การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2558

เลสเตอร์ - แมนฯ ยูไนเต็ด

สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

ถ่ายทอดสด : ซีทีเอช สเตเดี้ยม 1 (เวลา 00.30 น.)

          เลสเตอร์ของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ บุกไปทะลวงนิวคาสเซิ่ล 3-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นการเก็บชัยชนะ 4 เกมรวดของพวกเขา

          ทีมจิ้งจอกยังทะยานขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงหลังจากที่ทั้งแมนฯ ซิตี้ และอาร์เซน่อลแพ้ทั้งคู่ โดยนำหน้าแมนฯ ยูไนเต็ด 1 คะแนน

          จุดแกร่งของเลสเตอร์อยู่ที่เกมรุก พวกเขาตะบันไปแล้วถึง 28 ตุง มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก

          ความพร้อมเกมนี้ทีมพร้อมใช้งาน เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าดาวซัลโวที่หายเจ็บสะโพก พร้อมลงล่าตาข่ายต่อไป

          ตอนนี้วาร์ดี้ยิงประตูมาติดต่อกัน 10 เกมรวด เทียบเท่ากับสถิติเดิมของ รุด ฟาน นิสเตลรอย ถ้ายิงได้อีกในเกมนี้จะแซงขึ้นไปเป็นเจ้าของสถิติแต่เพียงผู้เดียว

          ในส่วนของตำแหน่งอื่นๆ คงจะยึดมั่นกับทีมชุดเดิมๆ ลงเล่นกันต่อไป เนื่องจากกำลังเข้าฝักนำโดย แดนนี่ ซิมป์สัน, โรเบิร์ต ฮูธ, ริยาด มาห์เรซ, เอนโกโล่ กองเต้ และ มาร์ค อัลไบรท์ตัน

          หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด นำทีมออกไปฝังวัตฟอร์ด 2-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยได้ประตูชัยนาทีสุดท้ายของเกมชนิดมีโชคเล็กๆ เมื่อ ทรอย ดีนี่ย์ ของวัตฟอร์ดทำเข้าประตูตัวเอง

          กลางสัปดาห์ทีมปีศาจแดงเล่นน่าผิดหวัง ทำได้แค่เสมอพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 0-0 ในบ้านเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก

          สภาพทีมนั้นจะวืดใช้งาน ฟิล โจนส์ และ อันเดร์ เอร์เรร่า ที่เจ็บข้อเท้าและกล้ามเนื้อหลังเข่าตามลำดับ

          ส่วน ไมเคิ่ล คาร์ริค ยังไม่หายเจ็บข้อเท้าที่เดี้ยงมาตั้งแต่ไปเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ ฟาก อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ ลุค ชอว์ ต่างก็พักยาวทั้งคู่

          ล่าสุดทีมเพิ่งปล่อย เจมส์ วิลสัน ออกไปให้ไบรท์ตันยืมตัวจนจบฤดูกาล

          รายของ เวย์น รูนี่ย์ และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ฟิตกลับมาลงเล่นได้ตั้งแต่เกมยุโรปแล้ว จะลงเป็นตัวหลักในแนวรุกตามเดิม

          ฆวน มาต้า ที่โดนจับนั่งในเกมกับพีเอสวีน่าจะกลับมาคืนตัวจริง เบียดเอา เมมฟิส เดอปาย หลุดไปนั่งสำรอง

          หลังบ้านยังยืนพื้นชุดเดิมที่เล่นได้เหนียวแน่น นำโดย คริส สมอลลิ่ง, ดาเล่ย์ บลินด์ และ ดาบิด เด เคอา

          รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

          เลสเตอร์ : แค สเปอร์ ชไมเคิ่ล - แดนนี่ ซิมป์สัน, โรเบิร์ต ฮูธ, เวส มอร์แกน, คริสเตียน ฟุคส์ - ริยาด มาห์เรซ, แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์, เอนโกโล่ กองเต้, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ - เจมี่ วาร์ดี้

          แมนฯ ยูไนเต็ด : ดา บิด เด เคอา - มัตเตโอ ดาร์เมียน, คริส สมอลลิ่ง, ดาเล่ย์ บลินด์, มาร์กอส โรโฮ - มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - ฆวน มาต้า, เวย์น รูนี่ย์, เจสซี่ ลินการ์ด - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

          ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน

          เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจก่อนเกม

 - เกมนี้ เจมี่ วาร์ดี้ มีลุ้นทำสถิติยิงประตูติดต่อกันมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยตอนนี้เขาซัดไปแล้ว 10 เกมติดเท่ากับเจ้าของสถิติ รุด ฟาน นิสเตลรอย
 - แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 10 จาก 11 นัดหลังสุดที่พบ เลสเตอร์ ในพรีเมียร์ลีก แต่หากย้อนกลับไปในโปรแกรมนี้เมื่อซีซั่นก่อน ทัพจิ้งจอกเอาชนะ 5-3
 - เลสเตอร์ กลายเป็นเพียงทีมเดียวในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่พลิกจากตามหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด 2 ประตู แล้วกลับมาเอาชนะได้ 5-3 ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมื่อปีก่อน
 - มีประตูเกิดขึ้นถึง 18 ลูก จาก 4 ครั้งหลังสุดที่ทั้งสองทีมพบกันในพรีเมียร์ลีก
 - เดอะ ฟ็อกซ์ส เป็นทีมที่โกงตายกลับมาเก็บแต้มจากสถานการณ์ที่มีสกอร์ตามหลังมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (10)
 - ผีแดงแพ้เพียงเกมเดียวจาก 9 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก (ชนะ 6 เสมอ 2 แพ้ 1)
 - ตอนนี้ วาร์ดี้ ซัดไป 13 ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ให้กับ เลสเตอร์ ซึ่งมันเทียบเท่ากับที่ดาวซัลโวของทัพจิ้งจอกทำได้จากการเล่นพรีเมียร์ลีกซี ซั่นเดียว (โทนี่ ค็อตตี้ ยิง 13 ลูก ในปี 1999-00)
 - ทัพจิ้งจอกยิงประตูได้ 14 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก และเป็นเพียงทีมเดียวที่ทำประตูได้ทั้ง 13 เกมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
 - จาก 13 เกมที่ เลสเตอร์ มีส่วนร่วมในฤดูกาลนี้ มีประตูเกิดขึ้นถึง 48 ลูก ซึ่งมากกว่าคู่แข่งขันอื่นๆ
 - ทั้งสองทีมเคยพบกันที่ฟิลเบิร์ต สตรีท ตอนที่ เลสเตอร์ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในพรีเมียร์ลีก ซึ่งต้องย้อนไปเมื่อตุลาคม 2000 โดยผีแดงถล่มไป 3-0 และคว้าแชมป์ได้ในปีนั้น ส่วนทัพจิ้งจอกจบอันดับ 13