับ เรอัล มาดริด รวมทุกรายการ (ชนะ 4 เสมอ 3) แต่เกิดขึ้นในการพบกันหนล่าสุด (แพ้ 0-1 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก)
- เรอัล มาดริด ไม่ชนะเลยใน 5 เกมหลังที่มาเยือนกัลเดรอนรวมทุกรายการ (เสมอ 2 แพ้ 3) หากพวกเขายังไม่ชนะในเกมนี้ จะถือเป็นสถติแย่ที่สุดเทียบเท่าในการมาเยือนที่นี่เลย (ช่วงปี 1956-63)
- เรอัล มาดริด ยิงไม่ได้เลยใน 4 เกมหลังที่มาเยือนกัลเดรอนรวมทุกรายการ แย่ที่สุดในการมาเล่นที่นี่
- แอต.มาดริด ชนะเกมเดียวจาก 14 เกมหลังที่เปิดบ้านพบ เรอัล มาดริด นับเฉพาะในลา ลีกา (เสมอ 3 แพ้ 10) แต่เกิดขึ้นในหนล่าสุด (4-0)
-ทีมตราหมีแพ้ไปแล้ว 2 จาก 6 เกมในซีซั่นนี้ โดยตลอด 3 ฤดูกาลก่อนหน้าที่ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ คุมทีมเต็มซีซั่นนี้เขายังไม่เคยแพ้เลยในช่วงเดียวกัน
- มีแค่ครั้งเดียวก่อนหน้านี้ที่ เรอัล มาดริด เสียแค่ลูกเดียวเมื่อผ่านไป 6 เกม (1997/98)
- เรอัล มาดริด เสียประตูตลอด 7 เกมหลังสุดที่มาเยือนที่นี่ แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1982 เลย (8)
- แอต.มาดริด เป็นทีมที่พังตาข่ายจากนอกเขตโทษมากที่สุดในฤดูกาลนี้ (3)
- ราชันชุดขาว เป็นทีมที่ยิงเข้ากรอบมากที่สุดในฤดูกาลนี้ (52) มากกว่า แอต.มาดริด (26) ถึงเท่าตัว
- เรอัล มาดริด ไม่แพ้ใน 7 เกมหลังที่ไปเยือนในลีก (ชนะ 6 เสมอ 1)
- เรอัล มาดริด เสมอไปแล้ว 2 เกมในฤดูกาลนี้ด้วยผล 0-0, มากกว่าเมื่อเทียบกับ 3 ฤดูกาลที่ผ่านมาซะอีก (ครั้งเดียว)
- มีแค่ โนลีโต้ (8) และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (6) ที่มีส่วนร่วมกับประตูของทีมมากกว่า อองตวน กรีซมันน์ ในฤดูกาลนี้ (5. ยิง 3 แอสซิสต์ 2)
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงได้ 5 จาก 7 เกมหลังที่เจอกับ แอต.มาดริด (8 ประตู)
- คาริม เบนเซม่า ยิงไป 4 จาก 6 ลูกหลังสุดที่ทีมมำได้ในลา ลีกา
- ในบรรดาผู้รักษาประตูที่ลงเฝ้าเสาทั้ง 6 นัด, เกย์ลอว์ นาวาส เป็นคนที่มีเปอร์เซ็นต์เซฟดีที่สุด (93.3%)
- ติอาโก้ เมสเดส ยิงไปแล้ว 2 ลูกในการพบกับ เรอัล มาดริด มีแค่การเจอกับ มาลาก้า (3) ที่เขายิงได้มากกว่า
- เรอัล มาดริด เป็นทีมที่มีเปอร์เซ็นต์ผ่านบอลเข้าเป้าดีที่สุดในลีก (88.2%) ขณะที่ แอต.มาดริด รั้งอันดับ 4 (81.1%)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ราชันเฮ! ราฟาคอนเฟิร์ม"รามอส-เบล"ฟิตฉะตราหมี
นายใหญ่ราชันชุดขาวยืนยันสองดาวเตะคนสำคัญฟิตพอช่วยทีมทำศึกมาดริดดาร์บี้ในคืนนี้
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อดเซิ้งบอลโลก 2026 ! ฟีฟ่า, ยูฟ่า มติแบน รัสเซีย ต่อไป
ผลงาน 5 ดาว!แฟน ฟิออเรนติน่า โหวต เด เคอา แข้งยอดเยี่ยมตุลาคม
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์