"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม่ทัพช้างศึกไทย พร้อมทีมงานสตาฟฟ์ เดินทางกลับถึงเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมเปรยว่าได้วิชาจากทีมแดนเมืองผู้ดีกลับมาปรับใช้กับทีมชาติไทยเพียบ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยถึงการเรียกนักเตะเข้าแคมป์เก็บตัว รวมถึงอาการของ "ตี๋-สินทวีชัย" มือกาวฉลามชล

หลังจากที่ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย พร้อมด้วยทีมงานสตาฟฟ์ ได้บินลัดฟ้าเพื่อไปศึกษาดูงานที่สโมสรเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้เดินทางกลับมาถึงเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อย ด้วยสายการบิน ทีจี 917 เมื่อเวลา 16.10 น. ณ ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ

โดยทาง แม่ทัพช้างศึกไทย ได้เผยถึงการไปศึกษาดูงานในครั้งนี้ว่า "พวกเราได้ความรู้กลับมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบการฝึกซ้อมที่ได้มาตรฐานและเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬา รวมถึงเรื่องการสร้างอะคาเดมี่สำหรับเยาวชน เพื่อนำกลับมาปรับปรุงใช้กับทีมชาติไทยของเรา"

พร้อมกันนี้ "ซิโก้" ยังได้เผยถึงการนำความรู้มาปรับใช้กับทีมชาติไทย ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย อีกว่า "เราคงเน้นไปที่การสร้างสมรรถภาพของสภาพร่างกายและระบบวิธีการเล่น รวมถึงลูกสูตรต่างๆ ที่สำคัญคือการที่จะวางแนวทางร่วมกันในการพัฒนาเยาวชนไทยให้ก้าวขึ้นไปในจุดที่สูงกว่านี้ แต่อย่างไรก็ตามยังต้องกลับมาปรึกษาหารือกันอีกที"

ขออุบเรื่องเก็บตัวรวมถึงอาการเดี๋ยง "ตี๋"

 
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสยามกีฬารายวัน ได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องการเรียกนักเตะมาเข้าแคมป์เก็บตัว ก่อนลงทำศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่ม เอฟ นัดที่ 5 ในเกมที่ต้องเปิดบ้านต้อนรับทีมชาติไต้หวัน ในวันที่ 12 พ.ย. 58 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งทาง "ซิโก้" ได้เปิดเผยว่า

"เราคงต้องปรึกษาหารือกันอีกทีในเรื่องของการเก็บตัว แต่ก็ได้มีการพูดคุยกันบ้างแล้ว ทว่ายังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นวันไหน แต่อย่างไรก็ตามน่าจะเดินทางไปเก็บตัวที่กิเลน วัลเล่ย์ เขาใหญ่ ซึ่งก็ต้องปรึกษากับทางผู้ใหญ่กันอีกที ส่วนเรื่องอาการบาดเจ็บของ "ตี๋" สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ก็เช่นกัน เราคงต้องรอดูอาการจนถึงวินาทีสุดท้าย หากไม่สามารถลงเล่นได้จริงๆ ก็ต้องเรียกคนอื่นเข้ามาแทน แต่ก็ยังไม่สามารถบอกได้เช่นกัน"