สำนักข่าว บีบีซี สื่อชื่อดังแดนผู้ดี ได้คัดเลือก 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ที่ 22 ของศึก พรีเมียร์ลีก มาให้ได้รับชมกัน จะมีใครติดโผบ้าง ไปติดตามกันเลย

1. ผู้รักษาประตู : ดาบิด เด เคอา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

          นายด่านทีมชาติสเปน มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งกับการพาทีมคว้าสามแต้มจาก ศึกแดงเดือด

          เจ้าตัวโชว์ความคลาสด้วยการเซฟหลายจังหวะเฉียดตายจากลูกยิงของ เอ็มเร่ ชาน, ลูกโหม่งของ อดัม ลัลลาน่า, ตัดจังหวะของ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ทำให้ทีมยังมีลมหายใจต่อ ก่อนที่ เวย์น รูนี่ย์ จะกดประตูโทนพาทีมชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 ได้สำเร็จ

2. แบ็คขวา : ปาโบล ซาบาเลต้า (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

          แบ็คขวาชาวอาร์เจนไตน์ เป็นผู้เล่นรายที่ 6 ที่ลงเล่นในเกาะอังกฤษเป็นนัดที่ 200

          กลับมาโชว์ฟอร์มเด่นได้อีกครั้ง เจ้าตัวโชว์ความเก๋า และการยืนตำแหน่งเกมรับที่ยอดเยี่ยม และทีมก็คว้าสามแต้มสบายๆ จากการเปิดรังถล่ม คริสตัล พาเลซ 4-0

          และแน่นอนนัดที่ผ่านมาทำผลงานได้ดี การกลับมายึดตำแหน่งแบ็คขวาตัวจริงก็ไม่ยากสำหรับเขาแน่นอน

3. เซนเตอร์ฮาล์ฟ : คริส สมอลลิ่ง (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

          แม้ว่าผลงานของทีมจะไม่ดีต่อเนื่อง แต่ "เปเล่ สมอลลิ่ง" ยังคงไว้ใจได้มากที่สุดในบรรดาแนวรับ

          นัดนี้ปราการหลังเลือดผู้ดี เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง และเป็นผู้เล่นคนเดียวที่เคลียร์บอลได้มากที่สุด (7 ครั้ง) ในเกมที่ผ่านมา

4. เซนเตอร์ฮาล์ฟ : มามาดู ซาโก้ (ลิเวอร์พูล)

          แม้ว่าทีมจะพ่ายแพ้ในศึกสำคัญ แต่กองหลังจอมเก้งก้าง ก็ยังทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ

          ซาโก้ โชว์การเข้าปะทะที่แม่นยำและเด็ดขาดในหลายจังหวะ ช่วยไม่ให้ทีมเสียประตูไปมากกว่า 1 ประตู

          และเจ้าตัวก็เป็นผู้เล่น ลิเวอร์พูล ที่สัมผัสบอลมากสุดเป็นอันดับสอง (83 ครั้ง) รองจาก ลูคัส เลว่า (88 ครั้ง) ในเกมนี้

5. แบ็คซ้าย : เลห์ตัน เบนส์ (เอฟเวอร์ตัน)

          หลังจากกลับมา เบนส์ ก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมมากขึ้นเรื่อยๆ

          เกมนี้เจ้าตัวถวาย 1 แอสซิสต์ ให้ เควิน มิราลาส กดประตูสุดสวยได้ในเกมบุกเสมอ เชลซี สุดมันส์ 3-3

          และนี่เป็นแอสซิสต์ลูกแรกในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2015 ของแบ็คซ้ายจอมแกร่งอีกด้วย

6. กองกลาง : ฟาเบียน เดลฟ์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

          เป็นเกมที่ กองกลางทีมชาติอังกฤษ เล่นได้อย่างมั่นอกมั่นใจที่สุด

          1 ประตูที่เจ้าตัวยิงเปิดหัวได้ นำพาไปสู่ชัยชนะได้สำเร็จ

          ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ หากนัดไหน เดลฟ์ กระทุ้งประตูได้ ทีมจะสามารถคว้าชัยชนะได้ทันที และนัดนี้ก็เป็นเกมที่ 15 รวมทุกรายการแล้ว

7. กองกลาง : เจมส์ วอร์ด-พราวส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)

          มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 21 ขวบ โดดเด่นที่สุดเลยก็ว่าได้ ในเกมเปิดบ้านทุบ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-0

          ผลงานกระซวก 2 ประตู จากฟรีคิกสุดสวย และ ลูกยิงที่จุดโทษ

          เจมส์ เป็นผู้เล่นคนแรกที่ยิงฟรีคิกเป็นประตูสำเร็จในเกมพรีเมียร์ลีก โดยคนสุดท้ายที่ทำได้คือ ริคกี้ แลมเบิร์ต เมื่อกุมภาพันธ์ 2014

          และเจ้าตัวก็ทำสองประตูได้หลังผ่านไป 114 เกม แถมยังใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น

8. กองกลาง : จอนโจ เชลวี่ย์ (นิวคาสเซิ่ล)

          นิวคาสเซิ่ล เปิดรัง เซนต์ เจมส์ พาร์ค เอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 และเป็นการประเดิมสนามสุดหรูสำหรับจอมทัพหัวเหม่งรายนี้

          เชลวี่ย์ เป็นแข้งสาลิกาดงที่เปอร์เซ็นต์ผ่านบอลสำเร็จมากที่สุด (91.5%) และผ่านบอลได้มากที่สุด (59 ครั้ง)

          แฟนๆ จะได้เห็นการผ่านบอลยาว-สั้น แม่นๆ และการเก็บจังหวะแถวสองซึ่งเป็นอาวุธหลักของเด็กหนุ่มวัย 23 ปี มากขึ้่น

          เล่นได้โดดเด่นขนาดที่ มุสซ่า ซิสโซโก้ เพื่อนร่วมทีมยังต้องออกมายกย่องว่าเขามีความคล้ายคลึง "สตีเว่น เจอร์ราร์ด" มากเหลือเกิน

9. กองกลาง : คริสเตียน อีริคเซ่น (ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์)

          เยี่ยมยอดเหลือเกินสำหรับจอมทัพเดนมาร์ก กับเกมไล่ต้อน ซันเดอร์แลนด์ 4-1

          อีริคเซ่น เหมาคนเดียว 2 ตุงส์ ยอดรวมเป็น 4 ประตูแล้วในซีซั่นนี้

          และเป็นการยิงใส่ ซันเดอร์แลนด์ ได้เป็นลูกที่ 5 อีกด้วย

10. กองกลาง : เควิน มิลาลาส (เอฟเวอร์ตัน)

          มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียม โชว์ฟอร์มได้สุดยอดเหลือเกินในเกมที่ผ่านมา

          เจ้าตัวมีโอกาสมากมายจนแทบจะใส่แฮตทริกให้กับตัวเอง แต่อย่างน้อย 1 ประตูที่ทำได้ ถือว่าเป็นลูกยิงที่มีความคลาสมากเช่นกัน

          และนี่ก็เป็นประตูที่ 3 ของเจ้าตัวรวมทุกรายการ

11. ศูนย์หน้า : เซร์คิโอ กุน อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

          5 นัดหลังสุด หัวหอกเบอร์หนึ่งของทีม กดประตูไป 4 ดอกส์

          เกมนี้ก็เบาๆ เหมาไปแค่ 2 ลูกเท่านั้นเอง

          ตั้งแต่เจ้าตัวย้ายก้นขาวๆ จาก แอตเลติโก มาดริด มาสวมเสื้อผ้าอาภรณ์สีฟ้าเมื่อปี 2011

          อเกวโร่กระทุ้งไปแล้ว 88 ลูก และตอนนี้ก็เป็นดาวซัลโวของทีมอีกด้วย (ในลีก 10 ประตู)