ผ่านไปเรียบร้อยแล้วสำหรับเกมคู่บิ๊กแมตช์คืนวันอังคาร หลัง "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล เปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เชือดทีมแกร่งจากเมืองเบียร์อย่าง "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ไปอย่างสวยสดงดงาม ทั้งที่ก่อนเกมเป็นทางทีมเยือนที่เป็นต่อมากกว่า และรูปเกมที่ บาเยิร์น มิวนิค เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องชม อาร์เซนอล กับการเล่นรับอย่างมีวินัย และฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดส่วนบุคคลของทางแข้งบาเยิร์นเอง สุดท้ายผลลัพธ์สองประตูและสามคะแนนแรกของพวกเขาจะทำให้มีแรงกระตุ้นในการลุ้นเข้ารอบต่อไปได้

ซึ่งทาง "เดอะ มิร์เรอร์" สื่อชื่อดังของอังกฤษ ได้รวบรวม 6  เหตุการณ์สำคัญในเกมนี้ มีอะไรบ้างไปติดตามกัน!

1. แฟนเสือใต้ประท้วงเข้าสนามช้าเหตุตั๋วแพง

        เหตุการณ์นี้เป็นทางแฟนบอลทีมเยือนรวมตัวประท้วงเนื่องจากไม่พอใจเรื่องค่าตั๋วที่สูงลิ่วเกินเหตุ โดยค่าตั๋วนั้นมีราคาถึง 64 ปอนด์ (ประมาณ 3,520 บาท) และในช่วง 5 นาทีแรกของการแข่งขัน พวกเขาไม่เข้ามานั่งในที่นั่งของตัวเอง แต่กลับวางป้ายขนาดใหญ่ไว้แทน โดยมีข้อความว่า "ค่าตั๋ว 64 ปอนด์ แต่กลับไม่มีแฟนบอล ฟุตบอลมันไม่ใช่เรื่องของเงิน" หลังผ่านไป 5 นาที แฟนบาเยิร์นก็เข้ามานั่งตามปกติพร้อมเสียงปรบมือต้อนรับของแฟนเจ้าบ้าน

2. อุปสรรคเรื่องอายุไม่เป็นปัญหากับ "อลอนโซ่"

        มิดฟิลด์ตัวโฮลด์บอลสัญชาติสแปนิช จะมีอายุ 34 ปีแล้วในเดือนหน้า แต่ในเกมนี้เขาแสดงให้เห็นว่า เขาคือผู้เล่นที่มีคลาสที่สุดในแผงแดนกลาง หลังจากเจ้าตัวโดนถอดออกไปช่วงนาทีที่ 70 เกมแดนกลางของบาเยิร์นอ่อนประสิทธิภาพลงทันที

3. นอยเออร์ จอมเซฟช็อตมหัศจรรย์

         ถ้าไม่นับลูกที่ออกมาตัดบอลพลาดทำให้ทีมเสียประตูแรก ฟอร์มการเล่นของนายทวารเบอร์ 1 ของโลกยังบอกได้ว่า สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แฟนบอลได้เห็นกันอีกครั้ง ช็อตการเซฟลูกโหม่งจ่อๆที่น่าจะเป็นประตูเหลือเกิน ของ ธีโอ วัลค็อตต์ ในครึ่งแรก และลูกยิงของ เมซุต โอซิล ถึงแม้จะข้ามเส้นไปแล้วแต่ปฏิกริยาของเจ้าตัวจากการยืนที่เสาแรกแล้วพุ่งมาควักบอลออกจากเส้นประตูที่เสาสอง ก็บ่งบอกได้ถึงความสุดยอดของเขาในเกมนี้

 
4. อาร์เซนอลกับอาการบาดเจ็บยังเป็นของคู่กัน

        อารอน แรมซี่ย์ เป็นแข้งรายล่าสุดที่ได้รับบาดเจ็บแฮมสตริงที่คอยตามหลอกหลอนเขามาโดยตลอด ซึ่งเคยบาดเจ็บตรงจุดนี้ถึง 3 ครั้งเมื่อซีซั่นก่อน แฟนๆ "เดอะ กันเนอร์ส" ต้องส่งแรงใจไปให้พ่อหนุ่มชาวเวลส์ให้กลับมาช่วยทีมได้โดยเร็วไว

5. หรือ ชิรูด์ จะหันมาเอาดีด้านการเป็นซุปเปอร์ซับของทีม ?

        นี่เป็นนัดที่ 4 รวมทุกรายการแล้วที่หัวหอกรูปหล่อลุกจากม้านั่งสำรองลงมาเพิ่มชื่อตัวเองลงในสกอร์บอร์ด แต่ในสี่ลูกดังกล่าว คงไม่มีประตูไหนสำคัญเท่ากับลูกยิงนำ 1-0 ที่ใช้หน้าของตัวเองสัมผัสบอลเข้าประตูไป และเป็นการจุดประกายทำให้ทีมคว้าสามแต้มแรกในเกมยุโรปได้อีกด้วย

6. นอยเออร์ว่าแจ่มแล้ว "เช็ก" ก็โชว์ฟอร์มเด็ดไม่แพ้กัน

        เซฟไม่มีพักเช่นกันสำหรับนายทวารวัย 33 ปี ลูกยิงของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า, ดั๊กลาส คอสต้า และ อาร์ตูโร่ วิดัล ก็ถือว่าสมควรแก่การเป็นประตูแล้ว แต่ก็ไม่สามารถส่งบอลเข้าไปกระทบตาข่ายได้ เป็นเพราะว่า "เจ้าของแมนออฟเดอะแมตช์" ในเกมนี้ยืนตะหง่านคอยปฏิเสธบรรดาลูกยิงอยู่นั่นเอง