"ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ชี้การเสริมทัพ 3 แข้งดีกรีทีมชาติไทย ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ของ"กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นการช่วยยกระดับวงการฟุตบอลลีกของไทย ที่จะให้ทุกสโมสรเกิดการแข่งขันและพัฒนาศักยภาพของตัวเองมากขึ้น เพื่อมาสู้กันในอนาคต และเชื่อว่าจะส่งผลดีกับทีมชาติไทย หากลีกมีการแข่งขันที่สูงขึ้นก็ทำให้ทีมชาติแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นได้เช่นกัน ขณะเดียวกันยืนยันการเรียกตัวมารับใช้ทีมชาติจะต้องฟอร์มดีในลีก ซึ่งพร้อมเปิดโอกาสให้กับทุกคนอยู่แล้วแน่นอน

 จากกระแสการเสริมทัพของศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีกอย่าง "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เพิ่งจะคว้าตัว 3 ผู้เล่นคนสำคัญของทีมชาติไทยอย่าง "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์, "ตั้ม" ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ "บาส" พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ซึ่งถือว่าเป็นที่ฮือฮาไม่น้อย เนื่องจากทำให้ภายในทีม "กิเลนผยอง" อุดมไปด้วยผู้เล่นทีมชาติไทย ที่นอกจาก 3 แข้งข้างต้นแล้ว ก็ยังมีอาทิ สารัช อยู่เย็น, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ธีรศิลป์ แดงดา, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เป็นต้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวทาง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า ถือว่าเป็นอีกมิติของการแข่งขันในเชิงของลูกหนังที่ดีของการพัฒนาฟุตบอลลีกของเมืองไทย เพราะว่าจะทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงมากขึ้น เมื่อมีทีมหนึ่งมีนักเตะที่เป็นระดับทีมชาติมารวมตัวกันเยอะ ก็จะสามารถสู้กับทีมที่แข็งแกร่งในอดีตได้อย่างสนุกและสูสีมากขึ้นไปอีก

ขณะที่ทีมอื่นๆ จะต้องพยายามปรับตัวในการพัฒนาตัวเองทั้งการเสริมทัพ หรือการบริหารจัดการที่ดี ส่งผลให้เป็นการพัฒนาวงการฟุตบอลลีกบ้านเราไปในตัว แน่นอนว่าย่อมจะส่งผลให้ทีมชาติไทยมีความแข็งแกร่งตามไปด้วย อีกทั้งการเสริมทัพของแต่ละทีมยังเป็นการเพิ่มสีสันให้กับการแข่งขันอีกด้วย

ส่วนทีมที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ หรือไม่สามารถที่จะพัฒนาทีมได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในด้านต่างๆ ให้กับสโมสร ในอนาคตจะค่อยๆ โดนกลืนและร่วงตกชั้นไปตามระบบการแข่งขัน เพื่อกลับไปตั้งหลักใหม่ พัฒนาทีมขึ้นมาสู้ต่อในครั้งต่อๆ ไป

โดยจากการทีม "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่อุดมไปด้วยนักเตะทีมชาติไทยนั้น ทาง "ซิโก้" กุนซือใหญ่ของทีมชาติไทยก็เผยว่า ในภาพรวมถือว่าเป็นผลดีกับทีมชาติไทย เพราะทุกคนที่ได้เล่นร่วมกันทำให้เข้าใจและเข้าขารู้ใจกันมากขึ้นเมื่อลงสนาม โดยเฉพาะการเล่นในแดนกลางและแดนหน้า แต่อย่างไรก็ตามต้องอยู่ที่ความเหมาะสมในด้านอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

"แน่นอนว่ามองในมุมผลดีที่พวกเขาจะได้เล่นร่วมกัน โดยเฉพาะในแดนกลางที่จะมีทั้ง ชนาธิป, สารัช, ฐิติพันธ์ หรืออาจจะรวมถึงธนบูรณ์ ด้วยนั้น น่าจะทำให้พวกเขาเล่นกันอย่างรู้ใจมากขึ้น และน่าจะส่งผลให้ทีมชาติไทยมีความแข็งแกร่งขึ้นได้ แต่ทั้งนี้เราต้องมองกันในหลายๆ ด้านด้วย แต่อย่างไรผมในฐานะผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยก็จะพยายามหลอมทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อทีมชาติไทยอยู่แล้ว ไม่ว่ามาจากสโมสรใด เพราะนี่คือทีมชาติไทยต้องเล่นในระบบและทิศทางที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว"

กุนซือทีมชาติไทยยังเผยอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในการเรียกตัวผู้เล่นทีมชาติไทยนั้นต้องอยู่ที่ฟอร์มการเล่นของแต่ละคนในลีกด้วย รวมถึงผู้เล่นที่จะสามารถเข้ามาเล่นในระบบที่วางเอาไว้ ดังนั้นอาจจะไม่ใช่การเรียกตัวผู้เล่นสโมสรใดสโมสรหนึ่งมาแทบยกทีมแน่นอน เพราะที่ผ่านมาตนเองเปิดโอกาสให้กับทุกคนอยู่แล้วที่ฟอร์มดีในลีก เนื่องจากตนเองเคยเอ่ยเอาไว้เสมอว่า ทีมชาติไทยเป็นของทุกคน ดังนั้นหากใครที่เล่นดีก็มีสิทธิ์เท่ากัน เพราะตนเองและทุกคนหวังที่จะสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นกับทีมชาติไทย สร้างความภูมิใจใหักับแฟนบอลชาวไทย ดังนั้นทีมชาติไทยยังคงเปิดกว้างเสมอสำหรับคนที่โชว์ฟอร์มดีแน่นอน