ณ จุดๆนี้ เข้าสู่เซคชั่นสุดท้ายกับการก้าวไปเป็นแชมป์กันแล้ว ทาง เลสเตอร์ ซิตี้, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์, อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือสี่ทีมที่กำลังลุ้นเป็นเจ้าลีกตอนนี้ ว่าแต่ว่าโปรแกรมการแข่งขันที่เหลือ งานของสี่สหายจะหนักเบาแค่ไหน และมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะซิวถ้วยมาเถลิงบัลลังก์ มาติดตามกันได้เลย

         เลสเตอร์ ซิตี้ (25 นัด : 53 คะแนน)

โปรแกรมที่เหลือ
1. อา. 14 ก.พ. 2016 - อาร์เซนอล (เยือน)
2. ส. 27 ก.พ. 2016 - นอริช ซิตี้ (เหย้า)
3. อ. 1 มี.ค. 2016 - เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน (เหย้า)
4. ส. 5 มี.ค. 2016 - วัตฟอร์ด (เยือน)
5. จ. 14 มี.ค. 2016 - นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เหย้า)
6. ส. 19 มี.ค. 2016 - คริสตัล พาเลซ (เยือน)
7. ส. 2 เม.ษ. 2016 - เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า)
8. ส. 9 เม.ษ. 2016 - ซันเดอร์แลนด์ (เยือน)
9. ส. 16 เม.ษ. 2016 - เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เหย้า)
10. ส. 23 เม.ษ. 2016 - สวอนซี ซิตี้ (เหย้า)
11. ส. 30 เม.ษ. 2016 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เยือน)
12. ส. 7 พ.ค. 2016 - เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)
13. อา. 15 พ.ค. 2016 - เชลซี (เยือน)

บิ๊กแมตช์
1. อา. 14 ก.พ. 2016 - อาร์เซนอล (เยือน)
2. ส. 30 เม.ษ. 2016 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เยือน)
3. อา. 15 พ.ค. 2016 - เชลซี (เยือน)

         ทัพ "เดอะ ฟ็อกซ์" ได้เปรียบกว่าสามทีมที่เหลือคือ ไม่มีเกมบอลถ้วยมาทำให้เสียสมาธิ และแน่นอนปัจจัยหลักที่ทำให้บินสูงได้ขนาดนี้คือ เหล่าขุนพล 11 ตัวจริงแทบไม่ประสบพบเจออาการบาดเจ็บเลย และความเป็นทีมเวิร์ก การเข้าทำเกมรุกที่ไม่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพอย่างจงหนัก แม้จะมีฟอร์มหลุดเสมอบ้างบางเกม แต่พวกเขาก็กลับมาได้ตลอดในเกมถัดๆไป ซึ่งเกมในบ้านถือเป็นจุดแข็งของทีม และสิ่งที่ต้องระวังนั่นก็คือเกมนอกบ้านที่อาจจะไปหลุดเสมอหรือแพ้โดยไม่จำ เป็น และสามเกมสุดหินกับ อาร์เซนอล, แมนฯยูไนเต็ด และ เชลซี ก็เป็นเกมเยือนทั้งหมดเสียด้วย

         ถึงตอนนี้ เลสเตอร์ มีโอกาสมากที่สุดแล้วที่จะก้าวไปเป็นแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติ ศาสตร์สโมสร ถ้าพวกเขาประคองผลงานเกมนอกบ้านได้ แชมป์สมัยแรกก็ไม่หนีพวกเขาไปไหนแน่นอน

         ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ (25 นัด : 48 คะแนน)

โปรแกรมที่เหลือ
1. อา. 14 ก.พ. 2016 - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)
2. อา. 28 ก.พ. 2016 - สวอนซี ซิตี้ (เหย้า)
3. พ. 2 มี.ค. 2016 - เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เยือน)
4. ส. 5 มี.ค. 2016 - อาร์เซนอล (เหย้า)
5. ส. 12 มี.ค. 2016 - แอสตัน วิลล่า (เยือน)
6. ส. 19 มี.ค. 2016 - เอเอฟซี บอร์นมัธ (เหย้า)
7. ส. 2 เม.ษ. 2016 - ลิเวอร์พูล (เยือน)
8. ส. 9 เม.ษ. 2016 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า)
9. ส. 16 เม.ษ. 2016 - สโต๊ค ซิตี้ (เยือน)
10. ส. 23 เม.ษ. 2016 - เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน (เหย้า)
11. ส. 30 เม.ษ. 2016 - เชลซี (เยือน)
12. ส. 7 พ.ค. 2016 - เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า)
13. อา. 15 พ.ค. 2016 - นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เยือน)

บิ๊กแมตช์
1. อา. 14 ก.พ. 2016 - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)
2. ส. 5 มี.ค. 2016 - อาร์เซนอล (เหย้า)
3. ส. 9 เม.ษ. 2016 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า)

         พลังหนุ่มของ "คลับไก่" ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเหลือเกินในปีนี้ และมีโอกาสเช่นกันกับการฟาดแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอบครองได้เป็นสมัยแรกเช่น เดียวกัน หลังจากเปลี่ยนมาใช้ชื่อเป็น บาร์เคลย์ พรีเมียร์ลีก

         เช่นเดียวกันกับ เลสเตอร์ ที่ลูกทีมตัวหลักของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ไม่ค่อยบาดเจ็บกันบ่อยนัก ใช้นักเตะชุดเดิม ความเป็นทีมเวิร์กและความดุดันในการเล่นเกมรุก

 
         ปัญหาของ สเปอร์ส นั้นก็คือพวกเขาต้องทำศึก ยูโรป้า ลีก อีกรายการ หากเข้ารอบลึก อาจจะทำให้เหล่าแข้งเกิดอาการล้า และสมาธิหลุดได้ เนื่องจากอายุเฉลี่ยนักเตะนั้นน้อย ความนิ่งอาจจะยังไม่เสถียรเท่าที่ควร นั่นคือสิ่งที่ "พอช แอนด์ โค" ควรจะต้องระวังอย่างมาก หากจะยืนระยะลุ้นแชมป์จนถึงนัดสุดท้ายเอาไว้ให้ได้

         อาร์เซน่อล (25 นัด : 48 แต้ม)

โปรแกรมที่เหลือ
1. อา. 14 ก.พ. 2016 - เลสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า)
2. อา. 28 ก.พ. 2016 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เยือน)
3. พ. 2 มี.ค. 2016 - สวอนซี ซิตี้ (เหย้า)
4. ส. 5 มี.ค. 2016 - ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ (เยือน)
5. ส. 12 มี.ค. 2016 - เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน (เหย้า)
6. ส. 19 มี.ค. 2016 - เอฟเวอร์ตัน (เยือน)
7. ส. 2 เม.ษ. 2016 - วัตฟอร์ด (เหย้า)
8. ส. 9 เม.ษ. 2016 - เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เยือน)
9. ส. 16 เม.ษ. 2016 - คริสตัล พาเลซ (เหย้า)
10. ส. 23 เม.ษ. 2016 - ซันเดอร์แลนด์ (เยือน)
11. ส. 30 เม.ษ. 2016 - นอริช ซิตี้ (เหย้า)
12. ส. 7 พ.ค. 2016 - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)
13. อา. 15 พ.ค. 2016 - แอสตัน วิลล่า (เหย้า)

บิ๊กแมตช์
1. อา. 14 ก.พ. 2016 - เลสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า)
2. ส. 5 มี.ค. 2016 - ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ (เยือน)
3. ส. 7 พ.ค. 2016 - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)

         ปีนี้เป็นฤกษ์งามยามดีที่สุดแล้วที่ "เดอะ กันเนอร์ส" ต้องคว้าแชมป์ลีกให้ได้สถานเดียว

         ด้วยพลพรรคนักเตะที่นัดกันท็อปฟอร์มเหลือทั้ง ปีเตอร์ เช็ก, เฮคเตอร์ เบเยริน, เมซุต โอซิล และโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

         แต่ทว่ากลับมาช็อตในช่วงกลางเดือนมกราคมลากยาวมาถึงตอนนี้ มาหลุดเสมอซะเป็นส่วนใหญ่ และเพิ่งควานหาชัยชนะได้สำเร็จเกมบุกยิง บอร์นมัธ 2-0

         ทัพปืนโต ก็เป็นอีกทีมที่โปรแกรมค่อนข้างหนักพอตัว ไหนจะต้องกรำศึกหนักกับ บาร์เซโลน่า ในยูซีแอล และยังอยู่ในเส้นทางลุ้นป้องกันแชมป์ เอฟเอ คัพ เป็นสมัยที่ 3 อีก

 
         และลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมจอมแผ่วในช่วงท้ายฤดูกาลเสียด้วย พวกเขาต้องลบล้างปมตรงนี้ และก้าวไปเป็นแชมป์ลีกอีกครั้งในรอบ 12 ปีให้จงได้

 
         ไม่ได้แชมป์ปีนี้ แล้วจะได้ปีไหนจริงไหม แฟนปืน!

 
         แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (25 นัด : 47 คะแนน)

โปรแกรมที่เหลือ
1. อา. 14 ก.พ. 2016 - ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ (เหย้า)
2. พ. 2 มี.ค. 2016 - ลิเวอร์พูล (เยือน)
3. ส. 5 มี.ค. 2016 - แอสตัน วิลล่า (เหย้า)
4. ส. 12 มี.ค. 2016 - นอริช ซิตี้ (เยือน)
5. อา. 20 มี.ค. 2016 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า)
6. ส. 2 เม.ษ. 2016 - เอเอฟซี บอร์นมัธ (เยือน)
7. ส. 9 เม.ษ. 2016 - เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน (เหย้า)
8. ส. 16 เม.ษ. 2016 - เชลซี (เยือน)
9. ส. 23 เม.ษ. 2016 - สโต๊ค ซิตี้ (เหย้า)
10. ส. 30 เม.ษ. 2016 - เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน)
11. ส. 7 พ.ค. 2016 - อาร์เซนอล (เหย้า)
12. อา. 15 พ.ค. 2016 - สวอนซี ซิตี้ (เยือน)
*หมายเหตุ - เกมเจอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เยือน) ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากต้องเล่นเกมนัดชิงฯ แคปปิตอล วัน คัพ

บิ๊กแมตช์
1. อา. 14 ก.พ. 2016 - ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ (เหย้า)
2. อา. 20 มี.ค. 2016 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า)
3. ส. 7 พ.ค. 2016 - อาร์เซนอล (เหย้า)

         ถือว่าเป็นช่วงเวลาระส่ำเลยทีเดียวสำหรับ "ทัพเรือใบสีฟ้า" หลังเพิ่งเปิดบ้านโดน เลสเตอร์ ซิตี้ รัวยิงยับ 3-1

         ลูกทีมของ มานูเอล เปเยกรินี่ โปรแกรมชุกเหลือเกิน ไหนจะต้องทำศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย, นัดชิงดำ แคปปิตอล วันคัพ กับ ลิเวอร์พูล และเส้นทางใน เอฟเอ คัพ ที่โชคร้ายดันมาเจอ เชลซี เสียนี่

 
         แถมแข้งตัวหลักก็ดันมาเข้าโรงหมออีกทั้ง เควิน เดอ บรอยน์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, เอเลียควิม ม็องกาล่า, เฆซุส นาบาส รวมไปถึง ซามีร์ นาสรี่

 
         สิ่งที่ ซิตี้ ควรต้องทำต่อไปเลยคือ เปิดบ้านเอาชนะ สเปอร์ส ให้ได้ เพื่อตัดขาทีมจากลอนดอนไปในตัว ถ้าหากพวกเขาทำได้ ก็ยังจะอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ต่อไปอีก

 
         แมนฯซิตี้ มีประสบการณ์ตามหลังแล้วพลิกแซงนรกเป็นแชมป์ลีกมาแล้วเมื่อปี 2013/14 แฟนเรือใบหวังว่า ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีของพวกเขาในตอนนี้ เหล่าแข้งจะทำสิ่งนั้นได้อีกครั้ง...