ดราม่าน้องถั่ว
Posted 17/12/2015 by siamsport
เหตุเพราะความห่วยแตกของแมนฯ ยูไนเต็ด จากการทำงานของ หลุยส์ ฟาน กัล ในเกมล่าสุด ประกอบกับฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของ ''น้องถั่ว'' ชิชาริโต้ กองหน้าที่กุนซือผู้อุดมด้วยปรัชญาดันทะลึ่งปล่อยออกจากทีมแบบไม่เห็นคุณค่า มันก็เลยเกิดการเปรียบเทียบกันจนกลายเป็นเรื่องดราม่าในโลกโซเชียล
ถึงตอนนี้พลพรรคปีศาจแดงเพิ่งจะทำลายตาข่ายในพรีเมียร์ลีกได้แค่ 21 ประตูเท่านั้น โดยทำได้แค่ 2 ประตูจาก 3 เกมล่าสุดที่ไม่ชนะใคร ดาวซัลโวสูงสุดของทีมคือ ฆวน มาต้า ที่ซัดไปเพียง 4 ประตู ทว่านับตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ อดีตศูนหน้าของแมนฯ ยูไนเต็ด กระหน่ำไปแล้วทั้งหมดถึง 18 ดอก
ย้ำอีกครั้งว่านักเตะที่เพื่อนร่วมทีมเรียกว่า "ชิชา" ยิงไปแล้ว 18 ประตูจากการลงเล่น 21 นัดให้ต้นสังกัดใหม่ในทุกรายการ
4 นัดล่าสุดกดไป 6 ประตู โดยเป็นการยิงติดต่อกัน 4 นัด แถมก่อนหน้านั้นเคยตะบัน 6 นัดติดต่อกันได้ถึง 8 ประตู ถือว่าเป็นกองหน้าที่สำแดงอิทธิเดชบรรลัยกัลป์ออกมามากที่สุดคนหนึ่งในลีกยุโรปและนาทีนี้
เมื่อฟอร์มการเล่นของ "เดอะ ลิตเติ้ล พี" กำลังเปล่งปลั่งอย่างน่าสยดสยอง ตรงกันข้ามกับแมนฯ ยูไนเต็ด ที่กว่าจะยิงได้สักประตูก็ลุ้นแล้วลุ้นอีก หลุยส์ ฟาน กัล เลยตกเป็นจำเลยที่มีความผิดบาป โทษฐานเป็นคนปล่อยดาวยิงผู้นี้ออกจากทีมแบบไร้เยื่อใย
ตอนนี้กระแสขับไล่อาจารณ์หลุยส์ค่อนข้างรุนแรงแบบเกินห้ามใจนะครับ พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก และดาวพุธถอยหลัง ทำอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด มิหนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังทำตัวน่าเบื่อจนเป็นที่เอือมระอาของแฟนบอล ขณะเดียวกับที่ ชิชาริโต้ ก็ยิงเอาๆ แบบไม่เกรงใจแฟนบอลทีมเก่าเลย ความรู้สึกมันเลยยิ่งไปกันใหญ่
...ว่าแล้วก็มีบทสัมภาษณ์หนึ่งอ้างว่าเป็นของ ชิชาริโต้ หลุดออกมาในโลกออนไลน์ตั้งแต่คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
ขออนุญาตคัดลอกมาให้อ่านกันตรงนี้อีกครั้ง
ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ กับเหตุผลที่บอกว่าทำไมเขาถึงย้ายออกจากแมนฯ ยูไนเต็ด
"หลังยิงจุดโทษพลาด (ในเกมกับคลับ บรูช) ผมเห็น ฟาน กัล มองไปที่ กิ๊กส์ ด้วยความโกรธ ผมรู้ทันทีว่าตัวเองจะไม่มีตำแหน่งในทีมอีกแล้ว"
ฟาน กัล เดินเข้ามาในห้องแต่งตัว แล้วบอกกับผมว่า "ฉันไม่แน่ใจว่านายจะยิงประตูได้อีกหรือเปล่า เพราะขนาดจุดโทษยังยิงไม่เข้าเลย" ต่อมาในวันนั้น (Later that day) เขาเรียกผมเข้าไปพบที่ห้องทำงาน และบอกกับผมว่าเขาได้รับข้อเสนอมากมายเกี่ยวกับตัวผม ซึ่งเขาต้องเลือก ผมกลับบ้านไปร้องไห้ และนั่นเป็นครั้งที่ 3 ที่ผมร้องไห้ หลังย้ายมาอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด
"ผมรักแมนเชสเตอร์ แต่ไม่มีทางเลือก เพราะแอลวีจีไม่เชื่อใจผม ผมได้รับข้อเสนอจากอเมริกา, 3 ทีมในพรีเมียร์ลีก และอีกหลายทีมในเยอรมัน ผมเลือกอะไรไม่ได้เลย แอลวีจีบอกว่าผมไม่เหมาะกับปรัชญาของเขา"
"ผมอยากเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง เลยเลือกย้ายไปไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ผมยังติดต่อกันกับทุกคนที่สโมสร พวกเขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม ผมสนิทกับทุกคน โดยเฉพาะนักเตะที่เคยเล่นด้วยกันในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์"
"ดาบิด เด เคอา คือเพื่อนที่ดีที่สุด เราคุยโทรศัพท์กันทุกวัน ผมสนิทกับ คาร์ริค และ แอชลี่ย์ ยัง ผมจะบอกคุณให้ว่า ตอนนี้พวกนักเตะรุ่นใหญ่ก็ไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าไหร่ แน่นอนว่าถ้าผมได้มีโอกาสเล่นให้ยูไนเต็ดอีกครั้ง ผมก็จะทำ แต่ตอนนี้ผมมีควมสุขกับชีวิตที่เยอรมันมากๆ"
...
อืมมมมมม...อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างครับ???
บางคนอาจรู้สึกเคลิบเคลิ้มแล้วคล้อยความคิดไปกับ ชิชาริโต้
บางคนคงรู้สึกเห็นใจและสงสารผู้ถูกกระทำอย่างสุดซึ้ง
แน่นอนว่าหลายคนคงเกิดอาการคันตามง่ามนิ้วเท้าจนอยากกระโดดถีบหน้า หลุยส์ ฟาน กัล มากยิ่งขึ้น
ตอนแรกผมอ่านจบแล้วก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน คือทั้งสงสารและอยากกระโดดเตะหน้าคน เนื่องเพราะน้องถั่วบรรยายความรู้สึกของตัวเองออกมาแบบสุดแสนจะดราม่าประหนึ่งเป็นบทละครชีวิตที่นรกไม่ได้เป็นผู้กำหนด
แต่หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ผมพบข้อสงสัยมากมายในบทสัมภาษณ์บทนี้
ประการหนึ่งคือมันหาอ่านได้ตามแฟนเพจต่างๆ ของแมนฯ ยูไนเต็ด เท่านั้น (ทั้งในต่างประเทศและเมืองไทย) โดยไม่มีแหล่งอ้างอิง และไม่มีต้นตอว่านำมาจากสำนักข่าวใดหรือหนังสือพิมพ์ฉบับไหนทั้งในเยอรมันและอังกฤษ
พูดง่ายๆ ว่าไม่ปรากฏใน "สื่อหลัก"
ตกลงไม่รู้เหมือนกันว่า ชิชาริโต้ ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้กับสื่อสำนักไหน?
ประการต่อมา ประโยคแรกที่บอกว่า "หลังยิงจุดโทษพลาด ผมเห็น ฟาน กัล มองไปที่ กิ๊กส์ ด้วยความโกรธ"
โอวซ์ซ์ซ์...สายตามึงยอดเยี่ยมมากเลยครับที่สังหารจุดโทษพลาดแล้วยังอุตส่าห์หันกลับมาเห็นผู้จัดการทีมทำหน้าเหมือนถูกดึงขนตูด
อีกประการหนึ่งคือประโยคที่ว่า "ต่อมาในวันนั้น เขาเรียกผมเข้าไปพบที่ห้องทำงาน" (Later that day he called me in his office)
เกมที่ "ชิชา" ยิงจุดโทษไม่เข้าคือเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปถล่ม คลับ บรูช ที่เบลเยียม มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยนะครับที่วันนั้นหรือวันต่อมา หลุยส์ ฟาน กัล จะเรียกเขาไปพบในห้องทำงาน (อยู่ที่ศูนย์ฝึกซ้อมแคร์ริงตัน)
หรือต่อให้เป็นเกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็คงเป็นไปไม่ได้อยู่ดี เพราะเกมจบต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
เมื่อพิจารณาอย่างรอบด้าน เข้าใจว่าบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้คงไม่ได้หลุดออกมาจากปากของ ชิชาริโต้ เป็นแน่แท้ - มันน่าจะเกิดจากใครสักคนที่กำลังเกลียด หลุยส์ ฟาน กัล แบบเข้าไส้ซะมากกว่า
แต่ไม่ทันแล้วล่ะครับ เพราะสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "ชาวเน็ต" พร้อมจะดราม่ากับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลแบบไม่จำเป็นต้องใช้หัวแม่ตีนของตัวเองไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ว่าแล้วบทตัดพ้อบทนี้ที่เป็นเพียง "ข่าวปลอม" ก็ถูกแชร์กันต่อๆ ไปในวงกว้างด้วยความสงสารน้องถั่วพลางด่า หลุยส์ ฟาน กัล แบบสาดเสียเทเสีย
ถามว่าแมนฯ ยูไนเต็ด ควรจะเสียดายกองหน้าผู้นี้ที่ หลุยส์ ฟาน กัล เอาไปยกให้ทีมอื่นหรือเปล่า?
ถ้าดูจากการยิงกระจายแล้วย้อนมาดูเกมรุกของตัวเอง รวมถึงปัญหากองหน้าบาดเจ็บและทำประตูไม่เป็นในตอนนี้ มันก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน
เพียงแต่ไม่ได้หมายความว่าถ้า ชิชาริโต้ ยังสวมเครื่องแบบปีศาจแดงแล้วจะยิงกระจายเหมือนที่เล่นให้ทีมนายห้างขายยา
อย่าลืมว่า "พรีเมียร์ลีก" กับ "บุนเดสลีกา" นั้นแตกต่างกัน
สมรภูมิแข้งพรีเมียร์ลีกเล่นกันอย่างรวดเร็วและหนักหน่วงมากกว่า ขณะระดับความยากและความสูสีก็มากกว่า จึงไม่ใช่เรื่องที่จะยิงกันง่ายๆ
เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเป็นกองหน้าของแมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้ปรัชญาของ หลุยส์ ฟาน กัล ที่เน้นการครองบอลมากกว่าเปิดเกมรุกจู่โจมใส่คู่แข่งแบบกล้าได้กล้าเสีย
"น้องถั่ว" จัดเป็นกองหน้าที่มีสไตล์การเล่นแบบโบราณ คือพุ่งเข้าชาร์จลูกหน้าประตู โดยไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมกับเกมสักเท่าไหร่
หน้าที่ของเขาคือยัดลูกให้ตุงตาข่ายเท่านั้น
จุดเด่นคือการหาช่องว่างหรือหาตำแหน่งในการทำประตูภายในกรอบเขตโทษ ซึ่ง ชิชาริโต้ มักจะอยู่ถูกที่และถูกเวลาเสมอ
จุดอ่อนคือทักษะและความสามารถเฉพาะตัวที่น้อยไปหน่อย - จับบอลรับส่งกับเพื่อนร่วมทีมยังกระโดกกระเดก
แน่นอนว่าสไตล์การเล่นแบบนี้ไม่เข้ากับปรัชญาของท่านอาจารย์หลุยส์ นั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไมเธอถึงต้องเดินจากไป
การปล่อยกองหน้าดาวรุ่งอีกคนอย่าง เจมส์ วิลสัน ให้ทีมอื่นยืมตัวยิ่งย้ำชัดว่า หลุยส์ ฟาน กัล ไม่ชอบกองหน้าลักษณะนี้
ต่อให้อยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด ก็คงจะทำได้แค่วิ่งไปวิ่งมาโดยไม่ได้สัมผัสบอลมากนัก ในเมื่อเพื่อนร่วมทีมมัวแต่ถ่ายบอลไปถ่าย
บอลมาสลับกับการส่งคืนหลังไปตั้งต้นใหม่ไม่ยอมเปิดเกมรุกบุกกระหน่ำ
ชิชาริโต้ ถือว่าประสบความสำเร็จในการเล่น ตอนที่มี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นผู้จัดการทีม เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย ในฤดูกาล 2010-11 และ 2012-13 โดย 2 ฤดูกาลนั้น เขายิงในพรีเมียร์ลีก 13 ประตู กับ 10 ประตูตามลำดับ
3 ฤดูกาลภายใต้การคุมทีมของท่านพระยาหมื่นลูกหนัง กองหน้าสายพันธุ์จังโก้ผู้นี้ยิงได้ทั้งหมด 50 ประตู (20+12+18) จากการลงเล่น 117 นัดทุกรายการก็จริง แต่ไม่เคยยึดตำแหน่งตัวจริงแบบถาวร
ก่อนที่ฟอร์มจะตกตอนที่ เดวิด มอยส์ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่
ฤดูกาล 2013-14 ดาวเตะผู้มีชื่อเต็มว่า ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ บัลคาซ่าร์ ถูกส่งลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 24 นัด (ไม่มากไม่น้อยไปกว่าตอนที่ป๋าเป็นกุนซือ) โดยทำได้แค่ 4 ประตูเท่านั้น เรียกว่าต่ำกว่ามาตรฐานอย่างน่าเกลียดน่ากลัวตัวละ 3 บาท
และเมื่อพิจารณาถึงสไตล์การเล่นที่ไม่เข้ากับปรัชญาของผู้จัดการทีมที่เข้ามาแทน เดวิด มอยส์ ในฤดูกาล 2014-15 นั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไมถึงต้องปล่อยให้เรอัล มาดริด ยืมตัวไปใช้งาน
มันชัดเจนในระดับหนึ่งแล้วนะครับว่าเขาไม่อยู่ในแผนการทำทีมของกุนซือชาวดัตช์
เมื่อหมดสัญญายืมตัวกลับมาจึงถูกขายออกไปในราคาแค่ 7.3 ล้านปอนด์ โดยไม่มีใครคาดคิดว่า "ถั่วน้อย" จะกลับชาติมาเกิดใหม่ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม
ศูนย์หน้าอย่าง ชิชาริโต้ คือศูนย์หน้าที่ผู้จัดการทีมทุกคนควรจะมีไว้บนม้านั่งสำรอง หมายความว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ควรจะเก็บเอาไว้ก่อน มาดแม้นจะไม่เข้ากับปรัชญาไส้ติ่งอะไรนั่นก็ตาม
เพราะเขาสามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในสภาวะฉุกเฉินที่ทีมกำลังต้องการประตูอย่างจงหนัก
อย่างน้อยก็ยังดีกว่าส่ง นิค พาวล์ หรือ ฟิล โจนส์ ลงมาก็แล้วกัน
หลุยส์ ฟาน กัล พลาดมหันต์เลยนะครับที่ปล่อยกองหน้าอย่าง ชิชาริโต้ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ออกจากทีม และโดยไม่เว้นแม้แต่ เจมส์ วิลสัน โดยซื้อ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เข้ามาแทนเพียงคนเดียว
"น้องหมาก" เป็นกองหน้าดารารุ่งรัศมีที่มีของก็จริง แต่แมนฯ ยูไนเต็ด จะหวังพึ่งเด็กอายุแค่ 20 ได้สักแค่ไหน ขณะที่ เวย์น รูนี่ย์ หมดสภาพกลายเป็นกองหน้าพันธุ์หมูง่อยแดกอย่างบริบูรณ์แบบ สุดท้ายต้องใช้ มารูยาน เฟลไลนี่ กับ นิค พาวล์ เป็นศูนย์หน้าจำเป็นที่เล่นได้แต่ลูกกลางอากาศ เหตุเพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับปรัชญาและปรัชยวยของตัวเองมากเกินไปนั่นแหละ
เสียดายตอนนี้ก็สายบ่หยุดเสน่ห์หายเกินไปซะแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
โกดินยัดชัดอยากแขวนเกือกกับหมี
ดีเอโก้ โกดิน เซนเตอร์แบ็ก แอต.มาดริด ยืนยันชัดเจน จะไม่ชิ่งไปอยู่ทีมอื่น และอยากแขวนสตั๊ดกับต้นสังกัด เพราะรักทีม "ตราหมี" อย่างที่สุด พร้อมบอก แฮปปี้ที่ตัดสินใจอยู่โมแข้งในรัง บิเซนเต้ กัลเดร่อน ต่อไปที่มีอยู่ฝืดจัด!ฟานกัลเล็งเรียกวิลสันกลับรัง
สื่อกระพือข่าว หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือจอมเก๋า แมนฯ ยูไนเต็ด อาจเรียก เจมส์ วิลสัน ดาวยิงชาวอังกฤษ ที่ไปเล่นให้ ไบรท์ตัน แบบยืมตัว กลับสู่ทีมอีกครั้ง หลัง 2 กองหน้าอย่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ เวย์น รูนี่ย์ ต่างพากันปืนฝืดในเวลานี้เดเคอาปัดข่าวแข้งผีไม่พอใจแท็กติกฟานกัล
ยังรักกันดี ดาบิด เด เคอา นายทวารจอมหนึบ แมนฯ ยูไนเต็ด ปัดข่าวแคมป์ "ปีศาจแดง" กำลังระส่ำ หลังนักเตะไม่พอใจแท็กติกของ หลุยส์ ฟาน กัล ยันทุกคนยังมีความสามัคคี และพร้อมสู้ไปด้วยกันผีทุ่มค่าเหนื่อย10.9ล.ปอนด์ล่อเลวานทิ้งพี่เสือ
สื่อดังรายงาน แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมจัดหนักยื่นข้อเสนอเป็นค่าเหนื่อยจำนวน 10.9 ล้านปอนด์ต่อปีเพื่อล่อใจ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงเท้าระเบิดของ บาเยิร์น มิวนิค ย้ายมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์