ในปีที่มีทีมแข็งแกร่งพุ่งขึ้นมามากมาย จะมีใครสามารถท้าทายหรือโค่นล้มสองยักษ์ผู้ผลัดกันยึดครองลีกสูงสุดเมืองกระทิงมายาวนานได้บ้างไหม?

ใครก็รู้ว่าเรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา คือมหาอำนาจแห่งลา ลีกา สเปน

เนย์มาร์, คริสเตียโน โรนัลโด้, แกเร็ธ เบล, ลิโอเนล เมสซี, อิสโก้ ฯลฯ แฟนฟุตบอลทั่วโลกแทบจะทุกคนต่างมีนัดกับโทรทัศน์สักจอ(ในความสำคัญระดับ'พลาดไม่ได้')ในยามที่บรรดาแข้งพันล้านเหล่านี้ลงดวลกันใน เอล กลาซิโก้

สิบปีที่ผ่านมา สองเต้ยผลัดกันคว้าแชมป์ลีกสเปนแบบไม่แบ่งใคร จะเว้นก็เพียงฤดูกาล 2013-14 ที่แอตเลติโก้ มาดริด อาจหาญเบียดบาร์เซโลนาลงไปเป็นรองแชมป์ได้

แล้วจะมีใครไหม ที่ล้มล้างการปกครองสีขาว-เลือดหมู-น้ำเงิน ได้? นั่นคือคำถามที่ต้องเคยผ่านมาในหัวคนดูบอลอยู่บ้าง

ก็ใครจะไม่ชอบความสูสีคู่คี่กันเล่า! พรีเมียร์ลีกชนะใจคนได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะทีมดัง ๆ โดนทีมรองบ่อนเชือดอยู่แทบทุกสัปดาห์ กระทั่งเอเรดิวิซี เนเธอร์แลนด์ ยังมีอาแยกซ์, พีเอสวี, ฟเยนูร์ด, ทเวนเต้ แย่งแชมป์กันวงใหญ่

ข้ามมาลา ลีกา ผู้ต้องสงสัยในคดีก่อกบฎล้มยักษ์มักไม่พ้นแอตเลติโก้ มาดริด, บาเลนเซีย, เซบีญา และ แอตเลติก บิลเบา

ภายใต้การนำทัพของดิเอโก้ ซิเมโอเน ทีมตราหมีแห่งเมืองหลวงทำผลงานได้แข็งแกร่งมาหลายปี แต่แอตเลติโก้ มาดริด ยังขาดพลังเงินในระดับเดียวกับที่เรอัลและบาร์ซามี

ถึงอย่างนั้น ฝีมือการหาเพชรแท้ในหมู่ดาวรุ่งนั้นถือว่าไม่แพ้ใคร ราดาเมล ฟัลเกา, เซร์ฆิโอ อเกวโร, ดิเอโก้ คอสต้า และ เจา มิรันด้า ต่างได้โอกาสเปล่งประกาย แต่ก็ต่างย้ายออกไปเมื่อมีข้อเสนอจากทีมใหญ่เข้ามา

ณ บัดนี้ ลูเซียโน เวียตโต้, แจ็คสัน มาร์ติเนซ, โกเก้ และ อองตวน กรีซมันน์ ต่างก็เป็นองค์ประกอบที่แข็งแกร่งของแอตเลติโก้ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพวกเขาจะก้าวข้ามสองยักษ์ไปได้หรือไม่

ในขณะที่บาเลนเซียที่ได้ฐานการเงินแข็งแกร่งจากปีเตอร์ ลิม เจ้าของทีมชาวสิงคโปร์ อาจจะออกสตาร์ทไม่สวยหรู ปัจจุบันอยู่ถึงอันดับ 7 แต่ผู้เขียนเชื่อว่าพวกเขาจะเครื่องร้อนในอีกไม่นาน

ภายใต้การคุมทีมของนูโน เอสปิริโต ซานโต บาเลนเซียได้ตัวดาวรุ่งพรสวรรค์สูงมาร่วมทัพไม่น้อย พวกเขาเพียงแต่ต้องเก็บของดีเหล่านี้เอาไว้กับทีมให้ได้ บวกกับเซ็นสัญญาผู้เล่นคลาสดี ๆ สักคนสองคน ไอ้ค้างคาวจะมีโอกาสขึ้นสู่ฐานะทีมยักษ์อีกครั้ง

บาเลนเซียถือว่าเล่นได้เพลินตาที่สุดในลา ลีกา ทีมหนึ่ง แต่ความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับผลสกอร์หลังจบเกม

ซูฟิยาน เฟกูลี, ปาโก้ อัลกาเซร์, ซะกะรียา บัคกาลี และ ปาโบล ปิอัตติ เหล่านี้คือผู้เล่นที่สามารถก้าวขึ้นสู่ระดับโลกได้ในสักวัน และผลประโยชน์จะตกอยู่กับทีมในระยะยาว

หันมาดูเซบีญาในอันดับ 11 ออกตัวเป๋ขนาดนี้เรื่องแชมป์คงพูดลำบาก ผู้เล่นของพวกเขาถือว่ามีคุณภาพและทดแทนกันได้พอสมควร แต่การจะเป็นยอดทีมในลา ลีกา ก็จำเป็นต้องมีผู้เล่นระดับโลกบ้าง อย่างที่เราเห็นกันในเรอัล มาดริด และบาร์เซโลนา เมสซีและโรนัลโด้คือหลักประกันสำคัญในการคงฐานะเต้ยแห่งลีกกระทิงเอาไว้

อีกทีมที่กำลังเขย่าลา ลีกา ให้สะเทือน คือเซลต้า บิโก้ พวกเขาทุบบาร์เซโลนา 3-0 ไปแล้ว บางคนอาจคิดว่าเป็นจังหวะผีจับยัดหรือเปล่า แต่เมื่อดูผลงานในเกมอื่นต้องบอกว่าไม่ใช่เล่น ๆ เช่นกัน

ขณะนี้พวกเขาอยู่ในอันดับสาม ด้วยผู้เล่นอย่างโนลิโต้, ยาโก้ อัสปาส, ดาเนียล วาส และปาโบล เอร์นานเดซ พวกเขาดูแข็งแกร่งไม่เบา - ว่าแต่จะแกร่งอีกนานไหม?

ผู้เขียนเรียนตามตรงว่าไม่ใคร่จะเชื่อนัก พวกเขาต้องการผู้เล่นระดับโลกสักคนหากจะอยู่ยั่งยืนในลา ลีกา และขณะนี้ก็ไม่มีสักคนที่ดีพอจะพาพวกเขาก้าวไปอีกระดับ

ระบอบการปกครองมาดริด-บาร์ซา น่าจะคงอยู่ไปอีกสักพัก แต่ทีมอย่างบาเลนเซียและแอตเลติโก้ มาดริด คงไม่ยอมนิ่งเฉยแน่ การกบฎอาจไม่สำเร็จลงในฤดูกาลนี้ แต่ขอให้รอดูฤดูกาลหน้า กุญแจสำคัญจะอยู่ที่การเก็บตัวผู้เล่นสำคัญไว้กับทีมของทั้งสอง อย่าได้ยอมให้ทีมยักษ์ใหญ่มาคว้าไป

หากทำได้ อีกไม่นานเราจะได้เห็นวงแย่งแชมป์ขนาด 4-5 ทีมในลา ลีกา ส่วนวันนี้ เราคงทำได้เพียงตื่นตะลึงกับพลังทำลายล้างของสองเต้ยต่อไป