Goal Thrill List : โปรตุเกส ทีมที่น่าเบื่อที่สุดในยูโร 2016?
Posted 12/12/2015 by goal.com
ทีมแดนฝอยทองต้องพึ่งพาเพียงคริสเตียโน โรนัลโด้ ในการทำประตูในรอบคัดเลือกที่ผ่านมา และนั่นอาจทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่น่าเบื่อที่สุดในยูโร 2016 ปีหน้า
ด้วยจำนวนผู้ติดตามถึงเกือบ 150 ล้านคนทางเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ คริสเตียโน โรนัลโด้ ไม่เพียงเป็นนักฟุตบอลที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก แต่เขายังเป็นบุคคลที่มีผู้ติดตามมากที่สุดเป็นอันดับสองของดาวเคราะห์ดวงนี้ มีเพียง เคที เพอร์รี ป๊อบสตาร์คนดังที่มีแฟนๆ มากกว่าทางโซเชียลมีเดีย และนักฟุตบอลอันดับสองที่ตามเขามาห่างๆ คือลิโอเนล เมสซี ซึ่งมีแฟนๆ น้อยกว่าถึงเกือบ 60 ล้านคน
คุณอาจจะคิดว่าด้วยแฟนบอลที่ติดตามมากมายขนาดนี้ เป็นตัวบ่งชี้ว่าโรนัลโด้เป็นนักเตะที่มีความตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่งยวด และด้วยผลงานกับทีมเรอัล มาดริด ตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขามีสถิติการถล่มประตูที่อยู่ในระดับยอดเยี่ยม ทั้งยังเป็นหัวใจในแนวรุกของสโมสรรวมถึงทีมชาติโปรตุเกสด้วย
ทว่าเมื่อดูจากผลงานของโปรตุเกสในยูโร 2016 รอบคัดเลือก สถิติระบุว่าโรนัลโด้ไม่อาจสร้างความบันเทิงใจให้แฟนบอลได้เหมือนอย่างที่เขาทำในเกมลาลีกาเลย นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากแผนการเล่นที่จัดโดยมีนักเตะหมายเลข 7 คนนี้เป็นศูนย์กลางนั้นช่างราบรื่นและน่าเบื่อเป็นอย่างยิ่ง
โปรตุเกสอยู่ในอันดับที่ 47 จากทั้งสิ้น 53 ชาติใน Goal's Thrill List ซึ่งจัดอันดับความน่าตื่นตาตื่นใจของบรรดาทีมชาติในยุโรปโดย Opta จากอัลกอริธึมที่คำนวนความสนุกสนานจากการยิงประตู
Only four teams going to the Euros – Ukraine, Albania, Wales and Romania – were more boring during qualification, according to the Thrill List, and none of those are expected to challenge for the trophy. Just getting out of the group stage will be a terrific achievement for the quartet, two of whom have never qualified for the finals before.
มีอยู่อีกเพียง 4 ทีมเท่านั้นที่ได้เล่นในยูโรที่น่าเบื่อกว่านี้ในรอบคัดเลือก นั่นคือ ยูเครน, อัลแบเนีย, เวลส์ และโรมาเนีย จากสถิติของ Thrill List และทุกทีมที่กล่าวมาล้วนแต่ไม่ได้มีศักยภาพพอจะเป็นเต็งแชมป์ พวกเขาเพียงผ่านรอบแบ่งกลุ่มเข้าไปเล่นในรอบนอคเอาท์ก็อาจจะถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากแล้ว อีกทั้งสองทีมจากสี่ทีมนั้นไม่เคยได้เล่นรอบสุดท้ายมาก่อนเลย
ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงกับโปรตุเกส ที่ทะลุถึงรอบรองชนะเลิศได้ถึงสามครั้ง จากเกมฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปสี่ครั้งหลังสุด และเป็นทีมเต็งในโหลที่หนึ่งของการจับฉลากวันเสาร์นี้ที่ปารีส การเป็นหนึ่งในตัวเต็งของพวกเขาในครั้งนี้เกิดขึ้นบนรากฐานของการเล่นที่ชวนให้ง่วงนอนในรอบคัดเลือกสู่การผ่านเข้ามาเล่นในรายการนี้เป็นครั้งที่เก้าติดต่อกัน
โรนัลโด้พลาดเกมรอบคัดเลือกนัดแรกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้พวกเขาแพ้อัลแบเนียไปแบบสุดช็อค และส่งผลให้เปาโล เบนโต ตกจากเก้าอี้ ก่อนที่เฟร์นานโด ซานโตส จะเข้ามาทำหน้าที่แทน และเลือกส่งเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์คนปัจจุบันลงสนามทุกนัด จนกระทั่งโปรตุเกสผ่านเข้าไปเล่นในยูโร 2016 ได้สำเร็จ
ชัยชนะทั้งเจ็ดนัดหลังการพลาดท่าแบบไม่น่าให้อภัยเกิดขึ้นด้วยผลต่างเพียงหนึ่งประตู แสดงให้เห็นว่าทีมบราซิลแห่งยุโรปเล่นอย่างระมัดระวังแค่ไหน ทีมโปรตุเกสมีโอกาสยิง 95 ครั้งตลอด 8 เกมในกลุ่ม ไอ เมื่อเทียบกับทีมแชมป์โลกอย่างเยอรมัน ที่ยิงได้เกือบจะสองเท่า (181 ครั้ง) ตลอด 10 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม
นอกจากนี้ สถิติยังบ่งชี้อีกด้วยว่าทำไมโปรตุเกสได้ต้องดิ้นรนในการผ่านเข้ารอบ นานีต้องยิงถึง 18 ครั้ง เพื่อจะได้ประตูเดียว ขณะที่กองหน้าอย่างแดนนี ทำประตูไม่ได้เลยจากการออกแรงยิง 10 ครั้ง หากไม่มีโรนัลโด้ ทีมของซานโตสก็อาจจะหมดท่าในทันที เหมือนที่แสดงให้เห็นมาแล้วในเกมอุ่นเครื่องที่พวกเขาแพ้รัสเซียในเกมอุ่นเครื่อง ซึ่งเป็นเกมที่โรนัลโด้ไม่ได้ลงสนาม
ความคาดหวังระดับนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใจอะไรกับนักเตะผู้เป็นไอดอลของผู้คนหลักร้อยล้านคน แต่การกระเด็นตกรอบเวิลด์คัพ 2014 อย่างรวดเร็วก็แสดงให้เห็นว่านักเตะรายนี้แบกภาระหนักเกินไป ในขณะที่มาดริดมีแผนบีอย่างคาริม เบนเซมา และแกเร็ธ เบล โปรตุเกสกลับไม่มีเลยสักแผนเดียว
นั่นคือปัญหาของโปรตุเกสและโรนัลโด้ เมื่อสถิติบ่งชี้ชัดเจนว่าทีมชายเดี่ยวไม่เคยคว้าฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปได้เลย มิเชล พลาตินี อาจจะทำได้ถึง 9 ประตู จาก 5 นัดในการที่ฝรั่งเศสคว้ายูโร 1984 ทว่าเขาก็มีขุนพลระดับตำนานอย่าง ฌอง ติกานา และอแลง จีแรส อยู่เคียงข้าง
โรนัลโด้จำเป็นต้องเร่งสปีดผลงานของตัวเองขึ้นมา หากต้องการจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เมื่ออัตราการเปลี่ยนจังหวะยิงเป็นประตูของเขา (23%) ยังด้อยกว่าโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (38%) ซึ่งต้องแบกรับภาระลักษณะเดียวกันกับทีมชาติโปแลนด์
โอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดของโรนัลโด้ในการชูถ้วยรางวัลระดับชาติคือรายการใหญ่ครั้งแรกของเขาอย่าง ยูโร 2004 ที่โปรตุเกสซึ่งเป็นเจ้าภาพต้องพ่ายแพ้แก่กรีซในรอบชิงชนะเลิศ
มันอาจจะเป็นเรื่องตลกร้ายไปสักหน่อย เมื่ออีก 11 ปีต่อมา ทีมโปรตุเกสอาจจะสืบสานต่อตำนานของกรีซ ในฐานะทีมที่น่าเบื่อที่สุดในยูโรก็เป็นได้
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
แม่เจ้าโว้ย! นักร้องสาวนุ่งบิกิน...
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
คลิปไฮไลท์