ร็อบบี้ ซาเวจ กูรูลูกหนัง อดีตฮาร์ดแมน ตอกกลับ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซี ที่ด่าเขาว่า เป็นนักเตะไม่มีคุณงามความดี ไม่มีค่าไปวิจารณ์คนอื่น ชี้ฟุตบอลเป็นเรื่องของการแสดงความเห็น และทุกคนมีสิทธิเท่ากัน ไม่ใช่เฉพาะนักเตะแชมป์โลกถึงจะวิจารณ์คนอื่นได้ และในสายงานแล้ว นักข่าว-นักวิจารณ์ ก็ถูกจ้างมาแสดงความเห็น

ร็อบบี้ ซาเวจ อดีตกองกลางขาโหดชาวเวลส์ และกูรูลูกหนังคนดัง ตอบโต้ จอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีมเชลซี แล้ว กรณีโดน "เจที" ศอกกลับว่า ยอมรับเสียงวิจารณ์ของนักวิจารณ์หลายๆ คน แต่ไม่มี ซาเวจ อยู่ในนั้น เพราะไม่ได้ก่อคุณงามความดี หรือ ประสบความสำเร็จอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสมัยเป็นนักเตะ ชี้ เทอร์รี่ คิดผิดแล้ว เพราะแทบทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็นกันทั้งนั้น

ซาเวจ นั่งเก้าอี้นักวิจารณ์เกมให้กับ "บีที สปอร์ต" และตำหนิติติง เจที ที่ตอบโต้แบบเจ็บแสบว่า เขาสนใจแค่เสียงวิจารณ์ของอดีตนักเตะที่ประสบความสำเร็จอย่าง แกรี่ เนวิลล์, เจมี่ คาราเกอร์ หรือ ริโอ เฟอร์ดินานด์ แต่กับนักเตะอย่าง ซาเวจ ที่ไม่มีความสำเร็จ เค้าไม่สนใจจะฟัง และเก็บมาคิด โดย ซาเวจ นั้นเคยได้แชมป์ลีก คัพ กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ปี 2000 เท่านั้นที่เอาไปคุยได้

อดีตเด็กเยาวชน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดคว้าแชมป์เอฟเอ ยู คัพ ปี 1992 คลาสเดียวกับ เดวิด เบ็คแฮม เขียนลงคอลัมน์ตัวเองใน "เดอะ มิร์เรอร์" ว่า "จอห์น มีสิทธิแสดงความเห็น มันน่าละอายนะที่เขาคิดว่า 99 เปอร์เซ็นต์ของวงการฟุตบอล คนอย่างพวกเราที่ไม่เคยได้แชมป์ลีก หรือเหรียญแชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่มีสิทธิจะแสดงความเห็น"

"ตั้งแต่แฟนบอลธรรมดาไปจนถึงแชมป์โลก ฟุตบอลเป็นเรื่องของการแสดงความเห็น ผู้จัดการทีมเลือกนักเตะลงสนามจากความเห็นของเขาที่มีต่อนักเตะ ประธานสโมสรจ้า  และไล่ผู้จัดการทีมจากความเห็นในที่ประชุม นักข่าวและนักวิจารณ์เกมถูกจ้างมาแสดงความเห็นจากสิ่งที่พวกเขาเห็น"

"แฟนบอลในผับ, ในโรงเรียน, ในโรงงาน และในที่ทำงาน ถกเถียงเรื่องฟุตบอลกันทุกวัน ถ้าการวิพากษ์วิจารณ์สงวนไว้เฉพาะอดีตเพื่อนร่วมทีมที่เล่นฟุตบอลระดับสูง เกมฟุตบอลก็คงเข้ายุคมืด" ซาเวจ กล่าว