"ค้างคาวไฟ" สุโขทัย เอฟซี เฮ รอดตัวเหตุขวดน้ำเข้าสนาม คณะอุทธรณ์กลับผลไม่เอาผิด แจงเป็นเหตุนักเตะยื่นขวดน้ำให้แฟนบอล ด้าน "เสี่ยบิ๊ก" วีรยุทธ โพธารามิก ผู้จัดการสโมสรบีบีซียู เอฟซี ไม่รอดถูกปรับด่ากรรมการ ยืนผลตาม แบน 1 นัดปรับ 2 หมื่นบาท ฝั่ง พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผู้จัดการทีมสโมสรเพื่อนตำรวจ ที่โดนเคสเดียวกัน ได้ลดโทษปรับเงินครึ่งหนึ่งเพราะเป็นการกระทำผิดครั้งแรก

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการกลั่นกรองอุทธรณ์โทษ นำโดย พล.โท.ธนา ธนา รำพึงกิจ , ไพบูลย์ อัญญะโพธิ์ และ วัลลภ เตชะกสิณ เลขาฯ ได้เปิดห้องประชุมสมาคมฟุตบอล พิจารณาการอุทธณ์ของสโมสรที่ถูกลงโทษจากเกม ดิวิชั่น 1 ในวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

โดยทางสุโขทัย เอฟซี ที่มีความผิดตามข้อบังคับฯ ผนวกที่ 7 ข้อที่4.4) ขว้างปาวัตถุ หรือ สิ่งของใด ๆ (ขวดน้ำ) ลงไปในสนามแข่งขัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท และผนวกที่ 7 ข้อ 5.3 (16) ความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน (16.1) บกพร่องในการตรวจเช็คหรือควบคุมมิให้กองเชียร์หรือผู้ชม นำขวดน้ำ เข้าไปในสนามหรืออัฒจันทร์ จะถูกปรับเงิน 30,000 บาท คณะอนุกรรมการกรั่นกรองอุทธรณ์โทษ มีผลพิจารราไม่มีความผิดเนื่องจากรณีดังกล่าว ขวดน้ำมาจากซุ้มมานั่งสำรอง ส่วนการขว้างขวดเป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากผู้เล่น สุโขทัย เอฟซี โยนหยอกล้อกับ แฟนบอล

ส่วนเกมเดียวกันที่ "เสี่ยบิ๊ก" นายวีรยุทธ โพธารามิก ผู้จัดการสโมสรบีบีซียู เอฟซี มีความผิดตามข้อบังคับฯ ผนวกที่ 7 ข้อที่ 2.7) ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยามต่อเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน ด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ห้ามทำหน้าที่ครั้งต่อไป และ ห้ามเข้าสนามแข่งขัน 1 นัดและปรับเงิน 20,000 บาท คณะอนุกรรมการอุทธรณ์โทษมีผลยืนโทษตามเดิมหลังจากที่ ผู้ตัดสิน และผู้ช่วยที่ 1 ให้การตรงกันว่า "เสี่ยบิ๊ก" นายวีรยุทธ โพธารา กระทำผิดจริง

ขณะกรณีของเกม ที่ เพื่อนตำรวจ บุกไปแพ้ เชียงใหม่ เอฟซี 0-1 พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผู้จัดการทีมสโมสรเพื่อนตำรวจ มีความผิดตามข้อบังคับฯ ผนวกที่ 7 ข้อที่ 2.7) ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม ต่อเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน ด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ห้ามทำหน้าที่ครั้งต่อไป และ ห้ามเข้าสนามแข่งขัน 2 นัดและปรับเงิน 40,000 บาท ซึ่งทาง สโมสรเพื่อนตำรวจยื่นอุทะรณ์ขอลดโทษปรับ ซึ่ง คณะอนุกรรมการพิจารราแล้ว่า พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ กระทำความผิดครั้งแรก และยังไม่เคยมีประวัติ ทำให้ลดโทษปรับเงิน 4 หมื่นบาม เหลือ 2 หมื่นบาท