เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป กลุ่มทุนเจ้าของทีม ลิเวอร์พูล ออกมาขอโทษ และระงับแผนขึ้นค่าตั๋วแล้ว เผยก่อนหน้านี้คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะขึ้นค่าตั๋วในอัฒจันทร์ฝั่งที่ทำขึ้นมาใหม่

 เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (เอฟเอสจี) กลุ่มทุนเจ้าของทีม ลิเวอร์พูล สโมสรชั้นนำแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวขอโทษแฟนบอลสำหรับแผนที่จะขึ้นค่าตั๋ว และประกาศว่าในอีก 2 ฤดูกาลต่อจากนี้ค่าตั๋วจะยังมีราคาเท่าเดิม

          "หงส์แดง" กลายเป็นข่าวใหญ่โตในช่วงที่ผ่านมาหลังประกาศจะขึ้นค่าตั๋วส่วนหนึ่งในฤดูกาลหน้า อาทิเช่น ในเกมระดับ เอ ซึ่งเป็นการเจอกับทีมใหญ่ๆ ที่ตั๋วจะมีราคาใบละ 77 ปอนด์ (ประมาณ 4,081 บาท) ซึ่งนั่นทำให้ "เดอะ ค็อป" ส่วนหนึ่งโมโหจนประท้วงด้วยการเดินออกจากสนามในนาทีที่ 77 ของเกมลีกนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ เสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ 2-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาราว 10,000 คนด้วยกัน

          จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ เจ้าของทีม, ทอม เวอร์เนอร์ ประธานบริหาร และ ไมค์ กอร์ดอน ประธาน ลิเวอร์พูล แถลงการณ์ร่วมกันว่า "เรา 3 คนรู้สึกไม่ดีที่ถูกเข้าใจผิดว่าเราไม่สนใจแฟนบอลของเรา, ถูกมองว่าเราโลภ และถูกมองว่าเราพยายามกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อแลกกับผลเสียของสโมสร ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย"

          "เราไม่เคยเอาเงินออกจากสโมสรแม้แต่เพนนีเดียว ในทางตรงกันข้าม เราใช้เงินของตัวเองไปเยอะเพื่อปรับปรุงขุมกำลังของทีม และทำให้โครงสร้างของ แอลเอฟซี มีความทันสมัย อย่างเช่นการที่ เอฟเอสจี ให้เงินล่วงหน้าไป 120 ล้านปอนด์เพื่อสร้าง เมน สแตนด์ อันใหม่"

          "ในด้านแผนการขึ้นค่าตั๋วนั้น ส่วนหนึ่งเราทำพลาด เราเสนอที่จะขึ้นราคาค่าตั๋วบางส่วน ซึ่งเป็นแผนเพิ่มเติมจากด้านอื่นๆ การกำหนดราคามันทำให้รายได้โดยรวมจากการขายตั๋วเพิ่มขึ้นจากที่นั่ง จีเอ แบบใหม่"

          "เราเชื่อว่าหลังจากทำที่นั่งที่ดีกว่าเดิมให้อัฒจันทร์แบบใหม่ของวงการฟุตบอลอังกฤษแล้วนั้น มันจึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะให้ความสำคัญกับการขึ้นค่าตั๋วในอัฒจันทร์ฝั่งนั้นในระดับที่แฟนๆ สามารถซื้อได้ รวมถึงเรื่องที่ว่า แอลเอฟซี ควรเริ่มคืนเงิน 120 ล้านปอนด์ที่ เอฟเอสจี จ่ายให้ล่วงหน้าเพื่อทำ เมน สแตนด์ อันใหม่ด้วย แม้ว่ารายได้ของทีมจะเพิ่มขึ้นจากสัญญาลิขสิทธิ์ทางทีวีอันใหม่ของ พรีเมียร์ลีก ก็ตาม อย่างไรก็ตาม การที่หลายฝ่ายคัดค้านแผนงานนี้ทำให้เราเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเราได้ทำผิดพลาดไปแล้ว" ผู้บริหารระดับสูงของ ลิเวอร์พูล ร่ายยาว