"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย เผยพอใจฟอร์มเด็กแล้ว แม้พ่าย ญี่ปุ่น 0-4 ในเกมนัด 2 ศึกชิงแชมป์เอเชียรุ่น ยู-23 ที่กาตาร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และไม่ขอตำหนิ "เจ้านิว" ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่พลาดจุดโทษ ซึ่งอาจสร้างความแตกต่างให้เกมได้

ความเคลื่อนไหวของทัพ ''ช้างศึก'' ทีมชาติไทยชุดโอลิมปิก หลังจากลงสนามนัด 2 พ่ายให้กับ ''ซามูไรบลู'' ทีมชาติญี่ปุ่น 0-4 เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา ส่วนเกมแรกเสมอซาอุดีอาระเบีย 1-1 มีเพียงแต้มเดียว และมีคิวนัดสุดท้ายรอบแรก วันที่ 19 ม.ค. 59 เวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ณ สนามแกรนด์ ฮาหมัด ช่อง 7 ถ่ายทอดสดให้ชมในการลุ้นเข้ารอบสองกับทีม ''โสมแดง'' เกาหลีเหนือ ที่ลงสนามสองนัดแพ้ญี่ปุ่น 0-1 และเสมอซาอุดีอาระเบีย 3-3 มีเพียงแต้มเท่ากัน

 ล่าสุด "ซิโก้" ได้เผยถึงเกมเมื่อวันเสาร์ว่า ตนพอใจกับฟอร์มการเล่นของลูกทีมทุกคน ที่นัดนี้ถือว่าทำได้ดีแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะโดนเยอะ ทั้งที่ครึ่งแรกทำได้ดี แต่ครึ่งหลังมาเสียสมาธิไปหน่อย มาพลาดเสียประตูในช่วงต้นครึ่งหลังเร็วทำให้เป็นงานที่ยากเพิ่มขึ้น และถือว่าเป็นหนึ่งจุดเปลี่ยนของเกมได้เช่นกัน ทว่าเรื่องของทรงบอลทุกคนทำได้ตามที่ต้องการ และขอแสดงความยินดีกับทีมญี่ปุ่นที่ชนะได้ทั้งสองนัดด้วย
 
สำหรับการที่ทีมชาติญี่ปุ่นได้มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นจากเกมเรกที่ชนะเกาหลีเหนือ 1-0 กว่าค่อนทีมถึง 6 คน ในเกมที่พบกับทีมชาติไทยนั้น ทางกุนซือใหญ่ของช้างศึกเผยว่า ต้องยอมรับทีมชาติญี่ป่นเป็นทีมที่มีความแข็งแกร่งมาก การพักหรือเปลี่ยนผู้เล่นจากเกมแรก 6 ตัว ก็ไม่ได้ทำให้ทีมเขาอ่อนลง

 ''ซิโก้'' ยังได้วิเคราะห์เปรียบเทียบกับลูกทีมชาติไทยในเกมดังกล่าาวถึงเรื่องการสลับเปลี่ยนตัวผู้เล่นว่า เรามีผู้เล่นที่ทำได้ดี 11 คนแรกที่พอจะสู้กับญี่ป่นได้อย่างสูสี แต่พอเปลี่ยนตัวสำรองลงไปมองเห็นความแตกต่างกัน แม้ว่าจะทำได้ดีก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถทดแทนกันได้สนิท ก็ต้องนำไปค่อยๆ ปรับให้ดีขึ้นต่อไป หากเราต้องการก้าวขึ้นมาในระดับเอเชียอย่างเต็มตัว เราจะต้องมีความฟิตให้มากกว่านี้อีก ส่วนเรื่องระบบเชฟการเล่นตอนนี้ทำดีขึ้น ปรับตัวเล่นกันได้แล้ว แต่ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรหากไม่สามารถยืนระยะได้ 90 นาที

                                                               รับ ''นิว'' พลาดมีผลจิตใจแต่ไม่กล่าวโทษ

ต่อกรณีเรื่องการพลาดจุดโทษของ ''เจ้านิว'' ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ในนาที 53 ขณะที่ทีมชาติไทยมีสกอร์ตามอยู่ 0-2 นั้น ทาง ''ซิโก้'' กุนซือใหญ่ของทีมชาติไทยได้กล่าวยอมรับว่า น่าจะมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจของ ''เจ้านิว'' ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ อยู่บ้างแน่ หลังยิงพลาดไปชนคาน และโดนเปลี่ยนตัวออกด้วย
 
"จริงแล้วเขาเป็นเบอร์ต้นๆ ของทีมต่อจาก ปกรณ์ เปรมภักดิ์ แต่จังหวะนั้น ปกรณ์ โดนเปลี่ยนตัวออกไปก่อนแล้ว เขาจึงต้องรับหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้โทษอะไรเขา เพราะน้องเขาก็ทำเต็มที่แล้ว ไม่มีใครต้องการพลาดอยู่แล้ว เราทุกคนต้องให้กำลังใจกันเพื่อเกมหน้าต่อไป"

                                                             ชม"โด"-"ต้น"ประสานงานดีพร้อมยกนิ้ว"ภิญโญ"

ขณะเดียวกัน แม่ทัพ ''ช้างศึก'' ทีมชาติไทย ยังได้กล่าวชมลูกทีมที่สามารถสร้างผลงานได้ดีน่าประทับในเกมที่พ่ายญี่ปุ่น 0-4 ว่า ในตำแหน่งกลางรับที่มี ''เจ้าบี '' ชญาวัตร ศรีนาวงศ์ นักเตะจากทีม "พลังเพลิง'' พีทีที ระยอง ยืนประจำการนั้นเกมดีงกล่าวถือว่าทำได้ดีทีเดียว เล่นได้นิ่งกว่าเกมแรกเป็นอย่างมาก สามารถช่วยเกมรับได้เป้นอย่างดี ซึ่งในนตำแหน่งนี้ก็ยังมี ''เจ้าปิง'' ทศวรรษ ลิ้วรรณเสถียร อีกรายที่พร้อมลงประจำการ
 
กุนซือของทีมไทยยังกล่าวชม ''จุ๊บ'' ภิญโญ อินพินิจ ฮีโร่ยิงประตูตีเสมอซาอุดีอาระเบีย 1-1 จากเกมแรก ซึ่งนัดนี้ ''เจ้าจุ๊บ'' ต้องโยกจากริมเส้นฝั่งซ้ายไปเล่นเป็นหน้าเป้า แทนที่ เจนรบ สำเภาดี ว่า ก็ยังทำหน้าที่ได้รับมอบหมายได้ดีกว่านัดแรก ที่ถูกโยกไปเล่นในช่วงนาที 66 แม้จะสามารถยิงประตูได้สำเร็จในเกมนั้นก็ตาม  โดยที่เกมนัดที่สองทำได้ดี ทั้งการเคลื่อนที่และการบีบเกมตามระบบการเล่นที่วางเอาไว้
 
ขณะเดียวกัน กุนซือ ''ซิโก้'' ยังมีการเผยว่า ในเกมกับญี่ปุ่นยังได้เห็นวิธีการเล่นที่จะใช้เป็นอีกทางเลือกให้กับทีมชาติไทยในอนาคตทางด้านฝั่งขวา เมื่อเกมกับญี่ปุ่นได้ส่งทาง ทริสตอง สมชาย โด ยืนแบ็กขวา และให้ ''ต้น'' นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ที่เล่นในตำแหน่งเดียวกัน โยกขึ้นสูงไปเป็นตัวริมเส้นขวา และสามารถทำผลงานได้ดี จนต้องให้เล่นเต็มเกมนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการเล่นของทีมชาติไทยในอนาคตต่อไปที่ได้เห็นจากเกมกับญี่ปุ่น