On The Way : เพลงร็อคที่ยังไม่เร้าใจ
Posted 18/01/2016 by goal.com
รูปเกมที่ดีไม่ได้การันตีชัยชนะ! "เกเก้นเพรส" ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจทว่ายังเปลี่ยนเป็นสกอร์ที่คาดหวังไม่ได้ อะไรคือสาเหตุ อะไรคือสิ่งที่ยังขาดและประเด็นที่น่าจับตากับสไตล์การทำทีมข...
จากเกมที่แพ้อย่างน่าเจ็บใจให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อริตัวฉกาจของลิเวอร์พูล กลายเป็นอะไรที่ย้อนแย้งกับสไตล์การคุมทัพสุดเร้าใจที่เรียกกันว่า "เกเก้นเพรส" ของเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่แม้ว่าจะทำให้รูปเกมของทัพหงส์แดงดูดีขึ้นผิดหูผิดตา ทว่าผลลัพท์บนสกอร์บอร์ดกลับดูไม่น่าชื่นใจเท่าไรนัก
หลังผ่านไป 22 เกมในทุกรายการกับลิเวอร์พูล เจอร์เก้น คล็อปป์ ชนะไปเพียง 10 เกม เสมอ 7 และแพ้ 5 แม้จะไม่สวยหรูแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นเลวร้ายเท่าไรนัก แต่หากดูเฉพาะในเกมลีกที่ชนะเพียง 5 เกม แพ้ 4 และ เสมออีก 5 ดูจะเริ่มไม่ค่อยเข้าท่าเข้าทางเท่าไรเสียแล้ว
เกเก้นเพรส ที่เคยพาโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เถลิงแชมป์บุนเดสลีกามาแล้ว ยังคงไม่ลงตัวนักกับขุนพลหงส์แดง แม้จะศรัทธาของนักเตะและแฟนบอลจะเพิ่มพูนขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด แต่ก็ยังคงมีบางสิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ น่าจะต้องหาให้เจอและรีบ ขยับ ปรับปรุง โดยเร็วเพื่อให้ระบบการเล่นที่เป็นเหมือนเครื่องหมายการค้าของเขาสมบูรณ์ตาม แบบฉบับที่ควรจะเป็น
ทัพหงส์แดงในรูปแบบการเล่นที่ขึ้นบีบกดดันเร็วตั้งแต่ในแดนหน้า สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลได้ไม่น้อยหลังจากที่ คล็อปป์ เข้ามากุมบังเหียน เนื่องจากลิเวอร์พูลมีนักเตะที่เคลื่อนที่ได้คล่องแคล่ว และรวดเร็วอยู่หลายราย อาทิ อดัม ลัลลานา, ฟิลิปป์ คูตินโญ, โรแบร์โต ฟีร์มิโน หรือแม้แต่แบ็คสองฝั่งอย่าง อัลแบร์โต โมเรโน และ นาธาเนียล ไคลน์
ลิเวอร์พูลในสไตล์การเล่นที่ดุดันได้ใจแฟนบอล เอาชนะอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่อย่างเชลซีได้ด้วยสกอร์ถึง 3-1
อย่างหนึ่งที่ดูขัดกับสิ่งที่ควรจะเป็นคือความเชื่องช้าของกองหน้าตัว เป้าอย่าง คริสเตียน เบนเทเก้น อดีตแข้งแอสตัน วิลลา ค่าตัวเกิน 30 ล้านปอนด์ ที่ผลงานยังคงสวนทางกับราคา โดยทำได้เพียง 6 ประตูจากการลงสนาม 19 นัด ยังไม่นับรวมสิ่งสถิติระบุไม่ได้อย่างสัญชาตญาณกองหน้าที่เคยช่วยทีมสิงห์ ผงาดล่าตาข่ายได้มากมาย แต่กลับลดลงอย่างน่าใจหายเมื่อย้ายสู่ถิ่นแอนฟิลด์
เบนเทเก้ ไม่ใช้ปัญหาเดียวในแนวรุกของ ลิเวอร์พูล เพราะถึงแม้ดาวยิงทีมชาติเบลเยียมจะโกยประตูได้ไม่เป็นกอบเป็นกำนัก แต่หากไม่เลือกใช้งานเขา ผู้เล่นรายอื่นๆในชุดปัจจุบันที่จะมารับหน้าที่แทนก็หาตัวยากเสียเหลือเกิน
เริ่มตั้งแต่ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ รองดาวซัลโวซีซั่น 2013/14 ที่มีอาการบาดเจ็บรุมเร้าเป็นระยะเวลานาน ครั้นกลับมาลงสนามเล่นไปได้ไม่กี่เกมก็มีอันต้องกลับไปพักรักษาตัวอีก โดยหลังผ่านไป 22 เกมในลีกสูงสุดฤดูกาลนี้ สเตอร์ริดจ์ได้ลงสนามเพียง 5 เกม ยิงไป 2 ประตู แม้จะมีส่วนร่วมกับทีมไม่มากนักในฤดูกาลนี้ แต่เมื่อคิดเป็นเปอ์เซ็นการทำประตู เจ้าของท่าเต้นเต้ยโศกยังดูดีกว่าเบนเทเก้ อย่างเห็นได้ชัด แต่สถานะของสเตอร์ริดจ์ในตอนนี้ก็เป็นเพียง "แนวรุกความหวังที่ใช้การไม่ได้"
พูดถึงนักเตะที่ใช้งานไม่ได้ก็กำลังเป็นที่พูดถึงแบบรายวันสำหรับลิ เวอร์พูล ที่มีผู้เล่นรายสำคัญบาดเจ็บอยู่เต็มทีม ทั้ง ฟิลิปป์ คูตินโญ ที่กำลังฟอร์มดี เดยัน ลอฟเรน เซ็นเตอร์ที่เพิ่งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนธันวาคมของทีมก็มีอัน ต้องพักรักษาตัว รวมถึง มาร์ติน สเคอร์เทล อีกหนึ่งแนวรับรายสำคัญ รวมไปถึง แดนนี อิงส์ ที่กำลังจะระเบิดฟอร์มภายใต้เสื้อสีแดงเพลิง ก็มีอันต้องปิดเทอมยาวไปเรียบร้อย
ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้าตั้งแต่แดนหน้า แดนกลาง และแดนหลัง ของลิเวอร์พูล ส่งผลไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอนกับระบบ "เกเก้นเพรส" ของเจอร์เก้น คล็อปป์ เพราะเมื่อขาดกองหน้าที่เฉียบคมในการจบสกอร์ การบีบเกมตั้งแต่ในแดนหน้าก็เปล่าประโยชน์ แม้จะตัดบอลได้ตั้งแต่ในแดนคู่แข่ง แต่ทัพหงส์แดงก็ยังมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนโอกาสให้กลายเป็นประตู
"ถ้า (แมนเชสเตอร์) ยูไนเต็ดได้พูดถึงฟอร์มของพวกเขา พวกเขาก็คงจะพูดว่ามันก็ไม่ดีนัก แต่พวกเขาชนะ พวกเขาก็เลยมีความสุขมากๆ เราเล่นกันได้ดีกว่า แต่เรารู้สึกหงุดหงิดมากเพราะผลการแข่งขัน ฟอร์มการเล่นและหลายๆ อย่างพวกเราในวันนี้ดีมากจริงๆ การสร้างโอกาสของทีมเราดี แต่การจบสกอร์นั้นไม่ใช่เลย ไม่อย่างนั้นเราคงจะทำประตูได้แล้วล่ะ" เจอร์เก้น คล็อปป์ กล่าวยอมรับว่าทีมยังมีปัญหาในการจบสกอร์ หลังเกมที่พ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในขณะเดียวกัน กองหลังที่ยังไม่เข้ารูปเข้ารอย การจัดผู้เล่นตัวจริงในแนวรับของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ดูจะยังไม่ชัดเจน แฟนลิเวอร์พูลยังไม่ค่อยได้เห็นคู่เซ็นเตอร์ที่เล่นเข้าขา และมีโอกาสยืนระยะทำงานเป็นตัวจริงร่วมกันในระยะยาว บวกกับสภาพทีมที่มีนักเตะเจ็บทำให้ตัวเลือกในจุดนี้มีไม่มากนัก และแน่นอนว่าส่งผลกับ เกเก้นเพรส ไม่ต่างจากปัญหาในแดนหน้า
ด้วยระบบเพรสซิ่งอันดุดันที่แฟนบอลชื่นชอบนั้น หากแผงหลังเปราะบางเมื่อไรก็จะกลายเป็นจุดอ่อนของทีมโดยทันที เพราะตัวผู้เล่นที่ต้องขึ้นสูง ต้องออกแรงวิ่งกลับมาเล่นเกมรับ และอาจจะต้องพะวงกับการป้องกันที่ยังไว้ใจได้ไม่เต็มร้อยนัก
อย่างเช่นในเกมแดงเดือดในค่ำคืนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า ต่อให้ลูกทีมของคล็อปป์ จะต่อบอลกันงดงามและไหลลื่นปานใด หากแต่ขาดการจบสกอร์ ประกอบกับความผิดพลาดของแผงหลัง ย่อมถูกคู่แข่งลงโทษ ลองคิดเล่นๆว่าหาก เวนย์ รูนีย์ ผู้ยัดเยียดความปราชัยให้เจ้าบ้านหงส์แดง เป็นนักเตะในถิ่นแอนฟิลด์ ดาวยิงเลือดผู้ดีรายนี้น่าจะมีโอกาสยิงเกินหนึ่งลูกแน่นอนจากระบบ เกเก้นเพรส
ตลอดทั้งเกมกับคู่ปรับรายสำคัญ ลิเวอร์พูลมีสถิติที่ดีกว่าแบบน่าประหลาด พวกเขาพยายามยิงถึง 17 ครั้ง เข้ากรอบถึง 4 ครั้งแต่ว่ากลับตีไข่ไม่แตก ในขณะที่ทัพผีแดงมีโอกาสไม่ถึง 10 ครั้งและลูกเดียวที่เข้ากรอบของ รูนีย์ ก็กลายเป็นประตูชัยให้กับทีมเยือน แม้เกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเป็นอีกหนึ่งเกมที่เห็นได้ชัดว่า การจะนำระบบการเล่นของคล็อปป์มาใช้กับทีมเครื่องจักรสีแดง ยังขาดองค์ประกอบสำคัญอยู่ แต่อันที่จริงหลายเกมก่อนหน้านั้นก็ส่งสัญญาณทั้งในแง่ดีและไม่ดีมานานแล้ว
เกเก้นเพรส ช่วยให้ภาพรวมของระบบการเล่นของลิเวอร์พูลนั้นดีขึ้นเรื่อยๆ หากแต่การบ้านของอดีตกุนซือทีมเสือเหลืองยังมีอีกมาก ทั้งการเลือกใช้นักเตะให้เข้ากับระบบที่เขาถนัด การโรเตชันทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดจำเขี่ยมาตลอดในช่วงหลายปีชองลิเวอร์พูล ผสมโรงกับโปรแกรมการแข่งขันที่อยู่ในช่วงแน่นขนัด บวกด้วยเกมเอฟเอ คัพ ที่ต้องเล่นนัดรีเพลย์เข้าไปอีก ทำให้ลิเวอร์พูลต้องเลือกหมุนเวียนนักเตะอย่างรอบคอบ และตลาดซื้อขายครั้งนี้ก็เป็นที่น่าจับตาว่า ด้วยบารมีของ คล็อปป์ จะดึงอดีตผู้ร่วมงานที่มีดีกรีดีๆ หรือนักเตะที่จะซัพพอร์ทระบบการทำทีมของเขาเข้ามาในทีมได้มากน้อยแค่ไหน...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ไม่รีบ! บีร็อดขอพักก่อนคัมแบ็ครับงานกุนซือช่วงซัมเมอร์
อดีตนายใหญ่ชาวไอร์แลนด์เหนือของหงส์แดง เปิดเผยว่าตนเองยังไม่รีบร้อนที่จะกลับมารับงานคุมทีมในช่วงนี้ โดยจะขอพิจารณาข้อเสนอในช่วงซัมเมอร์แบบเต็มตัวทีเดียว
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์