ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2558

เซาท์แฮมป์ตัน 4-0 อาร์เซน่อล

สนาม : เซนต์แมรี่ส์ สเตเดี้ยม

          คู่สุดท้ายของศึกวันบ๊อกซิ่ง เดย์ เซาท์แฮมป์ตันซึ่งอยู่ในช่วงผลงานแย่เปิดบ้านปะทะกับอาร์เซน่อล และมีการหมุนนักเตะสี่รายโดยได้นายทวารมาร์เตน สเตเคเลนเบิร์กหายเจ็บเท้ากลับมาเฝ้าเสาแทนเปาโล กาซซินิก้า  อีกทั้งส่งเจมส์ วอร์ด พราวส์ , โรเมว , คูโค่ มาร์ติน่า และเชน ลองลงสนามเนื่องจากกราเซียโน่ เปลเล่กับเซดริช โซอาเรสบาดเจ็บ ขณะที่ดูซาน ทาดิชนั่งเป็นตัวสำรอง

          ฝ่ายเดอะ กันเนอร์สใช้งานขุนพลชุดเดิมที่เฝ้ารังสยบแมนฯ ซิตี้ 2-1 แม้จะยังคงมีผู้เล่นหลายรายล้มเจ็บอยู่

          เกมเริ่มต้นแบบเนือยๆ  ต้องรอจนถึงนาทีที่ 17 กว่าที่ทีมปืนใหญ่จะได้ลุ้นก่อนจากโอกาสของนาโช่ มอนเรอัลที่ทะลุเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษด้านซ้ายหลังจากโอลิวิเยร์ ชิรูด์จ่ายให้ แต่ถูกสเตเคเลนเบิร์กเซฟได้

          อย่างไรก็ดี นาทีที่ 19 จากจังหวะที่เจ้าบ้านบุกขึ้นหน้าแล้วแพร์ แมร์เตซัคเกอร์โขกสกัดลูกโยนจากกราบซ้ายของไรอัน เบอร์ทรานด์ออกมาหน้าเขตโทษด้านขวา มาร์ติน่าจึงสร้างความฮือฮาด้วยการสับไกทันทีด้วยเท้าขวาจาก 27 หลาส่งบอลโค้งเห็นๆเสียบเสาไกลอย่างสวยหรูพาเดอะ เซนต์สนำก่อน 1-0

          อาร์เซน่อลพยายามบุกเข้าหา แต่ยังทำเกมได้ไม่มีพิษสง กระทั่งนาทีที่ 34 ลองก็โดนจดชื่อจากการทำฟาวล์แมร์เตซัคเกอร์  และจากนั้นอีกสามนาที ธีโอ วัลค็อตต์ก็อาศัยความคล่องตัวลากบอลจากกราบขวาเลื้อยหนีกองหลังหลายรายเข้าเขตโทษได้ แต่จังหวะสับไกเบาหวิว จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับสเตเคเลนเบิร์ก

          ถึงนาทีที่ 39 ทีมเยือนได้ลูกเตะมุมด้านซ้าย เมซุต โอซิลจึงสาดไปเสาแรกให้วัลค็อตต์ที่ยืนว่างไร้คนประกบโหม่งเหน่งๆระยะ 12 หลา แต่สตาร์ผิวสีส่งบอลออกนอกกรอบไปเอง

          ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 43 ทีมเยือนบุกขึ้นสูงแล้วพลาดเลยโดนโต้โดยซาดิโอ มาเน่กระกดบอลเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ลองหลุดเดี่ยว  แต่ถูกปีเตอร์ เช็กออกมาบีบ หัวหอกไอริชจึงทำเสียของชิพบอลระยะประชิดข้ามคานเป็นเมตร ครบ 45 นาทีแรกจึงเป็นนักบุญที่นำไปก่อน 1-0

          ครึ่งหลังเซาท์แฮมป์ตันเริ่มเกมได้อย่างมั่นใจกว่า และนาทีที่ 50 ก็มาได้ลูกฟรีคิกจากจังหวะที่โลร็องต์ กอสซิแอลนีย์ทำฟาวล์ และจากลูกโยนยาวเข้าเขตโทษของวอร์ด พราวส์ เวอร์จิล ฟาน ไดก์ก็โขกตุงตาข่าย แต่มีธงยกล้ำหน้าขึ้นมาแล้ว แถมกองหลังเจ้าถิ่นยังไปกระแทกเช็กล้มเจ็บด้วย แต่นายทวารทีมปืนใหญ่ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้หลังแพทย์ลงไปดูอาการ

          กระนั้นนาทีที่ 55 แฟนเจ้าบ้านก็ได้เฮอยู่ดีเมื่อเดอะ กันเนอร์สบุกพลาดอีกหนแล้วโดนโต้จนตาข่ายขาดโดยงวดนี้ลองเก็บบอลได้แล้วป้ายออกทางขวาให้มาเน่ลากไปไหลเข้าเขตโทษอีกทีเปิดทางสะดวกให้ลองตามมาแปสิบหลานิ่มๆเพิ่มสกอร์เป็น 2-0 ให้นักบุญแม้ทีมเยือนจะโวยว่าลองเกี่ยวขากอสซิแอลนีย์ล้มก่อนเข้าซัลโวก็ไม่เป็นผล

          ทีมเมืองหลวงไม่มีทางเลือกแล้วนอกจากเดินหน้าเต็มสูบ และส่งอเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลนลงไปแทนโจเอล แคมป์เบลล์ในนาทีที่ 64 หลังจากรูปเกมยังไร้ประสิทธิภาพ

          ถัดมาอีกสามนาที เซาท์แฮมป์ตันเปลี่ยนตัวสำรองเช่นกันเมื่อยอร์ดี้ คลาซี่มีอาการเป็นตะคริว จึงถูกถอดออกไปให้ออริโอล โรเมวลงบู๊แทน แถมนาทีที่ 69 จากลูกเตะมุมด้านขวาของเจ้าบ้านที่เบอร์ทรานด์วางเข้าไปหน้าประตู โชเซ่ ฟอนเต้ก็สลัดหนีอ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลนเข้าขวิดระยะเผาขนสี่หลาไม่เหลือ จึงเป็นอันว่าเดอะ เซนต์สนำห่าง 3-0 และส่งดูซาน ทาดิชลงเล่นแทนวอร์ด พราวส์อีกราย

          ล่วงมาถึงนาทีที่ 74 ทีมปืนใหญ่ใช้งานคาลั่ม แชมเบอร์สแทนมาติเยอ ฟลามินี่

          ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในนาทีที่ 92 ดูซาน ทาดิช จ่ายบอลทะลุช่อง ให้ เชน ลอง หลุดเข้ายิง ลอดขา ปีเตอร์ เช็ก เข้าไปตุงตาข่าย เจ้าบ้านออกนำ 4-0

          ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ ครบ 90 นาทีอาร์เซน่อลซึ่งเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานจึงบุกมาพ่ายขาดลอย 0-4 ชวดนำเป็นจ่าฝูง ยังต้องตามหลังเลสเตอร์สองแต้มเช่นเดิม

          รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
 
          เซาธ์แฮมป์ตัน: มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก - คูโค่ มาร์ตีน่า, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โชเซ่ ฟอนเต้, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - ยอร์ดี้ คลาซี่ (โอริโอล โรเมอู น.66), วิคเตอร์ วานยาม่า - เจมส์ วอร์ด-พราวส์ (ดูซาน ทาดิช น.70), ซาดิโอ มาเน่ (ฆวนมี่ ฆิเมเนซ น.80), สตีเว่น เดวิส - เชน ลอง
 
          สำรองไม่ได้ใช้: เปาโล กาซซานิก้า (ผู้รักษาประตู) - มายะ โยชิดะ, กาสตอน รามิเรซ, สตีเว่น คอลเกอร์
 
          อาร์เซน่อล: ปีเตอร์ เช็ก - เอคตอร์ เบเยริน, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, นาโช่ มอนเรอัล - มาติเยอ ฟลามินี่ (คาลั่ม แชมเบอร์ส น.73), อารอน แรมซี่ย์ - โฮเอล แคมป์เบลล์ (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน น.63), เมซุต โอซิล, ธีโอ วัลค็อตต์ (อเล็กซ์ อิโวบี้ น.77) - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
 
          สำรองไม่ได้ใช้: ดาวิด ออสปิน่า (ผู้รักษาประตู) - คีแรน กิ๊บบ์ส, กาเบรียล เปาลิสต้า, เจฟฟ์ ไรน์ อเดเลด
 
          ผู้ตัดสิน: โจนาธาน มอสส์